ถ้าไม่เปลี่ยนตัวเอง โลกจะมาเปลี่ยนเรา 50% ของพนักงานจะต้อง Reskill ตัวเองภายใน 5 ปี

เคยได้ยินกันไหมว่า “ถ้ำเราไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง โลกจะมาเปลี่ยนเรา”

เพราะในยุคปัจจุบัน ถ้าใครตามไม่ทันโลก ก็จะถูกทิ้งไว้ท้ายแถว มนุษย์ออฟฟิศและคนทำงานก็เหมือนกัน พวกเขาและเธอกำลังเผชิญความท้าทายเรื่องนี้อย่างมาก

ศาสตราจารย์ Klaus Schwab ออกมาเตือนว่าพนักงานมีเวลาไม่มากนัก ในการที่จะพัฒนาตัวเอง หรือยกระดับความสามารถของตัวเอง ให้ได้ตามความต้องการของนายจ้าง

“50% ของพนักงานจะต้อง Reskill ตัวเองภายใน 5 ปีข้างหน้า บางคนอาจจะเร็วกว่านั้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตัวเองให้อยู่รอดให้ได้” ศาสตราจารย์ Schwab ส่งสัญญาณเตือน ในระหว่างการประชุมประจำปี World Economic Forum (WEF) เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ข้อมูลจาก The Jobs Reset Summit ระบุว่าเหตุผลที่พนักงานต้องมีทักษะใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เพราะมีการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นนั้นเอง

ขณะที่นายจ้างทั่วโลกก็เทใจไปให้กับเจ้าเทคโนโลยีหรือหุ่นยนต์ เพราะสามารถทำงานได้ทั้งวัน ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และอาจมีค่าตัวเฉลี่ยถูกกว่าการจ้างคนเสียอีก

ผลการสำรวจเกี่ยวกับอนาคตของพนักงาน พบว่าประมาณ 40% ของพนักงานทั้งหมด ต้องได้รับการยกระดับทักษะใหม่ ๆ ภายในระยะเวลา 6 เดือน หรือน้อยกว่านั้น ขณะที่ 50% จำเป็นต้องทบทวนทักษะตัวเองภายในอีก 5 ปีข้างหน้า

สำหรับหนุ่มสาวที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดแรงงาน ก็ต้องมีการพัฒนาตัวเองด้วย แม้ว่าพวกเขามีศักยภาพสูงในด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่ก่อนแล้วก็ตาม

“เราสามารถใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยียุคปัจจุบัน มาใช้ประโยชน์เพื่อเสริมศักยภาพของมนุษย์ได้” ศาสตราจารย์ Schwab กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีการประเมินว่าภายในปี 2525 อาจมีการโยกย้ายงานมากถึง 85 ล้านตำแหน่ง เนื่องจากมีการแบ่งงานกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร พูดง่าย ๆ คือ เครื่องจักรกำลังแย่งงานจากมนุษย์นั่นเอง

ที่ซับซ้อนกว่านั้นคือ อาจมีงานอีก 97 ล้านตำแหน่ง ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการแบ่งงานใหม่ระหว่าง มนุษย์ เครื่องจักร และอัลกอริทึมของระบบเทคโนโลยี

ขณะที่ข้อมูลจากเครือข่ายแหล่งหางานอย่าง LinkedIn และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ที่มีชื่อว่า Coursera ชี้ว่าระบบคอมพิวเตอร์จะเรียนรู้ความเคลื่อนไหวของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงในเรื่องงาน การคาดเดาสิ่งที่มนุษย์ต้องการ และจะนำเสนองานที่เหมาะสมให้

สายงานบางประเภทหรือบางทักษะที่ไม่เคยมีมาก่อน จะกลายเป็นงานเพาะทางที่จำเป็นสำหรับในอนาคต สิ่งเหล่านี้เกิดการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น และคอมพิวเตอร์ก็จะเลือกคนที่มีความพร้อม ไปส่งต่อไปให้องค์กรต่าง ๆ ต่อไป

ส่วนกลุ่มนายจ้างทั้งหลาย ตอนนี้ก็ต้องทบทวนความสามารถของตัวเองด้วย โดยเฉพาะในเรื่องการรับมือปัญหาและการแก้ปัญหา กลุ่มนายจ้างเหล่านี้จะต้องปรับตัวภายในอีก 5 ปีข้างหน้าเช่นกัน

ผู้บริหารธุรกิจส่วนใหญ่หรือ 94% คาดหวังให้พนักงานมีการเพิ่มทักษะใหม่ ๆ ในการทำงานของตัวเอง เป็นระดับความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นจากตัวเลข 65% ในปี 2561

ทั้งนี้ แม้ว่า 40% ของคนงานต้องมีทักษะใหม่ภายใน 6 เดือนหรือน้อยกว่านั้น แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมผู้บริโภค อุตสาหกรรมด้านสุขภาพ และการดูแลสุขภาพ อาจจะใช้เวลานานกว่านั้น

Coursera ชี้ว่าการระบาดของเชื้อโรค ทำให้ธุรกิจการค้าขายต่อออนไลน์ขยายตัว 4 เท่าตัว เฉพาะช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนปีนี้ พบว่าคนจำนวนมากมองหาโอกาสสร้างธุรกิจส่วนตัวจากออนไลน์

ส่วนองค์กรธุรกิจ ก็เปิดโอกาสให้พนักงานได้เรียนรู้ทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 5 เท่า ทำให้มีการลงทะเบียนเรียนเพิ่มขึ้นเป็น 9 เท่า ใช้เวลาเรียนหรือเพิ่มทักษะแต่ละเรื่องประมาณ 1-2 เดือน

ในเมืองไทย ขณะนี้คาดว่ามีคนตกงานอยู่รวมกันประมาณ 7-8 แสนคน ไม่รวมเด็กที่เพิ่งเรียนจบอีก 3-4 แสนคน แต่ความต้องการแรงงงานมีน้อยนิด ถ้าใครไม่มีศักยภาพก็อาจจะต้องเดินอยู่ปลายแถว 

ถึงเวลาแล้วที่จะอัพเกรดตัวเอง เพราะถ้าไม่เปลี่ยนตัวเอง โลกจะมาเปลี่ยนเรา