ต้องยอมรับว่าในขณะนี้โลกกำลังป่วยหนัก จากการระบาดของเชื้อโรคไวรัส Covid-19 หลายประเทศต้องปิดประตูตัวเองเพื่อปกป้องประชาชน และป้องกันการระบาดของเชื้อโรคอุบัติใหม่

เห็นได้ชัด ๆ คือ ยักษ์ใหญ่อเมริกาต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเมืองนิวยอร์กและอีกหลายเมือง เรือสำราญเกือบทั่วโลกหยุดให้บริการ สายการบินประกาศหยุดบินและปลดพนักงานจำนวนมาก แม้กระทั่งภูเขาเอเวอร์เรส ที่ไม่ค่อยมีคนไปเท่าไหร่ก็ยังต้องปิดพื้นที่ชั่วคราว

ประเทศไทยเองก็กำลังเผชิญปัญหานี้ด้วย มาตรการต่อสู้กับ Covid-19 ที่เริ่มต้นมาดีในช่วงแรก ๆ แต่ตอนนี้กำลังถูกตั้งคำถามจากสังคมเป็นวงกว้างว่า จะยังสามารถปกป้องประชาชนให้รอดพ้นจากโรคนี้ในระยะยาวได้หรือไม่

ข่าวชิ้นหนึ่งที่เกิดขึ้นในจังหวัดลพบุรีเมื่อเร็ว ๆ นี้คือ ฝูงลิงจำนวนมากแย่งชิงอาหารและต่อสู้กันอย่างดุเดือด กลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจจากสื่อใหญ่ ๆ ทั่วโลก สะท้อนให้เห็นว่าลิงเหล่านี้กำลังหิวกระหายอย่างหนัก จะเรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ Hungry monkey ก็ว่าได้

Hungry monkey คือสิ่งที่เป็นผลกระทบมาจากการระบาดของเชื้อโรคอุบัติใหม่นี้ เมื่อเกิดโรคระบาดทำให้ประชาชนต้องเฝ้าระวังตัวเอง หยุดการเดินทางไปในที่ที่มีคนจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ นั่นเอง ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก ก็ไม่ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วงนี้ ยิ่งทำให้แหล่งท่องเที่ยวซบเซาหนักขึ้นไปอีก เมื่อไม่มีคนไปท่องเที่ยว สินค้าต่าง ๆ ก็ขายไม่ได้ รวมทั้งอาหารของลิงเหล่านี้ เมื่อลิงไม่ได้กินอาหารก็ต้องดิ้นรนแย่งชิงกันเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง

หากขยายผลให้เห็นภาพใหญ่ขึ้นก็จะพบว่า โรงแรมหลายแห่งประกาศปิดชั่วคราวหรือปิดถาวรไปเรียบร้อยแล้ว ในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวสำคัญสำคัญ ๆ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านราชประสงค์ก็ปิดตัวเองลง

ผลกระทบในระดับโลกก็มีให้เห็น เช่น การยกเลิกงานใหญ่ ๆ ทั้งในประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี อเมริกา อิตาลี และอังกฤษ เป็นต้น

นี่ไม่นับรวมธุรกิจอื่น ๆ ที่ต้องล้มไม่เป็นท่า เช่น นักบินที่ได้ชื่อว่าเป็นอาชีพเฉพาะทางต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญถึงวันนี้ก็ต้องตกงาน ขณะที่ดารา ศิลปิน นักกีฬา ผู้นำศาสนา และผู้นำทั่วโลกจำนวนหนึ่งก็ตกเป็นเหยื่อไวรัสตัวนี้ไปเรียบร้อยแล้ว แม้แต่อาชีพฟรีแลนซ์อย่าง influencer เกี่ยวกับการเดินทางและการท่องเที่ยวก็ต้องตกงานในช่วงนี้อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

กลับมาที่ลพบุรีดูปรากฏการณ์ Hungry Monkey ปรากฏการณ์นี้น่าจะสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการแก้ปัญหา ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของเชื้อโรคไวรัส Covid-19 ตัวนี้ หากยังไม่สามารถแก้ไขได้โดยเร็ว อาจจะเกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้กับบรรดาสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่เคยเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว  เช่น ปางช้าง ฟาร์มแกะ ฟาร์มวัวเพื่อการท่องเที่ยว คาเฟ่แมว แหล่งเพาะพันธุ์ปลาสวยงาม คลีนิคสัตว์เลี้ยง หรือธุรกิจต่อเนื่่องอื่น ๆ อีกมากมาย

หากธุรกิจเหล่านี้ไม่มีลูกค้าธุรกิจก็อยู่ไม่ได้  สัตว์ต่าง ๆ ก็ต้องพลอยรับกรรมไปด้วย แล้วถ้าเป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีอยู่ทั่วประเทศจะรับมืออย่างไรต่อไป เพราะสัตว์บางชนิดเป็นสัตว์สงวนมีอยู่ไม่กี่ตัวบนโลกใบนี้ อาจจะต้องถึงคราวสาบสูญไปจริง ๆ ก็ได้

ยิ่งกว่านั้นหากสัตว์ต่าง ๆ ต้องล้มป่วยลงจากการขาดสารอาหาร อาจนำไปสู่การเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ และสุดท้ายก็แพร่เข้าสู่ผู้คนก็เป็นได้

อย่างไรก็ดี ปัญหาความอดอยากของสัตว์ต่าง ๆ อาจไม่สำคัญเท่ากับชีวิตมนุษย์ แต่ความอดอยากของมนุษย์มีความสำคัญต่อสัตว์ต่าง ๆ หมายความว่าหากมีทั้งคนและสัตว์อยู่ร่วมกันจะทำให้สังคมมีความสมบูรณ์มากขึ้น

เพื่อแก้ปัญหานี้ มีทางออกที่น่าจะได้ผลเร็วที่สุดทางหนึ่ง คือ การส่งเสริมให้คนในประเทศไปท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ที่มีสัตว์เลี้ยงเหล่านี้อยู่ เพื่อให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ไม่อดอยาจนเกินไป แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องการแพร่ระหว่างสัตว์กับคนให้ดี หรืออีกทางหนึ่งก็ต้องปิดสถานที่ที่มีสัตว์ต่าง ๆ เหล่านี้ แล้วดูแลด้วยระบบปิดเป็นอย่างดี แต่ก็ต้องดูอีกว่าผู้ประกอบการจะเห็นด้วยหรือไม่ หรือจะมีแนวทางอื่นที่ดีกว่า

*** ล่าสุดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ประสานไปยังองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อขอความร่วมมือปิดสวนสัตว์ที่อยู่ในความดูแลเบื้องต้นเป็นเวลา 14 วันแล้ว

 

หากใช้วิธีแรก สำหรับคนทั่วไปที่อาจจะยังไม่มีกำลังซื้อเพียงพอในระยะนี้ก็ช่วยเท่าที่ทำได้ ส่วนหน่วยงานรัฐที่มีงบประมาณแผ่นดิน ก็จัดสรรงบประมาณให้ข้าราชการและพนักงาน ได้ท่องเที่ยวบ้างก็ดี

ที่สำคัญที่สุดคือ จะต้องหยุดการระบาดเชื้อไวรัส Cvovid-19 ให้ได้เร็วที่สุด หากไม่สามารถทำได้ ชีวิตของคนและสัตว์ก็อาจจะตกอยู่ในสภาวะที่ไม่แตกต่างกัน

 

Category:

Passion in this story