“มายา” นิทรรศการศิลปะเพื่อสังคม

เปิดตัวกันไปแล้วอย่างเรียบง่ายและอบอุ่นกับนิทรรศการ “มายา” นิทรรศการเดี่ยวในรูปแบบของงานศิลปะสมัยใหม่ครั้งแรกของศิลปินหนุ่มรุ่นใหม่ “แทน โฆษิตพิพัฒน์” ทายาทเพียงคนเดียวของศิลปินแห่งชาติ “อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ซึ่งจัดแสดง ณ Bowen Hall ล้ง 1919 โดยในงานนี้คับคั่งไปด้วยแขกผู้มีเกียรติและศิลปินชื่อดังมากมายที่มาร่วมให้กำลังใจแก่ศิลปินหนุ่มและเป็นสักขีพยานในงานเปิดตัวนิทรรศงาน “มายา” ครั้งนี้

นิทรรศการ “มายา” เป็นนิทรรศการงานศิลปะสมัยใหม่ที่จัดแสดงงานผ่านอุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัย ผสมผสานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดสำคัญของงาน คือ ความเป็น “มายา” ของโลกอินเตอร์เน็ตที่ถูกผู้คนตีตราว่าเป็นความหลอกลวงและความไม่จริง หากแต่แทนผู้ซึ่งใช้ชีวิตและเติบโตมากับอินเตอร์เน็ตกลับมีมุมมองที่แตกต่าง เขามองว่าอินเตอร์เน็ตเปรียบเสมือนหน้าต่างบานใหญ่ที่ทำให้มองเห็นภาพในโลกกว้าง และเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน โลกออนไลน์ทำให้แทนได้รู้จักกับเพื่อนมากมายจากทั่วทุกมุมโลก

แม้ว่าบางคนจะยังไม่เคยเจอหน้าแต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ด้วยการจัดแสดงศิลปะผ่าน “แท็บเลต” จำนวน 60 เครื่อง เป็นช่องทางการสื่อสารและเล่าเรื่องราวผ่านคลิปวิดีโอมากกว่า 600 คลิป ที่แทนรวบรวมมาจากเพื่อนทุกมุมโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวและประสบการณ์ของแต่ละคน รวมถึงความสัมพันธ์ของผู้คนในโลกยุคอินเตอร์เน็ต แม้ว่าโลกออนไลน์จะดูเป็นภาพมายาสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่แทนก็จะได้แสดงให้เห็นว่าแท็บเลตแต่ละเครื่องได้สะท้อนให้เห็นภาพของความเป็นจริง และตีแผ่จิตใต้สำนึกของมนุษย์ได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้แท็บเลตทั้ง 60 เครื่อง ที่นำมาใช้ในนิทรรศการครั้งนี้ ภายหลังจากเสร็จสิ้นการจัดแสดงนิทรรศการจะถูกมอบให้กับโรงเรียน 3 แห่งในจังหวัดเชียงราย ได้แก่ โรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล โรงเรียนบ้านแม่ตาแมว และโรงเรียนบ้านสันหลวงสามัคคี เพื่อให้เป็นประโยชน์ในการส่งเสริมการศึกษาให้กับนักเรียนต่อไป โดยในพิธีเปิดได้มีการรับมอบแท็บเลตให้แก่ คุณกมล ดาระสุวรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเชียงรายประชานุกูล เป็นผู้แทนของทั้งสามโรงเรียนในการรับมอบ

โดยแทนเปิดเผยว่าเป็นความตั้งใจส่วนตัวที่ต้องการจะให้งานศิลปะสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมด้วยไม่ใช่แค่พอเสร็จงานก็จบกันไป และที่เลือกใช้แท็บเลตแทนที่จะใช้โปรเจคเตอร์ฉายอย่างที่ใครหลายคนบอกว่าประหยัดกว่าการใช้แท็บเลตถึง 60 เครื่อง นั่นก็เพราะสามารถนำแท็บเลตที่ใช้ในการจัดแสดงไปส่งต่อให้กับน้อง ๆ ตามโรงเรียนเพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาได้อีกด้วย

นิทรรศการครั้งนี้ยังมีโซนจัดแสดงสำหรับงานเขียน “วาดเส้นและจิตรกรรม” ผลงานส่วนตัวที่แทนเก็บสะสมไว้กว่า 40 ชิ้น ภายใต้แนวคิดมายา ซึ่งตั้งใจจะเปิดจำหน่ายและนำรายได้จากการจัดจำหน่ายมอบให้แก่ ศูนย์สิริกิตติ์บรมราชินีนาถเพื่อโรคมะเร็งเต้านมและเพื่องานวิจัยนวัตกรรมใหม่ในอนาคตของศูนย์สิริกิตติ์บรมราชินีนาถ จำนวน 1,000,000 บาท โดยมีนายแพทย์กฤษณ์ จาฏามระ หัวหน้าศูนย์สิริกิตติ์บรมราชินีนาถและประธานมูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ เป็นผู้รับมอบ

นายแพทย์กฤษณ์ จาฏามระ ได้กล่าวว่า ศูนย์สิริกิตติ์บรมราชินีนาถเพื่อโรคมะเร็งเต้านมจัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม และโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของเต้านมสำหรับผู้หญิงอย่างครบวงจร รวมถึงเป็นแหล่งพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญให้กับแพทย์ด้านมะเร็งเต้านมทุกสาขา ในการกระตุ้นให้ประชาชนเข้าใจและตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก

ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในหญิงไทย ทั้งนี้ศูนย์สิริกิตติ์บรมราชินีนาถเพื่อโรคมะเร็งเต้านม ได้สร้างจากเงินบริจาคทั้งหมดและถือได้ว่าเป็นศูนย์มะเร็งเต้านมที่ดีที่สุดในประเทศไทย และในเวลานี้มีมูลนิธิที่จะสร้างศูนย์พักพิงเพื่อดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกขั้นสุดท้าย ซึ่งขาดแคลนโอกาสและทุนทรัพย์ในการรักษา โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ขึ้นที่มีนบุรี

นอกจากที่นิทรรศการ “มายา” จะเป็นการจัดแสดงงานศิลปะสมัยใหม่ ซึ่งสะท้อนแนวคิดและทัศนคติของศิลปินหนุ่มรุ่นใหม่ผู้นี้ต่อโลกออนไลน์ภายใต้แนวคิด “มายา” แล้ว นิทรรศการนี้ยังได้สร้างคุณประโยชน์อย่างมากมายให้แก่สังคม เรียกได้ว่างานนี้ได้สร้างคุณค่าทั้งในเชิงศิลปะและสร้างคุณค่าในเชิงสังคมได้อย่างดีเยี่ยม ถือเป็นย่างก้าวที่น่าสนใจสำหรับศิลปินรุ่นใหม่ที่จะสร้างผลงานและก้าวไปสู่การเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่เฉกเช่นเดียวกับพ่อของเขา