100 วิสัยทัศน์นักธุรกิจระดับโลก – ประสบการณ์จากตำนานมีชีวิต

4.2 / 5 ( 34 votes )

ผู้ประกอบการ ผู้มีวิสัยทัศน์ และนักคิดแถวหน้าของโลก 100 คน แบ่งปันแนวคิดและบทเรียนแห่งความสำเร็จ สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ใน “ฟอร์บส์” ฉบับพิเศษเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อฉลองวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งนิตยสารด้านธุรกิจ-การเงินชื่อดังของสหรัฐฉบับนี้ซึ่งยังไม่มีทีท่าจะอำลาวงการ

ทุกความสำเร็จ เริ่มต้นที่วิสัยทัศน์

ในบรรดาคนดังหลากหลายที่ได้ร่วมถ่ายทอดมุมมองชีวิตและธุรกิจซึ่งคนรุ่นหลังสามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นเพื่อนำทางชีวิตสู่เป้าหมายนั้น รวมถึงนักธุรกิจไทย 2 รายผู้ได้รับยกย่องในระดับโลกว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก คือ ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส กลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ และ เจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ประกอบการรายใหญ่ในเอเชียและประธานกรรมการบริหารหลายบริษัท อาทิ บริษัทไทยเบฟเวอร์เรจจำกัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัทสุรามหาราษฎร จำกัด

ธนินท์ ได้กล่าวถึงแนวคิดเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักการความเป็นหนุ่มเป็นสาวเสมอ ว่า อุตสาหกรรมแต่ละประเภทมีอายุขัยแตกต่างกัน และปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่คนรุ่นใหม่ให้นิยามใหม่ของการตลาดว่า “สตาร์ทอัพ เทคโนโลยี และนวัตกรรม”

ในโลกใหม่ ทุกสิ่งเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จของคนวันนี้ มาจากการเป็นผู้นำนวัตกรรมและการสร้าง การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน พวกเขาได้สร้างสรรค์บางสิ่งบางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ธนินท์ เสนอว่า วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เรายังยืนอยู่ในแถวหน้าได้คือการเรียนรู้จากคนรุ่นใหม่ ๆ เมื่อเปรียบเทียบความรู้และกระบวนคิดของคนที่เติบโตมากับยุคอุตสาหกรรม 3.0 ซึ่งคอมพิวเตอร์เป็นของใหม่ กับยุคอุตสาหกรรม 4.0 ที่หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์กำลังปฎิวัติ กระบวนการผลิตไปสู่วิถีที่แตกต่างอย่างมาก เราจะเห็นว่าคนรุ่นใหม่จะนำเราไปสู่นวัตกรรมใหม่ และหนทางในการพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยคิด หรือจินตนาการถึงมาก่อนเลย

“ภรรยาของผมมักกล่าวกับผมเสมอเกี่ยวกับความจริงของชีวิต 4 ประการ นั่นคือ สุขภาพเป็นของเรา เงินทองเป็นของคนอื่น อำนาจเป็นของชั่วคราวและชื่อเสียงเป็นสิ่งนิรันดร์ และนี่คือเหตุผลที่ผมสอนลูกๆ ให้หาจุดสมดุลระหว่างการทำงานเพื่อสร้างธุรกิจและการรักษาสุขภาพที่ดีของตนเอง” เจริญกล่าว

ขณะที่เจริญ สิริวัฒนภักดี กล่าวย้ำถึงความสำคัญของการหาจุดสมดุลระหว่างการทำงานเพื่อสร้างธุรกิจและการรักษาสุขภาพ  เจริญเล่าว่าเมื่อครั้งเป็นเด็ก เขาเคยเห็นพ่อแม่เตรียมร้านเพื่อขายก๋วยเตี๋ยวผัดไท ตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจนหลังเที่ยงคืน แต่แม้จะยุ่งกับการทำงานเพียงใด ทั้งพ่อและแม่ก็ยังมีเวลามาอบรมสั่งสอนลูกๆ 11 คนให้ขยัน มีความรับผิดชอบ และกตัญญูต่อผู้ที่ให้ความช่วยเหลือและดูแลครอบครัว

“หากผมย้อนเวลากลับไปได้ ผมอยากจะสร้างสมดุลให้กับชีวิต เพราะเชื่อว่าจะทำได้ดีกว่าที่ผ่านมาด้วยการทุ่มเทเวลาเพื่อการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิต” – เจริญ สิริวัฒนภักดี

ทางด้านนักธุรกิจต่างชาติผู้มีธุรกิจที่ส่งอิทธิพลต่อการรับรู้ข่าวสารของคนวันนี้อย่างมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้เชื่อมโยงคนทั้งโลกด้วยเฟซบุ๊กที่เขาร่วมก่อตั้ง กล่าวว่าหลังจากเริ่มก่อตั้งเฟซบุ๊กได้ประมาณ 2 ปี  มีบริษัทใหญ่บางรายต้องการเข้าซื้อกิจการและผู้ร่วมก่อตั้งเกือบทุกคนก็ต้องการขาย ซึ่งตรงข้ามกับความคิดของเขาความคิดต่างระหว่างหุ้นส่วนทำให้บริษัทต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทีมบริหารแยกย้ายกันไปคนละทาง ซึ่งทำให้เขาตระหนักในที่สุดว่า แท้จริงแล้วต้องทำเป้าหมายของเราให้กลายเป็นเป้าหมายของคนอื่นๆ ด้วย


เจฟฟ์ เบโซสผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์แอมะซอน หรือวอลมาร์ตแห่งศตวรรษที่ 21 กล่าวว่าเรากำลังอยู่ท่ามกลางยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ลูกค้ามีอำนาจอย่างไม่น่าเชื่อ อันเป็นผลมาจากค่านิยมเรื่องความโปร่งใสในการทำธุรกิจและอิทธิพลของคำพูดแบบปากต่อปาก


ขณะที่ มูฮัมหมัด ยูนูส บิดาแห่งแนวคิด “ไมโครเครดิต” หรือการให้กู้ยืมเงินรายย่อยโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการยากจนและผู้ก่อตั้ง ธนาคารกรามีน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี พ.ศ. 2549  กล่าวว่าทุนนิยมถูกนิยามว่าตั้งอยู่บนพื้นฐานของความละโมบ แต่ในขณะที่มนุษย์มีพฤติกรรมเห็นแก่ตัว พวกเขาก็ยังมีพฤติกรรมที่ไม่เห็นแก่ตัวด้วยเช่นกัน ซึ่งน่าคิดว่าเหตุใดพฤติกรรมไม่เห็นแก่ตัวดังกล่าวจึงแยกออกจากการตีความข้างต้น

ยูนูสย้ำว่าเรากำลังจะได้เห็นธุรกิจเพื่อสังคมมากขึ้น โดยกิจการเหล่านี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแก้ไขปัญหาบางประการ มากกว่าที่จะมุ่งเป้าสร้างรายได้ ซึ่งแนวคิดนี้และกิจการลักษณะนี้ได้ปรากฎขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ทั่วโลก ในธุรกิจเพื่อสังคมนั้นกำไรจะถูกนำมาหมุนเวียนภายในบริษัทเพื่อแก้ไขปัญหา ผู้ลงทุนจะยอมจ่ายโดยไม่รับสิ่งใดเว้นแต่ความสนุกกับสิ่งที่ได้ลงมือทำ การทำเงินได้เป็นความสุขก็จริง แต่การทำให้ผู้อื่นมีความสุข เป็นความสุขยิ่งกว่า


จากแนวคิดของผู้นำธุรกิจบางส่วนที่สรุปมาข้างต้น ชี้ให้เห็นว่า สำหรับ “ธุรกิจยุคใหม่” นั้น ไม่สามารถคำนึงถึงแต่เพียงผลกำไรของผู้ประกอบการ หากยังต้องคำนึงถึงสังคมและพฤติกรรมที่แท้จริง รวมถึงอำนาจของผู้บริโภค หากขาดปัจจัยข้อหนึ่งข้อใดไปแล้ว ธุรกิจนั้นๆ อาจกลายเป็นธุรกิจตกยุคและประสบความล้มเหลวในที่สุด

ที่สำคัญคือ หากผู้นำธุรกิจเป็น “ผู้มีวิสัยทัศน์” มองเห็นภาพและโอกาสในอนาคตที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายซึ่งคนอื่นยังมองไม่เห็น ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการย่อมสบายใจที่จะร่วมใช้ชีวิตอุดหนุนสินค้าและบริการของธุรกิจเหล่านั้น เพื่อการเติบโตร่วมกันไปในยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง

คลิกเลย! แนะนำบทความน่าอ่าน

หนังสือดีบอกต่อ 20 คัมภีย์เพื่อธุรกิจ การลงทุนและการพัฒนาตัวเอง

หนังสือดีบอกต่อ: 20 คัมภีร์เพื่อธุรกิจ การลงทุน และการพัฒนาตัวเอง – อ้างอิง Finnomena.com
  1. How to win friends and influence people โดย Dale Carnegie – ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสื่อสาร การเป็นผู้นำและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความพิเศษของหนังสือเล่มนี้คือ เป็นหนังสือที่ Warren Buffett อ่านแล้วถึงขั้นไปเข้าคอร์ส Dale Carnegie Training เองเลย และเป็นใบประกาศณียบัตรเพียงฉบับเดียวที่ Warren มี
  1. Made in America โดย Sam Walton – เจ้าของ Walmart ได้เขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อให้คุณได้เห็นถึงกลยุทธ์ มุมมอง วิธีคิดของตัวเองในการสร้างธุรกิจยักษ์ใหญ่
  1. Built to last โดย Jim Collins – เกี่ยวกับการที่บริษัทจะสามารถรักษาความได้เปรียบของตัวเอง และสามารถคงทนต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีตัวอย่างบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกที่เรารู้จักกันดีมา 18 บริษัทเพื่อเป็นกรณีศึกษา
  1. Zero to on โดย Peter Thiel – เป็นหนังสือเน้นเรื่องมุมมองแนวคิดใหม่ ๆ และนวัตกรรม โดยหนังสือได้ตั้งคำถามว่าเราจะสามารถสร้างสิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างไร และอะไรคือความแตกต่างระหว่างการคิดค้นต่อจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว กับสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน
  1. The intelligent investor โดย Benjamin Graham – ผู้เขียนเป็นปรมาจารย์ด้านการลงทุนเน้นคุณค่าและยังเป็นอาจารย์ที่มีอิทธิพลต่อ Warren Buffett มาก ถือได้ว่าเป็นไบเบิลด้านการลงทุนที่ได้รับความนิยมที่สุด โดยจะกล่าวถึงทัศนคติการลงทุน กลยุทธ์ มุมมอง นโยบาย และกรณีศึกษามากมาย
“ผมรู้มาตลอดว่าสักวันนึงผมจะรวย และไม่เคยสงสัยเลยแม้แต่นาทีเดียว” วอร์เรน บัฟเฟตต์

  1. Good to great โดย Jim Collins – หนังสือที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ประสบความสำเร็จระยะยาวได้อย่างไร แล้วถ้าบริษัทไม่ได้มีพื้นฐานที่แกร่งตั้งแต่แรกนั้นต้องทำอย่างไรถึงจะดีขึ้น โดยหนังสือเล่มนี้จะเน้นเรื่องการหาคนที่ใช่เข้ามาบริหารบริษัท
  1. Memos from the chairman โดย Alan Greenberg – เป็นบันทึกของประธานบริษัทที่เขียนให้แก่พนักงานเรื่องคุณค่าขององค์กร โดยหนังสือได้รวบรวมปรัชญาการบริหารธุรกิจที่โดดเด่นและเข้าใจง่าย
  1. Common stocks and uncommon profits โดย Philip Fisher – ผู้เขียนเป็นนักลงทุนและอาจารย์อีกคนที่ Warren Buffett ได้รับอิทธิพลมากเช่นกัน ปรัชญาการลงทุนของ Fisher ได้รับความนิยมมากมายในหมู่นักการเงินและนักลงทุน โดยหนังสือเล่มนี้ได้แนะนำวิธีหาหุ้นเติบโตด้วยการใช้กฎ 15 ข้อ
  1. Think & grow rich โดย Napolean Hill – หนังสือที่สอนเรื่องการวางแผนทางการเงินและกฎแห่งความสำเร็จ ผู้เขียนใช้เวลากว่า 30 ปีในการรวบรวมกรณีศึกษาของนักธุรกิจระดับตำนาน เช่น Henry Ford, Thomas Edison ฯลฯ เพื่อค้นหาว่าทำไมพวกเขาจึงประสบความสำเร็จ
  1. Rish dad poor dad โดย Robert Kiyosaki – หนังสือเล่มนี้ถือเป็น Best Seller ของไทยที่หลาย ๆ คนคงคุ้นเคยกันดี เล่าถึงความแตกต่างของวิธีการสอนลูกจากพ่อรวย และพ่อจน หักล้างความเชื่อเดิม ๆ ว่าต้องทำงานเยอะ ๆ จึงจะรวย และแนะนำถึงวิธีการสอนลูกเรื่องเงิน

“มหาลัยสอนให้เป็นลูกจ้างที่ดี ไม่ได้สอนให้เป็นนายจ้าง” โรเบิร์ต คิโยซากิ

คลิกเลย! แนะนำบทความน่าอ่าน


  1. The clash of the cultures โดย John Bogle – ผู้เขียนเป็นถึงผู้สร้างกองทุนอิงดัชนี (Index fund) กองแรกของโลกและผู้ก่อตั้ง Vanguard Group เขาได้ให้มุมมองเกี่ยวกับพฤติกรรมการลงทุนที่เปลี่ยนไป จากการลงทุนเชิงคุณค่ากลายเป็นการเก็งกำไร
  1. One up on Wall Street โดย Peter Lynch – ผู้จัดการกองทุนชื่อดังอย่าง Lynch ได้อธิบายถึงข้อดีของนักลงทุนทั่วไปที่นักลงทุนมืออาชีพไม่มี และแนะนำต่อว่านักลงทุนควรจะใช้ข้อได้เปรียบนี้อย่างไรให้ประสบความสำเร็จด้านการเงิน เป็นอีกหนึ่งเล่มที่สนับสนุนการลงทุนระยะยาว
  1. Outliers โดย Malcolm Gladwell – หนังสือจะพาเราไปท่องไปในโลกของผู้ที่เป็น “ที่สุด” ไม่ว่าจะเป็น ฉลาดที่สุด เก่งที่สุด ดังที่สุด ประสบความสำเร็จที่สุด โดยหนังสือตั้งคำถามว่าอะไรที่ทำให้คนเหล่านี้แตกต่าง
  1. The secret โดย Rhonda Byrne – หนังสือเล่าถึง “เคล็ดลับ” ที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน สุขภาพ ความสัมพันธ์ และความสุข เป็นหนังสือที่ชี้ให้เราเห็นศึกยภาพที่ซ่อนเร้นภายในตัวเรา
  1. The millionaire fastlane โดย MJ Demarco – หนังสือเล่มนี้ได้ท้าทายความเชื่อเดิม ๆ เกี่ยวกับความร่ำรวย ที่ว่าเราจะต้องพึ่งพาปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ที่ว่าเราจะต้องพึ่งพาความหวังและช่วงเวลาการทำงานอันยาวนาน โดยแนะนำทางเลือกใหม่ที่ชื่อว่า “Fastlane” ซึ่งจะช่วยให้รวยเร็วขึ้น ไม่ใช่แค่รวยตอนแก่
  1. The 4-Hour workweek โดย Timothy Ferriss – แสดงให้เห็นถึงวิธีที่เราจะได้ใช้ชีวิตมากขึ้น และใช้เวลาทำงานน้อยลง อัดแน่นไปด้วยกรณีศึกษา ตัวอย่างที่สามารถทำตามได้ และเคล็ดลับต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เรามีความสุขในการใช้ชีวิต

“เมื่อคุณทำมากกว่าที่คนอื่นคาดหวัง กฎแห่งการตอบแทนจะปรากฎขึ้น” นโปเลียน ฮิลล์


  1. The power of habit โดย Charles Duhigg – ตีแผ่พฤติกรรมของ “นิสัยความเคยชิน” ที่อยู่เบื้องหลังความล้มเหลวและความสำเร็จ
  1. The law of success โดย Napoleon Hill – เป็นอีกหนังสือปรัชญาความสำเร็จซึ่งเป็นที่กล่าวขาน หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมกฎแห่งความสำเร็จ 15 ข้อ กลั่นกรองมาจากการสัมภาษณ์ผู้ที่ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
  1. Good luck โดย Alex Rovira – หนังสือนิทานเล่าถึง 2 ชายชราที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง คนหนึ่งประสบความสำเร็จมาก ในขณะที่อีกคนไม่ บทเรียนจากเรื่องนี้ได้สอนให้เรารู้ว่าความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชค แต่เป็นผลจากความพยายาม
  1. The 48 laws of power โดย Robert Greene – เป็นหนังสือสำหรับใครก็ตามที่ต้องการอำนาจ ต้องการป้องกันตัวเอง หรือต้องการเข้าใจกฎกติกาของเกมส์ชีวิต โดยหนังสือได้กลั่นกรองประวัติศาสตร์เรื่องการใช้อำนาจมาเป็นกฎ 48 ข้อที่จะสอนให้เราเข้าใจแต่ละวิธีซึ่งจะนำอำนาจมาให้เรา

แนวคิดผู้นำ เพื่อความสำเร็จ

  “เป้าหมายของคุณไม่ควรจะเป็นการก่อตั้งบริษัท แต่ควรมุ่งความสนใจว่า อะไรคือความเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องการสร้างให้เกิดขึ้น ความหวังของผมไม่ใช่การสร้างบริษัท ผมถูกขับเคลื่อนด้วยความคิดที่มีเป้าหมายเพื่อการเชื่อมโยงผู้คนและทำให้เราได้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น” – ซัคเคอร์เบิร์ก

Passiongen

View Comments

Recent Posts

Young SME หลักสูตรสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ชู Soft Power เสริมสร้างธุรกิจยั่งยืน

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…

6 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดธุรกิจยุคใหม่ กับ มุมมองด้านความยั่งยืน

บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…

9 months ago

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล “ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี” จากงาน DG Awards 2023

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…

10 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์แบรนด์ สไตล์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…

10 months ago

พิธีปิดการอบรมหลักสูตร SML รุ่นที่ 4 ปี2566

พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…

1 year ago

เมื่อสูงวัยต้องไปทำฟัน

ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…

1 year ago

This website uses cookies.