คนทั่วโลกรู้จัก “บิล เกตส์” ในฐานะที่เป็นมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของโลก เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft
แต่ตอนนี้ นักธุรกิจชาวอเมริกันผู้คร่ำหวอดในวงการไอทีระดับโลก กำลังมองมาที่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 และตั้งข้อสังเกตว่า
โควิด-19 ที่ว่าแย่แล้ว อีกไม่นานการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศจะยิ่งเลวร้ายกว่านี้
น่าแปลกใจที่คนทรงอิทธิพลระดับโลกคนนี้ กำลังออกมาเตือนชาวโลกให้ตระหนักถึงพิษภัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่อาจจะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีกต่อไป
“วิกฤตครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญ มันกำลังบอกให้พวกเรารู้จักรับผิดชอบสำหรับคนรุ่นต่อไป” บิล เกตส์ เขียนบทความเรื่องนี้ขึ้นเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง
คำแนะนำของบิล เกตส์ ในการรับมือกับภัยทางธรรมชาติคือ การสร้างเครื่องมือและนวัตกรรมเพื่อลดปัญหาเรือนกระจกให้ได้
แม้ว่าตอนนี้ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาโลกร้อนที่เกิดจากเรือนกระจกกลับลดลงเพียงน้อยนิด
นักวิเคราะห์ทั้งหลายก็คิดเหมือนกัน รวมถึงสำนักพลังงานนานาชาติ หรือ International Energy Agency ก็ชี้ว่าปัญหามลพิษทั่วโลกจะลดลง 8% ปีนี้ แปลว่าปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมาลดลงไม่มากนัก
มลพิษที่ปล่อยออกมาคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 6 แสนคนต่อปี และยังทำให้คนตกงานอีกมากมาย
ความจริงแล้วปัญหามลพิษก็น่าจะลดลงต่อเนื่องทุก ๆ ปี แต่ความจริงก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ภายในปีที่แล้ว ทั่วโลกตั้งเป้าว่าจะลดคาร์บอนให้ได้ถึง 92% แล้วตอนนี้คนก็ไม่อยากจะพูดถึง เพราะมัวแต่แก้ปัญหาโรคระบาดใหญ่กันอยู่
สำหรับ บิล เกตส์ แล้ว มองว่าต้นทุนในการลดปัญหาทางมลพิษและสิ่งแวดล้อมนั้นสูงมากทีเดียว
เปรียบเหมือนกับการแก้ไขโควิด-19 ยิ่งใช้เวลานานเท่าไหร่ก็สิ้นเปลืองงบประมาณมากเท่านั้น
ยิ่งมองไปข้างหน้าอีก 40 ปี จะเห็นตัวเลขชัด ๆ ของผู้เสียชีวิต เปรียบเทียบกันระหว่างผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 และจากปัญหาสภาพอากาศจะเท่ากันพอดี คือเสียชีวิต 14 ต่อ 100,000 คน
และภายในสิ้นศตวรรษนี้ อัตราส่วนการเสียชีวิตจากปัญหาสภาพแวดล้อม จะเพิ่มเป็น 73 ต่อ 100,000 คน แต่ถ้ามีการแก้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมได้ อัตราการเสียชีวิตของคนจะเหลือแค่ 10 ต่อ 100,000 คน
แล้วเราจะทำอย่างไรกันต่อไป หลังจากวิกฤตโรคระบาดสิ้นสุดลง นี่เป็นคำถามที่ใหญ่มากสำหรับคนทั่วโลก
ว่ากันว่าวิถีชีวิตของผู้คนจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ก็คงไม่มากมายนัก ยังคงมีการใช้พลังงานต่อไป การขับรถหรือเดินทางด้วยเครื่องบินก็คงไม่ลดลงไปมากเท่าไหร่
ดังนั้น เราจึงต้องหาวิธีพัฒนาเครื่องมือและนวัตกรรม ขึ้นมาเพื่อรับมือกับปัญหาโลกร้อนให้ได้ เพื่อเป็นการปกป้องและรับผิดชอบคนรุ่นต่อ ๆ ไป
“โลกกำลังต้องการนักชีววิทยา นักเคมี ฟิสิกส์ นักวิทยาศาสตร์การเมือง นักเศรษฐศาสตร์ และวิศวกร เพื่อทำงานเรื่องนี้โดยเฉพาะ” บิล เกตส์ กล่าว
ความท้าทายอีกอย่างคือ ศักยภาพในการรับมือของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกไม่เท่ากัน ประเทศร่ำรวยและประเทศที่ยากจน ย่อมแตกต่างกันตั้งแต่จุดเริ่มต้น เช่นเดียวกับปัญหาโควิด-19 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่
สำหรับตัวบิล เกตส์ เอง เขาก็กำลังลงทุนสร้างเทคโนโลยีสะอาดและพัฒนาโปรแกรมใหม่ ๆ ด้วยความหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการรับมือกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ
ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องสนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมและลงมือลดปัญหาอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ เพื่อคนรุ่นต่อ ๆ ไป
Category: