KTAM แนะลงทุนกลุ่มสินทรัพย์โภคภัณฑ์ หลังแนวโน้มพลังงานยังคงทรงตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง แนะ 2 กองทุน KT-ENERGY และ KT-MINING สุดยอดกองทุนแห่งการลงทุนพลังงาน น้ำมัน และก๊าซ ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า สอดรับกับเทรนด์ขาขึ้น
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงบ้าง ช่วยผ่อนคลายแรงกดดันในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ทำให้เศรษฐกิจโลกกลับมาสู่ทิศทางการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์ก็ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานที่แนวโน้มการลงทุนยังสดใส จากมุมมองนักวิเคราะห์ที่เชื่อว่า น้ำมันและก๊าซยังคงมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ซัพพลายยังจำกัด ส่งผลให้อุตสาหกรรมพลังงานน่าสนใจมากในช่วงนี้
“สินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานเป็นอีกหนึ่งธีมการลงทุนที่น่าสนใจในช่วงนี้ ด้วยสถานการณ์ที่ผ่อนคลายลงของโควิด-19 ทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงราคาพลังงานที่น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ยาวนานจากภาวะที่พลังงานขาดแคลนอันเนื่องมาจากการแก้ปัญหาโลกร้อน ทำให้ในอุตสาหกรรมนี้มีจำนวนบริษัทที่ผูกขาดตลาดอยู่ค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ซัพพลายโตไม่ทันความต้องการซื้อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยผลักดันให้กลุ่มธุรกิจนี้นำมาซึ่งอัตรากำไรที่สูง มีกำไรต่อหุ้นเติบโตขึ้นต่อเนื่อง เหมาะกับการลงทุนเพื่อรองรับภาวะเงินเฟ้อที่ค่อนข้างยาวนานและพลังงานขาดแคลนได้ดี จึงแนะนำให้นักลงทุนกระจายการลงทุนมายังประเภทสินค้าโภคภัณฑ์บ้าง”
KTAM จึงได้แนะนำ 2 กองทุนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เอ็นเนอร์จี ฟันด์ (KT-ENERGY) ที่เน้นลงทุนในกองทุนหลัก BGF World Energy Fund เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนำทั่วโลกซึ่งมีธุรกิจหลักในการสำรวจ พัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายพลังงาน นอกจากนั้น กองทุนหลักยังอาจลงทุนในบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากพลังงานทดแทน ซึ่งถ้าราคาพลังงานยังคงทรงตัวในระดับสูง กองทุนนี้จะน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะบริษัทในอุตสาหกรรมพลังงานที่ได้อานิสงส์จากราคาที่เพิ่มขึ้น มีแนวโน้มกำไรที่สูงขึ้น จ่ายปันผลได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาของหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอยู่มาก
อีกหนึ่งกองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด เคแทม เวิลด์ เมทัล แอนด์ ไมน์นิ่ง ฟันด์ (KT-MINING) ที่เน้นลงทุนในกองทุนหลัก Allianz Global Metals and Mining Fund เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับโลหะและแร่ต่างๆ เช่น การสำรวจ ขุดเจาะ แปรรูป และการทำเหมืองต่างๆ เป็นต้น โดยโลหะและแร่ต่างๆ เป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่ระดับราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ โลหะบางประเภท เช่น ทองแดง นิกเกิล และอลูมิเนียม ก็เป็นวัตถุดิบที่สำคัญของอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด ไม่ว่าจะเป็น โซล่าร์เซลล์ กังหันลม หรือยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น ดังนั้น KT-MINING จึงเป็นอีกกองทุนที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตในระยะยาวอีกด้วย