ปั้นแบรนด์ยังไงให้ขายดีได้แบบไม่ตกยุค (Part II) ในยุคที่การทำธุรกิจเต็มไปด้วยการแข่งขันกันอย่างหนักหน่วง แบรนด์ไหนที่เคยดังในอดีต หากไม่พัฒนาตัวเองให้ทันก็ดับหายไป แต่ในกระแสการแข่งขันนี้ ยังคงมีสินค้าที่อยู่เหนือกาลเวลาและสร้างยอดขายระดับร้อยล้านได้ อย่าง แป้งโยคี ของบริษัทศิริบัญชาและน้ำยาอุทัยทิพย์ มาดูกันว่าอะไรคือกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ไม่ธรรมดาของพวกเขา แป้งโยคีและแอลกอฮอล์ล้างแผล ศิริบัญชา สินค้าแบรนด์ไทยที่ไม่ว่าใครก็ต้องมีติดบ้าน อีกหนึ่งแบรนด์ไทยที่แม้จะไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกครั้งที่ต้องการซื้อแอลกอฮอล์ล้างแผล แบรนด์ศิริบัญชาจะเด้งขึ้นมาในหัวแบบอัตโนมัติ หรือในบางครั้งเราก็หยิบขวดแอลกอฮอล์ศิริบัญชาขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว รวมไปถึงเมื่อเกิดปัญหาผดผื่นคัน ผิวอับชื้น…
ปั้นแบรนด์ยังไงให้ขายดีได้แบบไม่ตกยุค (Part I) ในวันที่กระแสสินค้าจากต่างประเทศหลากหลายแบรนด์เข้ามาเป็นผู้ครองตลาด ทั้งในกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค ทำให้แบรนด์ไทยเก่าแก่มากมาย ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดต้องล้มหายตายจากไปจนเหลือไว้แค่ภาพจำ แต่ก็ยังมี 4 แบรนด์ไทย ที่ยังคงขายดีและสร้างผลกำไรอยู่เหนือทุกกระแสความเปลี่ยนแปลง อะไรคือกลยุทธ์ทางธุรกิจหรือ Business Model ที่พวกเขาใช้จนทำให้ ยาอมตราตะขาบ,แป้งศรีจันทร์, แป้งโยคี ของบริษัทศิริบัญชาและน้ำยาอุทัยทิพย์ ยังคงเป็นแบรนด์ในดวงใจของคนไทย แถมยังกลายเป็นของฝากจากไทยที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยว…
ทุกองค์กรย่อมมีการวาง กลยุทธ์ เพื่อเป้าหมายในการสร้างผลกำไร และความก้าวหน้าทางธุรกิจทั้งสิ้นแต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอทุกธุรกิจต้องให้ความใส่ใจกับประโยชน์ส่วนรวมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาของสังคมที่ยั่งยืนควบคู่กันไปด้วย การประกอบธุรกิจในปัจจุบัน เจ้าของธุรกิจต้องวางกลยุทธ์, Business Model และแผนดำเนินงาน ให้สอดคล้องกับเป้าหมายในอนาคตหลาย ๆ ด้าน อาทิ รายได้ กำไร เปอร์เซ็นต์การเติบโตทางธุรกิจส่วนแบ่งตลาด การลดต้นทุน ค่าใช้จ่าย และที่ลืมไม่ได้ก็คือการสร้างคุณค่าให้เจ้าของธุรกิจและตัวบริษัทเองไปจนถึงการสร้างประโยชน์ให้กับสังคม และส่วนรวม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน…
อย่างที่รู้กันดีว่า ธุรกิจสตาร์ทอัพ นั้นเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นจากไอเดีย และ Business Model ที่ต้องทำซ้ำได้สามารถสร้างผลกำไรได้สูงแบบก้าวกระโดดซึ่งแน่นอนว่าไม่ว่าการทำธุรกิจสตาร์ทอัพหรือ SME สิ่งที่สำคัญในการต่อยอดไอเดียและแผนธุรกิจที่วางไว้ให้สามารถขับเคลื่อนได้จริงก็คือเงินลงทุน ในขั้นต้นเจ้าของกิจการมักเริ่มจากใช้ทุนส่วนตัวแต่เมื่อถึงจุดที่ต้องการก้าวกระโดดตาม Business Model ที่วางไว้ไปในสเกลที่ใหญ่ขึ้นการระดมทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจให้ไปถึงจุดหมายจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาทำความรู้จักกับ 5 แหล่งเงินทุนสุดเจ๋งที่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพให้เติบโตกันดีกว่า "ถ้าคุณทำ 10 อย่าง สำเร็จ 3 อย่าง ก็ถือว่าเก่งแล้วคนที่ยิ่งทำเยอะก็ยิ่งผิดเยอะ แต่คนที่ไม่เคยคิดทำผิด…
การเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรซักอย่างไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทอัพหรือ SMEs สิ่งที่ต้องมีนอกเหนือจากเงินทุน ไอเดีย และความมุ่งมั่นตั้งใจแล้วการวางแผนธุรกิจ หรือ Business Model ของสตาร์ทอัพถือเป็นสิ่งสำคัญมากซึ่งในปัจจุบันมีองค์กรต่าง ๆ มากมายทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้ามาสนับสนุนและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นในรูปแบบของการสนับสนุนด้านคอร์สการอบรมธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ การเชิญวิทยากรที่มีประสบการณ์ในแวดวงสตาร์ทอัพมาแบ่งปันความรู้ช่วยเพาะบ่มเมล็ดพันธุ์สตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ๆ ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนเรามาดูกันดีกว่าว่ามีคอร์สอบรมธุรกิจดี ๆ อะไรบ้างที่สตาร์ทอัพมือใหม่หรือใครก็ตามที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองไม่ควรพลาด! "คนที่คิดว่าตัวเองเก่งไม่รู้จักพัฒนาตัวเอง ไม่รับรู้สิ่งใหม่ ความคิดย่อมหยุดอยู่แค่นั้น" -แนวคิดผู้นำที่ดี…
หมอตั้ม หมอผู้ศึกษาเรื่องเวชศาสตร์ผู้สูงอายุมาโดยตรง ทำให้มองเห็นช่องว่างและโอกาส เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาคอยดูแลผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านของคนทั่วไปได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้ง สตาร์ทอัพดูแลผู้สูงอายุ Health at Home ขึ้น เรื่องสุขภาพและอนามัยเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลผู้สูงอายุที่ลูกหลานและคนในครอบครัวต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ แต่ในขณะเดียวกันลูกหลานก็ล้วนต่างมีความรับผิดชอบต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ทำให้ไม่มีเวลาดูแลผู้สูงอายุได้ดีเท่าที่ควรการมีตัวช่วยเป็นธุรกิจที่ให้บริการดูแลผู้สูงอายุที่มีความถนัดและมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษมาทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยถึงที่บ้านจึงถือเป็นธุรกิจน่าสนใจในอนาคต ประกอบกับ แนวคิดใหม่ ที่ว่าการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่บ้านทำให้ผู้ป่วยมีแนวโน้มของการฟื้นตัวเร็วกว่าที่โรงพยาบาล ปลอดภัยกว่า และมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าจึงทำให้หมอตั้มริเริ่มบุกเบิกตลาดก่อตั้งเป็นสตาร์ทอัพ เพื่อสร้าง Business Model ของบริการดูแลผู้สูงอายุที่ชื่อว่า…
Solar Kiosk ธุรกิจแห่งอนาคต ที่พร้อมบรรเทาปัญหาความขาดแคลนการเข้าถึงไฟฟ้าของประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดารสตาร์ทอัพจากเมืองเบอร์ลินกับไอเดียตู้แปลงพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ จากการเพิ่มขึ้นของประชากร และศักยภาพการเติบโตของสังคมเมืองที่สูงขึ้นต่อเนื่องในทุก ๆ ปี ทำให้นับวันความต้องการพลังงานไฟฟ้าก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นจนเกิดปัญหาการผลิตไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานรวมถึงในกระบวนการส่วนใหญ่ก็เป็นการนำเอาทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไปมาใช้ในกระบวนการผลิตไม่ว่าจะเป็นก๊าซธรรมชาติหรือถ่านหินก็ล้วนเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไปทั้งสิ้นรวมถึงในกระบวนการผลิตยังก่อให้เกิดผลกระทบและผลเสียที่ส่งผลด้านลบต่อสภาวะแวดล้อมอีกด้วย Solar Kiosk สตาร์ทอัพ จากประเทศเยอรมนีจึงมองเห็นโอกาสในการนำเอาพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อทดแทนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไปมาสร้างเป็นธุรกิจใหม่แห่งโลกอนาคต Solar Kiosk สตาร์ทอัพ ผู้บุกเบิกตลาดพลังงานทางเลือก ความเป็นมาและความคิดริเริ่มของสตาร์ทอัพ Solar Kiosk ไม่เพียงปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าของชุมชนเมืองที่นับวันจะมีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย…
ปัจจุบันสตาร์ทอัพถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจและรูปแบบการทำงานที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากคนยุคใหม่ อีกทั้งหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หน่วยงาน องค์กร ไปจนถึงบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่หลายแห่งก็ได้มองเห็นความก้าวหน้าในการสนับสนุนสตาร์ทอัพเหล่านี้เพื่อเป็นการกระตุ้น สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างตลาดใหม่ให้กับประเทศ รวมถึงหน่วยงานรัฐบาลยังเปิดให้มีการขอทุนทำธุรกิจ เพื่อช่วยให้บริษัทเปิดใหม่มีความพร้อมด้านแหล่งเงินทุน นำไปสู่ความสามารถในการพัฒนา และต่อยอดช่วยให้ก้าวกระโดดออกไปแข่งขันกับนานาประเทศได้ (more…)
This website uses cookies.