ลงทุนที่ดีที่สุดกับธรรมชาติ คือการสร้างธรรมชาติให้ดีที่สุด

เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวเล็ก ๆ แต่น่าปลื้มใจเรื่องหนึ่ง เมื่อคู่รักชาวนิวซีแลนด์ ปฏิเสธแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผืนดินของเขา แถมยังบอกว่าไม่มีข้อเสนอจากนักธุรกิจหรือนักพัฒนาคนใดที่นำความร่ำรวยมาให้ชุมชนได้

เรื่องราวมีอยู่ว่า Dick และ Jillian Jardine คู่รักที่ได้ติดสินใจบริจาคที่ดินที่เป็นทรัพย์สินมรดก ขนาด 2,200 เอเคอร์ (900 เฮกตาร์) ให้แก่ Queen Elizabeth II National Trust (QEII) เพื่อให้องค์กรนี้นำที่ดินไปสร้างประโยชน์แก่ชาวนิวซีแลนด์ทุกคน

“พื้นที่แห่งนี้อยู่กับครอบครัวเรามาเกือบศตวรรษแล้ว แต่เราต้องการยกให้ QEII เป็นผู้ดูแล เพราะรู้สึกสบายใจและมั่นใจว่าจะเกิดประโยชน์ต่อชาวนิวซีแลนด์ทุกคน”

Dick Jardine กล่าว

เว็บไซต์ www.goodnewsnetwork.org รายงานว่า อีก 2 ปี พื้นที่แห่งนี้จะครบรอบ 100 ปีในการครอบครองของครอบครัว Jardine ทว่า หลังจากนั้นมันก็จะยังเป็นพื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ เป็นที่สาธารณะ และการปกป้องภูมิทัศน์ต่าง ๆ ต่อไป แทนที่จะถูกพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยหรือกิจการอื่น

ทั้งนี้ มีกลุ่ม Shirking ได้เสนอแผนดูแลปกป้องพื้นที่แห่งนี้แล้ว โดยตั้งใจที่จะรักษาพื้นที่แห่งนี้ให้อยู่ตลอดไป เพราะในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ หายากหรือแทบไม่เหลืออยู่เลย

ในปัจจุบัน ย่านนี้เป็นเขตอสังหาริมทรัพย์ราคาแพง มีเศรษฐีหลายคนก็มีบ้านอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal และ Michael Hill ผู้นำด้านเครื่องประดับ เป็นต้น

“เราต้องการให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป เราไม่ต้องการสิ่งปลูกสร้างหรือที่อยู่อาศัยที่มากไปกว่านี้”

ครอบครัว Jardine กล่าว

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ให้คำมั่นว่า จะสร้างพลังงานหมุนเวียน 100% เพื่อใช้ทั่วประเทศภายในปี 2573 นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดปลูกต้นไม้ 100 ล้านต้นต่อปี รวมไปถึงการห้ามสำรวจน้ำมันนอกชายฝั่งทั้งหมด การกำหนดขอบเขตการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนสังเคราะห์ เพื่อปกป้องน้ำจืดจากมลพิษทางการเกษตร เป็นต้น

สำหรับนิวซีแลนด์นั้นมองว่า การระบาดของเชื้อโรค COVID-19 ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะพลิกโฉมระบบพลังงานของนิวซีแลนด์ ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เร็วขึ้น ประหยัดขึ้น และมีความปลอดภัยมากขึ้น ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก กำลังเผชิญวิกฤติโรคระบาดใหญ่นี้

นิวซีแลนด์มองว่า การลงทุนในพลังงานหมุนเวียนเป็นเรื่องที่ถูกต้อง สามารถนำความร่ำรวยกลับสู่ชุมชนได้อย่างแท้จริง เพราะการสร้างพลังงานสะอาดและลดการปล่อยคาร์บอน จะช่วยให้นิวซีแลนด์คว้าโอกาสทางเศรษฐกิจมากขึ้น ในฐานะที่เป็นประเทศสีเขียว

ที่น่าสนใจคือ จะช่วยให้คนทำงานน้อยลง เพียงสัปดาห์การทำงาน 4 วันเท่านั้น นับว่าเป็นความสำเร็จที่ไม่มีใครเทียบได้ เมื่อคนทำงานน้อยลง ก็ไม่ต้องเครียดมาก แถมมีเวลาพักผ่อนและอยู่กับครอบครัวและธรรมชาติมากขึ้น