Categories: TRENDTREND

Work from Home ให้มีประสิทธิภาพ

4.8 / 5 ( 6 votes )

กระแสทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home พุ่งแรงแซงปรี้ดขึ้นอย่างมากหลังจากเชื้อโคโรนาไวรัส หรือ Covid-19 ระบาดหนัก ทำให้องค์กรธุรกิจ หน่วยงานราชการ และบริษัทต่างๆไฟเขียวให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ กลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ที่หลายๆ คนเริ่มคุ้นเคย

อย่างไรก็ตาม หากจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจากที่บ้าน เราต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง นอกจากการแยกห่างจากกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อใหม่นี้ passion gen มีข้อแนะนำบางประการมาฝาก ลองทำตามน่าจะช่วยให้การทำงานยังดำเนินไปได้ต่อเนื่องพร้อมกับความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานที่ไม่ขาดตอนด้วย ทริกหลักๆ มีแค่สองเรื่อง คือ การจัดสภาพแวดล้อม และการโปรแกรมความคิด

สื่อสารอย่างมีคุณภาพ

ไม่ว่าจะมีประเด็นโคโรนาไวรัสหรือไม่ การสื่อสารที่ชัดเจน เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หนุนให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพ มีข้อแนะนำว่าแต่ละวัน พนักงานควรต้องสื่อสารกับหัวหน้างาน หรือผู้จัดการอย่างน้อย 10 นาที เพื่อสรุปว่า แต่ละวันต้องทำงานอะไรบ้าง หรือกำลังเตรียมเดินหน้างานชิ้นใดอยู่ การสื่อสารอาจทำผ่านแอพ หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆ  เช่น การประชุมทางไกล เป็นต้น

ความท้าทายอย่างหนี่งของการทำงานจากที่บ้าน คือ การเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว ซึ่ง ความรู้สึกดังกล่าว จะส่งผลลดทอนแรงบันดาลใจในการทำงาน ตลอดจนประสิทธิภาพการทำงานด้วย ดังนั้น จึงเป็นสาเหตุว่า ต้องสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดตอน และหากเป็นการสื่อสารที่สามารถมองเห็นหน้า กันและกัน ได้จะยิ่งได้ผลดี

รู้สึกจริงกับสิ่งที่ทำ

การทำงานที่บ้านอาจก่อให้เกิดปัญหา “การจัดสรรเวลา” และความรู้สึกว่า “กำลังอยู่ในเวลางาน”  เพราะคุณอาจปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับชุดนอน เดินไปทั่วบ้าน ก็เป็นได้ ฉะนั้น จัดการเสียใหม่ อาบน้ำอาบท่า แต่งตัวเหมือนกับเวลาออกไปทำงาน พร้อมกับจัดพื้นที่มุมหนึ่งให้เป็นพื้นที่เพื่อการทำงานเป็นการเฉพาะพร้อมกับอุปกรณ์จำเป็นต่อการทำงาน เป็นพื้นที่ที่ใครก็จะเข้ามากวนไม่ได้ และเป็นพื้นที่ที่โน้มน้าวให้คุณรู้สึกว่า กำลังอยู่ในช่วงเวลาการทำงานจริงๆ

ในการจัดสถานที่นั้น อาจเพียงแค่ ยกย้าย ราวตากผ้าออกไป เอาคอมพ์มาตั้งแทนที่พร้อมโต๊ะ เก้าอี้ที่นั่งสบายๆ  เป็นการส่งสัญญาณว่า นี่คือ “ที่ทำงาน” ที่อยู่ภายในบริเวณบ้าน

การกำหนดพื้นที่ทำงานเช่นนี้ ยังทำให้สมาชิกในบ้าน โดยเฉพาะลูกๆ รับรู้ว่า คุณกำลังอยู่ในช่วงเวลาทำงาน หรืออาจตกลงกันว่า หลังประตูที่ล็อกไว้ ลูกๆ ต้องเข้าใจ และทำเหมือนว่า พ่อ หรือ แม่ไม่อยู่บ้าน จนกว่า จะหมดเวลางาน แล้วเราค่อยกลับมาพบกัน แบบนี้ จะทำให้ทำงานได้ประสิทธิภาพ

นอกจากการจัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสมแล้ว เรายังได้ประโยชน์จากการทำงานที่บ้านมากมาย  ผลการสำรวจที่จัดทำโดย FlexJobs เมื่อปีที่แล้ว พบว่า 65 เปอร์เซนต์ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ตนเอง ทำงานได้ประสิทธิภาพดีขึ้น เพราะสามารถลดการถูกรบกวนจากเพื่อนร่วมงาน จากปัญหาการเมืองในที่ทำงาน รวมถึง ลดความเครียดจากการต้องเดินทางออกไปทำงานด้วย

อย่างไรก็ตาม การทำงานจากที่บ้าน ก็ก่อให้เกิดปัญหาหนึ่งกับผู้ทำงาน คือ ไม่สามารถปลดล็อกจากช่วงเวลาทำงานได้ เพราะไม่มีพิธีการ “การก้าวเข้า และเดินออกจากสำนักงาน พร้อมกับเริ่มกระบวนการเดินทางกลับบ้าน” เหมือนเวลาไปทำงานในสำนักงานจริงๆ ที่ทำให้เราแยกออกได้อย่างชัดเจนว่า ขณะนี้ ถึงช่วงเวลางานและสิ้นสุดเวลางานในแต่ละวันแล้ว

Kristen Shockley ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยจอร์เจีย ได้แนะนำวิธีปรับจิตด้วยการให้เริ่มวันด้วยการมีช่วงเวลา จิบกาแฟ 20 นาที ในตอนเช้า และออกกำลังกายทันทีหลังสิ้นสุดเวลางานเพื่อเป็นการเปิดและปิดวันทำงานของคุณ แถมยังบอกว่า แม้จะไม่มีประเด็นเรื่องการดูแลลูกมากวนใจ คุณก็อาจจะเผลอคิดถึงการนำผ้าหย่อนในเครื่องซักผ้าเลย ฉะนั้น ต้องทำให้ตัวเองอยู่ในกรอบคิดว่า คุณกำลังทำงานอยู่จริงๆ

เลี่ยงความรู้สึกถูกโดดเดี่ยว

โคโรนาไวรัส บังคับให้ทุกๆ คนต้องเข้าสู่โหมด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่คนเราจะทำงานจากที่บ้านไม่ว่าจะระยะสั้น หรือแบบถาวร ดังนั้น การทำงานในโหมดนี้ จึงอาจส่งผลกระทบเรื่องขวัญกำลังใจ และผลิตภาพการทำงาน จึงมีการแนะนำว่า เพื่อรักษาความเป็นปกติและความสนิทสนมที่เพื่อนร่วมงานมีต่อกัน ให้ลองจัดกิจกรรม ปาร์ตี้พิซซาเสมือนจริง หรือ แฮปปี้อาวร์ทางไกล โดยอาจทำผ่าน สไกป์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้จัดการหรือหัวหน้าหน่วยงาน ควรเป็นผู้ที่ริเริ่มสร้างขวัญกำลังใจ สื่อสาร และสนับสนุนให้การทำงานจากที่บ้านของพนักงานท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสเป็นไปด้วยความเรียบร้อยราบรื่น และมีผลิตภาพการทำงานที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมของกิจการและองค์กรให้อยู่รอดจากวิกฤติครั้งนี้ไปได้

 

Source

Conoravirus: How to work from home, the right way

bbc.com

 

อภินัทธ์ เชงสันติสุข

เด็กหนุ่มที่กำลังเรียนรู้ชีวิตและถูกเฆี่ยนตีด้วยความเป็นผู้ใหญ่

Recent Posts

Young SME หลักสูตรสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ชู Soft Power เสริมสร้างธุรกิจยั่งยืน

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…

9 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดธุรกิจยุคใหม่ กับ มุมมองด้านความยั่งยืน

บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…

1 year ago

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล “ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี” จากงาน DG Awards 2023

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…

1 year ago

Driving People’s Actions แนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์แบรนด์ สไตล์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…

1 year ago

พิธีปิดการอบรมหลักสูตร SML รุ่นที่ 4 ปี2566

พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…

1 year ago

เมื่อสูงวัยต้องไปทำฟัน

ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…

2 years ago

This website uses cookies.