เปิดฉากขึ้นแล้ว “การประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 35” ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในฐานะประธานอาเซียน ณ ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2 – 4 พฤศจิกายน 2562

การประชุมครั้งนี้ เป็นนัดสำคัญที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังจับตามอง เพราะเป็นเวทีที่เหล่าผู้นำรัฐบาลจากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศเข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียงแล้ว ยังมีผู้แทนระดับสูงประเทศคู่เจรจา (Dialogue Partners) ได้แก่ จีน, สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, ญี่ปุ่น, อินเดีย, ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้, นิวซีแลนด์ รวมถึงผู้นำจาก 2 องค์กรระหว่างประเทศ คือ องค์การสหประชาชาติ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เข้าร่วมหารือด้วย คาดว่า จะมีคณะผู้แทนจากประเทศต่างๆ ผู้ติดตาม และสื่อมวลชนจากทั่วโลก เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้กว่า 3,000 คน

ระหว่างรอผลการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 35 เรามาดูกันว่า กว่าจะเป็นเจ้าภาพที่ดี มีเบื้องหลังและการเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง

รับมือปัญหาการจราจร

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีปัญหาการจราจรแออัดติดอันดับโลก จึงต้องมีการวางแผนการรับมือปัญหาการจราจรในช่วงการประชุมเป็นพิเศษ โดยมาตรการบรรเทาผลกระทบข้อแรก คือ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้วันที่ 4 – 5 พฤศจิกายน 2562 เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ จ.นนทบุรี โดยหวังให้คนในพื้นที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ซึ่งจะช่วยลดความแออัดบนท้องถนนลงได้

แต่สำหรับใครที่ยังต้องทำงานและต้องใช้รถใช้ถนนในช่วงดังกล่าว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้มีการจัดทำข้อมูลแนะนำเส้นทางการจราจร เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบล่วงหน้าว่าเส้นทางใดบ้างและช่วงเวลาใดบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง และวางแผนการเดินทางถูก เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำเป็นต้องปิดเส้นทางการจราจรในบางเส้นทางและบางช่วงเวลา เพื่อรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของขบวนรถผู้นำและคณะผู้ติดตาม โดยสามารถสอบถามเส้นทางการจราจรได้ที่ โทร. 1197 หรือ ติดตามข้อมูลได้ที่ www.trafficpolice.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง

รักษาความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจ

หนึ่งในหน้าที่ของการเป็นเจ้าบ้านที่ดี คือ การสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่สำคัญอยู่ในประเทศไทย ทำให้ภาครัฐของไทย ต้องมีการรักษาความปลอดภัยกันอย่างเข้มงวดกันเลยทีเดียว โดยงานนี้มีการระดมตำรวจและเจ้าหน้าที่มาดูแลและสร้างความอุ่นใจให้กับแขกผู้มาเยือนถึง 17,000 นาย

ในพื้นที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มที่สุด โดยจัดกำลังรักษาความปลอดภัยเป็น 3 วงรอบ คือ พื้นที่ไข่แดง ไข่ขาว และขอบกระทะ แบ่งพื้นที่เป็น 5 โซน มีกำลังปฏิบัติงานทั้งสิ้น 4,869 นาย ใช้เทคโนโลยี CCTV จดจำใบหน้าและทะเบียนรถในพื้นที่ทั้ง 5 โซน

ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยบริเวณที่พักของเหล่าผู้นำและผู้ติดตามเข้าพักตลอดการประชุม จะมีการตรวจยานพาหนะทุกคันที่เข้ามาในบริเวณโรงแรม ตั้งจุดสแกนสัมภาระและร่างกาย รวมทั้งเฝ้าระวังสถานการณ์ตามอาหารสูงโดยรอบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดล

ปลอดภัยไว้ก่อน ย้ายสุนัขพ้นอิมแพ็คฯ

ปัญหาสุนัขจรจัด แม้หลายคนจะมองว่าเป็นปัญหาเล็กๆ เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ แต่จริงๆ แล้วปัญหาสุนัขจรจัดกับการจัดงานใหญ่ระดับประเทศเป็นหนามยอกอกกันมาตลอด ทั้งประเทศไทยเอง และในอีกหลายๆ ประเทศ อย่าง ประเทศรัสเซีย มีการจัดการสุนัขจรจัด เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ ต้อนรับการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปีที่แล้ว

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ก็เช่นกัน มีการโพสต์ภาพการจับสุนัขจรจัดในพื้นที่เมืองทองธานี ภาพสุนัขที่ถูกเป่ายาสลบเกินขนาด ถึงขั้นสลบข้ามวันข้ามคืน จนกลายเป็นกระแสดราม่าบนโลกโซเชียล

อย่างไรก็ตาม ภาครัฐได้ทำการชี้แจงว่าสาเหตุที่ต้องจับสุนัข ก็เพื่อไม่ให้ไปสร้างความรำคาญและรบกวนผู้มาเข้าร่วมประชุม และเพื่อความปลอดภัยในกรณีที่สุนัขอาจจะวิ่งตัดขบวนรถผู้นำประเทศ โดยยืนยันว่าสุนัขทั้งหมดปลอดภัยและมีความสุขดี เพราะมีอาหารให้กิน 2 มื้อ และมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นได้ ปัญหาดังกล่าวจึงได้จบไป

อาหารไทย ไม้เด็ดมัดใจ

นอกเหนือจากมาตรการการรักษาความปลอดภัย ที่จะสร้างความอุ่นใจให้กับคณะแล้ว ยังมี “อาหารไทย” ที่เป็นไม้เด็ดที่เจ้าภาพ งัดออกมามัดใจแขกบ้านแขกเมือง โดยแต่ละเมนูจะมีการนำวัตถุดิบในประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาคของไทยมารังสรรค์เป็นเมนูเด็ดพร้อมเสิร์ฟในค่ำคืนกาลาดินเนอร์ อาทิ ไก่เบตงย่างกอและ ข้าวไทย 4 สีจาก 4 ภาค หลนปูบางตะบูน ปลาช่อนสิงห์บุรีแดดเดียว และของหวานจากกะทิเกาะพะงัน เป็นต้น

ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพที่ดีของไทยเท่านั้น ยังมีอีกมากมายหลายส่วนที่เราอาจจะยังไม่ได้กล่าวถึง แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพที่ดีไม่ได้เลย หากขาดความร่วมมือร่วมใจจากชาวไทยทุกคน

ภาพประกอบจาก ASEAN2019, ไทยคู่ฟ้า, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, เทศบาลนครปากเกร็ด

 

Category:

Passion in this story