ปีกว่า ๆ แล้วสินะ ที่เราไม่สามารถออกไปท่องเที่ยวได้ตามใจ อาจมีแค่คนส่วนน้อยที่ยังพอมีโอกาส ได้ออกนอกพื้นที่ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ชื่นชมความงามธรรมชาติ กินอาหารอร่อย ๆ แต่รวม ๆ แล้วแต่คนส่วนใหญ่ก็ยังต้องรอให้โควิด 19 หมดไปเสียก่อน
ทุกคนกำลังรอคอยวันที่จะได้เดินทางเที่ยวกันอีกครั้ง คงไม่นานเกินรอ…
แต่การท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เพราะทุกคนจะใส่ใจสุขภาพของตนเองมากขึ้น ที่น่าสนใจคือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness tourism) ต่อจากนี้ จะเป็นอย่างไร
วันนี้ passion gen รวบรวมเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมาฝาก ดังต่อไปนี้
หาโอกาสพักนานขึ้น
สถานการณ์โรคระบาดและการล็อกดาวน์ บีบให้หลายคนทำสิ่งต่างๆ ช้าลงจนเปลี่ยนจังหวะชีวิตไปมาก แทนที่จะวางแผนการเดินทางให้แน่นเอี้ยดและก็วิ่งรอกอย่างที่เป็นมา ต่อไปนี้จะขยับตัวช้าลง ยืดเวลาพักให้ชีวิตสบายขึ้น ใช้บริการที่พักที่มีศูนย์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่พักหลายแห่งจึงออกแบบแพ็กเกจยาวแบบ 10 ถึง 15 วัน พร้อมบริการทรีตเมนต์อันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเพื่อคลายเครียด หรือเพื่อลดน้ำหนัก เป็นต้น
เที่ยวเสริมภูมิคุ้มกันโรค
สิ่งที่คนเราต้องการในยุคโควิด 19 คือ จิตใจผ่อนคลาย กินดี และดูแลสุขภาพของตน ดังนั้นคนจะมองหาช่วงเวลาพักผ่อนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางร่างกายและจิตใจ ตามรีสอร์ตและสปาต่างๆ โดยมีนักโภชนากรและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพคอยออกแบบให้แต่ละคน
ฟื้นฟูอารมณ์
ผลวิจัยชี้ว่า สภาวะโรคระบาดที่เกิดขึ้น ส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วยที่เป็นโรคเครียดและวิตกกังวลอยู่แล้วอย่างมาก การแยกตัวจากสังคมเป็นเวลานาน ความเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รัก การตกงาน การไม่ได้เข้าสังคม และความห่วงกังวลคอยระวังการติดเชื้อ ล้วนกระตุ้นปัญหาทางอารมณ์และจิตใจมากมาย สิ่งที่จะเข้ามาชดเชยได้คือ ออกจากความกดดันทั้งหลาย หาโอกาสไปเวิร์กช็อปฝึกการทำสมาธิ และกิจกรรมออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ เพื่อฟื้นฟูอารมณ์ ความรู้สึกให้กลับดีและสดใสขึ้น
เข้าหาธรรมชาติ
โชคดีมาก ที่ประเทศไทยเรามีธรรชาติมากมายในทุกจังหวัด จะไปที่ไหนก็ได้ จะเป็นป่าเขา ทะเล น้ำตก มีให้เลือกมากมายความสะดวกของแต่ละคน โรงแรมประเภทกรีนและรีสอร์ตที่ถูกสุขลักษณะทางนิเวศวิทยามีทุกพื้นที่ ธรรมชาติเหล่านี้ล้วนช่วยเยียวยาร่างกายมนุษย์ได้เป็นอย่างดี
จริงจังกับการออกกำลังกายและลดน้ำหนัก
เมื่อสวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ หรือฟิสเนส ปิดลง การดูแลสุขภาพของหลายคนก็สะดุด แม้จะพึ่งวิดีโอและแอปพลิเคชันออกกำลังกายมาช่วย แต่ก็ใช่ว่าจะได้ผลกับทุกคน ต่อไปนี้ต้องมีครูฝึกหรือผู้เชี่ยวชาญ มาคอยควบคุมคอร์สออกกำลังกายของเราเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
พักผ่อนเชิงสุขภาพกับครอบครัว
อีกเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นคือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นครอบครัว เพราะสามารถช่วยบรรเทาความตึงเครียดในครอบครัว ขณะนี้สถานดูแลและเสริมสร้างสุขภาพ นำเสนอประสบการณ์อันหลากหลายที่เหมาะสมกับทั้งผู้ใหญ่และเด็ก เช่น การทำโยคะกับเด็กๆ การเต้นรำ เล่นดนตรี เป็นต้น
บำบัดด้วยไบโอแฮ็กกิง (Biohacking)
คือการยกระดับการดูแลตนเองขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เป็นการใช้วิทยาศาสตร์ มาทดลองเปลี่ยนแปลงเคมีและสรีระของเรา โดยปรับให้เข้ากับรูปแบบการกิน และรูปแบบการใช้ชีวิตที่เหมาะสม ประกอบกับการงดอาหารเป็นระยะ การบำบัดด้วยนวัตกรรมแสงสีแดง การบำบัดด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทางการแพทย์ และดนตรีบำบัด ดีท็อกซ์และสร้างสรรค์กิจวัตรเชิงสุขภาพ เป็นต้น
ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ธุรกิจการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนเกิดขึ้นมากมาย และนักท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มใส่ใจสภาพแวดล้อมกันมากขึ้น รีสอร์ตเชิงสุขภาพหลายแห่ง ก็ปรับปรุงธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมขึ้น และสนับสนุนให้แขกที่เข้าพักออกทริปเดินเล่นและปั่นจักรยานท่ามกลางธรรมชาติ ถือเป็นการรักษาระบบนิเวศไว้เป็นอย่างดี
ดิจิทัลดีท็อกซ์
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา มีโรคที่เกิดจากสมาร์ตโฟนจนบางรายถึงขั้นออกอาการขาดสมาร์ตโฟนไม่ได้ เมื่อหลายคนต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน การใช้สมาร์ตโฟน แล็ปท็อป สมาร์ตทีวี และอุปกรณ์ดิจิทัลอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้น โปรแกรมดิจิทัลดีท็อกซ์จึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยสร้างระยะห่างระว่างคนกับดิจิทัล แม้จะเพียงชั่วคราวก็ช่วยให้จิตใจสงบได้ ได้พักสายตา และได้เวลาเพิ่มขึ้นแบบฟรี ๆ
พักผ่อนแบบชีวจิต
คนทั่วโลกให้ความสำคัญการกินอาหารแนวมังสวิรัติมากขึ้น บางคนใช้ชีวิตในวิถีชีวจิตด้วยการงดใช้สิ่งของซึ่งมีที่มาจากสัตว์ในรูปแบบต่างๆ อาทิ กระเป๋า รองเท้า เครื่องแต่งกาย เครื่องเรือน ทำให้สามารถต่อยอดการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี กิจกรรมยอดนิยม เช่น แพ็กเกจทัวร์ปั่นจักรยาน แพ็กเกจโยคะ และสปาทรีตเมนต์
แหล่งข้อมูล: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
Category: