Categories: WISDOM

Keep ทีมงานให้อยู่ต่อ ผู้นำต้องมี EI

5 / 5 ( 2 votes )

ถ้าเลือกได้ ทุกคนคงอยากทำงานกับคนที่ พูดรู้เรื่อง มีวุฒิภาวะ รับฟังเหตุผล แต่หลายๆ องค์กรก็เสียคนทำงานดีๆ ไปแบบไม่น่าจะเสียเพียงเพราะ “ผู้นำ” ขาด “ความฉลาดทางอารมณ์”

Richard Trevino ที่ปรึกษา ผู้ให้คำแนะนำแก่องค์กรต่างๆ ในการสร้างภาวะผู้นำแก่บุคลากรในองค์กร รวมถึง ซอฟท์สกิลล์ด้านต่างๆ บอกว่า Emotional Intelligence หรือ ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่องค์กรต้องใส่ใจพัฒนาให้เกิดขึ้นในตัวบุคลากร โดยเฉพาะในระดับผู้บริหาร และผู้จัดการ เพราะผู้นำที่มีความฉลาดทางอารมณ์ จะทำให้องค์กรสามารถเก็บรักษาพนักงานที่มีคุณภาพให้ทำงานกับองค์กรไปได้นานๆ

ภาพประกอบจาก pexels.com

ความฉลาดทางอารมณ์สำคัญอย่างไร

ความฉลาดทางอารมณ์ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จต่อการใช้ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็เป็นหัวข้อที่ผู้จัดการ และผู้นำในองค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญพูดถึง และพยายามพัฒนาปรับปรุง ความฉลาดทางอารมณ์ของตนเอง

คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ จะ เข้าใจตนเอง สามารถจัดการตนเองได้เหมาะสม รวมถึง บริหารความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความฉลาดทางอารมณ์ส่งผลต่อการทำงาน และความสำเร็จในการรักษาลูกค้าให้ยังภักดีกับองค์กรต่อไป เพิ่มยอดขายให้สูงขึ้น ส่งเสริมภาวะผู้นำในองค์กร เอื้อต่อการบริหารจัดการภายในและประเด็นอื่นๆ

ทั้งนี้ ความฉลาดทางอารมณ์สามารถแยกเป็นสององค์ประกอบหลักคือ การรู้จัก เข้าใจ อารมณ์ตนเอง และรับรู้ เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของคนรอบข้าง

ภาพประกอบจาก pexels.com

รู้จักตนเอง

การรู้จักตนเอง หรือเข้าใจตนเอง ก็คือ การที่เรารู้อารมณ์ของตัวเอง และรู้ว่า ควรแสดงออกต่อสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างไร คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะสามารถพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้ด้วย และหากอยากเข้าใจว่าตนเองเป็นคนแบบไหน มีบุคลิกอย่างไร Trevino ก็ได้แนะนำให้ลองทำแบบทดสอบที่ชื่อว่า Myer-Briggs Type Indicator

เขายังบอกว่า หากเรา รู้จักตนเอง เราจะมีปฎิกริยาที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น เข้าใจได้ว่าอะไรคือสาเหตุให้เรารู้สึกแบบนั้น และยับยั้งตนเองให้แสดงออกอย่างเหมาะสมแบบคนมีวุฒิภาวะ รู้ว่าตนเองกำลังโกรธ หรือหงุดหงิด และตัดสินใจเลือกได้ถูกต้องว่า ควรสงบนิ่งแม้ในใจจะพลุ่งพล่านแค่ไหนก็ตามเพื่อไม่ให้สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเลวร้ายลงกว่าเดิม หรือหากมีใครวิพากษ์วิจารณ์ก็สามารถยอมรับได้ทั้ง “ก้อนหิน” และ “ดอกไม้” และนำคำวิจารณ์เหล่านั้น มาพัฒนา ปรับปรุงตนเอง เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้

ภาพประกอบจาก pexels.com

ที่สำคัญ การตระหนักรู้ในตนเอง ยังทำให้เราสามารถ “สื่อสาร” ได้ดีขึ้น เพราะเราสามารถควบคุมตัวเองได้ว่า ควรมีปฎิกริยาต่อสถานการณ์และผู้คนอย่างไร รวมถึงสามารถหลีกเหลี่ยงข้อขัดแย้งที่ไม่จำเป็นในที่ทำงาน หรือแม้แต่ในชีวิตส่วนตัวได้ เช่น แทนที่จะตะโกนระเบิดอารมณ์ออกไป หรือมีฉากทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น เมื่อรู้ตัวว่า กำลัง “เดือด” หรือ “หงุดหงิด”  เราจะเริ่มสั่งตัวเองให้หายใจลึกๆ ยาวๆ และจัดการกับปัญหาหรือเรื่องนั้นๆ อย่างสงบ เท่านี้ ก็ทำให้เราหลุดพ้นการเพิ่มความรุนแรงให้สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั้น

ภาพประกอบจาก pexels.com

รู้จัก เข้าใจสังคมและคนอื่นๆ

การตระหนักถึงสังคม หมายถึง การมีความสามารถที่จะเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้ หรืออีกนัยคือ รับรู้ เข้าใจ ความรู้สึก และอารมณ์ของคนอื่นๆ รวมถึง ยังเต็มใจที่จะเคารพ มุมมองความคิดของคนอื่นๆ การตระหนักรู้สังคม ยังหมายรวมถึงการซื่อสัตย์ และมีความเคารพ นับถือผู้อื่น

หากคุณรู้ว่า คนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวคุณจะมีปฎิกริยา หรือจะแสดงออกอย่างไร ก็จะทำให้คุณเตรียมรับมือกับปฎิกริยาเหล่านั้นได้ เช่น ในฐานะที่เป็นผู้จัดการหรือผู้นำ คุณอาจจะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในองค์กร และคุณก็ประเมินได้ว่า น่าจะมีพนักงานบางคนมีปฏิกริยาทางลบต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ คุณจึงวางแผนไว้ล่วงหน้า เพื่อให้พนักงานได้รับรู้ว่า ข้อกังวลของพวกเขาได้รับการวางแผนจัดการแล้ว ทำแบบนี้ ก็จะช่วยป้องกันความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาถึง นี่เอง

และเช่นเดียวกับการรู้จัก เข้าใจตนเอง เมื่อคุณตระหนักรู้ในสังคม และคนรอบตัว คุณก็จะสามารถเพิ่มพูนความสามารถในการสื่อสารให้ดีขึ้นได้ ไม่เพียงแต่ในแวดวงการทำงาน แต่ยังรวมถึงการสื่อสารในชีวิตประจำวันด้วยเช่นกัน

ภาพประกอบจาก pexels.com

หากอยากพัฒนาความสามารถในการรู้จัก เข้าใจสังคมและคนรอบตัว ก็ต้องหัดฝึกสังเกตคนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวให้มากๆ  จดบันทึกว่า อะไรทำให้เขาเหล่านั้นแสดงออกอย่างที่เป็น เราจับสังเกตได้จากสัญญาณบางอย่างที่เขาแสดงออกในขณะที่อารมณ์กำลังร้อนแรง เช่น คนส่วนใหญ่จะหายใจแรงขึ้นเมื่อรู้สึกโกรธ บางคนก็หน้าแดง บางคนก็ทำหน้าผากย่น เลิกคิ้ว เป็นต้น สัญญาณเหล่านี้ สะท้อนว่า เขากำลังจะมีปฎิกริยาลบกับคำพูด หรือการกระทำ หรือกับบางสถานการณ์ที่คุณมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

เมื่อรู้ จับสัญญาณเหล่านี้ได้ คุณก็จะสามารถจัดการบางอย่างได้ เพื่อให้แน่ใจว่า สถานการณ์ หรืออารมณ์ของพวกเขาจะไม่พุ่งขึ้นไปกว่านี้ หรือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น จะไม่ร้อนแรงกว่าที่กำลังเป็น เพราะคุณได้ดับอารมณ์ หรือทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายไปแล้ว ไม่มากก็น้อย ก่อนที่จะถึงจุดเดือดทางอารมณ์ของพวกเขา

หากผู้จัดการ หรือผู้นำในองค์กร สามารถพัฒนาปรับปรุงความฉลาดทางอารมณ์ของตนเองก็หมายถึง สามารถพัฒนาปฎิกริยากับคนทำงานร่วมกันในแต่ละวันให้ดีขึ้นได้

มีประโยชน์มากมาย จากการเป็นคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ หนึ่งในนั้น คือ ทำให้เรารักษาทีมงานคุณภาพให้ยังอยู่กับองค์กรต่อไปได้ ทำให้เราสามารถรวมกลุ่มคนทำงานให้ทำงานให้ดียิ่งขึ้นเพื่อการบรรลุเป้าหมายที่มีร่วมกัน ความฉลาดทางอารมณ์ ยังเอื้อให้เราเข้าใจว่า เขาจะมีการตอบสนองทางอารมณ์อย่างไร  รวมถึงทำให้เรารู้ว่า ควรจะส่งสาร หรือโน้มน้าวเขาด้วยถ้อยคำแบบไหนเพื่อให้เขาทุ่มเททำงานหนักขึ้น ที่สำคัญ การตระหนักรู้ในตนเองและสังคม ยังช่วยให้เราบริหารความสัม พันธ์ระหว่างบุคคลได้ดีขึ้น ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพไม่ว่าจะเป็นชีวิตงาน หรือชีวิตส่วนตัว

6 วิธีง่ายๆ เพิ่มพูน “ความฉลาดทางอารมณ์”

คิดบวก / จัดการความเครียดอย่างดี / ให้ความสำคัญกับภาษาท่าทาง / มีการจัดการกับความขัดแย้งอย่างเป็นรูปธรรม /เลือกใช้คำพูดอย่างเหมาะสม / และให้อภัยพร้อมกับแก้ไขข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นด้วยสันติวิธี

6 ข้อเสียของการขาด “ความฉลาดทางอารมณ์”

ความสัมพันธ์ภายในองค์กรย่ำแย่ / สูญเสียพลังงานอย่างไม่เหมาะสม / ก่อให้เกิดความขัดแย้ง /  ผู้นำที่ขาดความฉลาดทางอารมณ์อาจเป็นบ่อเกิดของปัญหาภายในองค์กรเสียเอง / เมื่อต้องเสียพลังงานไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องก็เท่ากับเราลดโอกาสสร้างผลิตภาพการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ  และลดทอนการมีส่วนร่วมของทีมงาน


Sources
- Increase employee retention by upping your leadership EQ : entrepreneur.com
- Why emotional intelligence is crucial for success : entrepreneur.com

 

อภินัทธ์ เชงสันติสุข

เด็กหนุ่มที่กำลังเรียนรู้ชีวิตและถูกเฆี่ยนตีด้วยความเป็นผู้ใหญ่

Recent Posts

Young SME หลักสูตรสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ชู Soft Power เสริมสร้างธุรกิจยั่งยืน

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…

6 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดธุรกิจยุคใหม่ กับ มุมมองด้านความยั่งยืน

บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…

9 months ago

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล “ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี” จากงาน DG Awards 2023

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…

10 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์แบรนด์ สไตล์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…

10 months ago

พิธีปิดการอบรมหลักสูตร SML รุ่นที่ 4 ปี2566

พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…

1 year ago

เมื่อสูงวัยต้องไปทำฟัน

ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…

1 year ago

This website uses cookies.