บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM แจงผลกระทบจากสถานการณ์ Covid-19 ส่งผลให้ปริมาณการเดินทางลดลง แต่หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ประชาชนสามารถทำกิจกรรมในการดำรงชีวิตได้มากขึ้น ทำให้มีปริมาณการเดินทางเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้ หลังจากการผ่อนคลายมาตรการเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2563 ปริมาณจราจรบนทางพิเศษกลับมาเกือบ 900,000 เที่ยวต่อวัน จากที่เคยลดลงเหลือประมาณ 580,000 เที่ยวต่อวัน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้โดยสารรถไฟฟ้าทยอยกลับมาใช้เช่นกัน ล่าสุดประมาณ 140,000 เที่ยวต่อวัน จากที่เคยลดลงไปอยู่ที่ 90,000 เที่ยว ในวันทำการ อย่างไรก็ตาม BEM ยังคงให้ความร่วมมือภาครัฐ พร้อมปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อการควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส Covid-19
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 508 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 351 ล้านบาทหรือร้อยละ 40.9 ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของรายได้และการเปลี่ยนวิธีการรับรู้รายได้เงินลงทุนใน TTW จากการรับรู้ส่วนแบ่งรายได้เป็นการรับรู้เงินปันผล โดยในไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้รวม จำนวน 3,889 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 2562 จำนวน 236 ล้านบาทหรือร้อยละ 5.7 จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรค Covid-19
ในส่วนของต้นทุนการให้บริการ ก็เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 44 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.8 ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย
ขณะที่ค่าตัดจำหน่ายลดลงเนื่องจากต้นทุนสิทธิในการใช้ประโยชน์บนงานก่อสร้างทางด่วนของทางพิเศษศรีรัช ส่วนเอ บี ซี ตามสัญญาสัมปทานฉบับเดิมได้ถูกตัดจำหน่ายหมดแล้วในไตรมาสนี้
สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย และค่าใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ระยะที่ 2 สถานีหัวลำโพง – สถานีหลักสอง
Category: