หากไม่รวมประเทศไทย หนึ่งในประเทศที่อยู่ในใจหลายคนผมเชื่อว่าจะต้องมีประเทศญี่ปุ่นติดอยู่แน่นอน ด้วยความที่ญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์มีสไตล์เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่วัฒนธรรมการกินอาหาร มารยาททางสังคมแม้กระทั่งเรื่องของแฟชั่นการแต่งตัว แต่เพื่อน ๆ เคยสังเกตไหมว่าเวลาที่เราดูภาพยนตร์ญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งการ์ตูนญี่ปุ่น เราจะเห็นนักแสดงใส่เสื้อแจ๊กเก็ตที่มีการปักลายขนาดใหญ่ดูน่าเกรงขาม ส่วนใหญ่จะเป็นลายมังกร ลายนกกระเรียน หรือลายซามูไรอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเสื้อประเภทนี้ถูกเรียกอย่างเป็นทางการว่า “ซูกะจัง” เกิดเป็นความสงสัยให้กับทีมงาน Passion Market จึงได้ติดต่อขอสัมภาษณ์คุณอัศวิน ไชยจางตระกูล (วิน) แจ้งของแบรนด์เสื้อ “Sukajan bkk”
คุณอัศวินกล่าวว่า เสื้อแจ๊คเก็ตซูกะจัง มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากญี่ปุ่นแพ้สงครามให้กับอเมริกา ซึ่งทหารอเมริกาหลังจบสงครามจึงอยากมีของติดไม้ติดมือไปฝากเพื่อน ฝากเจ้านายก็เลยให้คนญี่ปุ่นนำเสื้อของทหาร เสื้อของนักบินมาปักเป็นลายพื้นเมืองของญี่ปุ่นเพื่อเป็นการระลึกถึงเกิดเป็นเสื้อซูกะจังตั้งแต่นั้นมา
เกิดความหลงใหล จากคนใกล้ตัว
“ส่วนตัวผมชอบเสื้อประเภทนี้มานานแล้ว ผมใส่มาตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อน เห็นจากคนใกล้ตัวที่ใส่แล้วดูเท่ดูแตกต่าง เสื้อประเภทนี้มันมีเอกลักษณ์ที่เป็นตัวของตัวเองไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน จุดนี้แหละที่ทำให้ผมเห็นโอกาสและแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นธุรกิจ”คุณอัศวินกล่าว
ด้วยความที่เสื้อแจ๊คเก็ตซูกะจังมีราคาค่อนข้างสูงตัวนึงหลายพันบาทไปจนถึงหลายหมื่นบาท คุณอัศวินกล่าวว่า แรก ๆ ก็ไปหาเสื้อซูกะจังมือสองมาลองทำตลาดดูก่อน เคยไปรับซื้อมาเพียงตัวละ 300 บาท แต่มาโพสขายได้ตัวละ 4-5 พันบาทจึงเกิดเป็นไอเดียว่าถ้าได้ทำเอง ผลิตเองเป็นมาตรฐานของคนไทยคิดว่าจะต้องมีคนที่สนใจแน่นอน แม้จะเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีพลังซื้อได้อย่างดี
“ลายที่เราปักลงบนเสื้อทุกตัวเป็นลายที่ถูกต้อง ไม่ติดลิขสิทธิ์วาดโดยคนไทย ส่วนงานปักทางร้านมีพาร์ทเนอร์อยู่ที่ประเทศจีน แต่เราต้องไปกำหนดมาตรฐานและคุณภาพว่าต้องเป็นไปตามเกณฑ์ ซึ่งเสื้อแต่ละตัวจะใช้เวลาในการผลิตค่อนข้างนานอย่างต่ำตัวละ 8-12 ชั่วโมง นี่แหละคือเสน่ห์ของเสื้อประเภทนี้”
คุณอัศวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า มีลูกค้าจากหลายประเทศเห็นผลงานและคุณภาพของร้าน Sukajan bkk และติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายมามากมาย แต่ทางร้านมองว่าอยากขอเวลาอีกสักพักเพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าให้สูงกว่านี้ก่อน และมั่นใจว่าสินค้าของไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกที่ผลิตเสื้อประเภทเดียวกัน ขณะที่ราคาจำหน่ายของทางร้านก็ไม่ได้ตั้งราคาที่สูงเกินไปอยู่ที่ตัวละพันกว่าบาทไปถึงตัวละสองพันกว่าบาทเท่านั้น
สำหรับข้อคิดดี ๆ ในการเริ่มต้นธุรกิจนั้น คุณอัศวินฝากไว้ว่า ควรหาข้อมูลและรู้ให้ลึกเกี่ยวกับสินค้าของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การทำธุรกิจหากเรารู้มากกว่าคู่แข่งเพียงนิดเดียวโอกาสที่จะสำเร็จก็จะเห็นอยู่ตรงหน้า
ทั้งหมดที่กล่าวมาคือ เด็กหนุ่มที่เริ่มต้นธุรกิจจากแรงบันดาลใจเล็ก ๆ ที่อยากจะเห็นความแตกต่างและไม่ต้องการไปวิ่งตามคู่แข่ง กลายเป็นโอกาสดี ๆ ในชีวิต โอกาสหน้า Passion Market จะพาทุกคนไปพบธุรกิจที่มีแรงบันดาลใจอะไร รอติดตามนะครับ สำหรับวันนี้….สวัสดีครับ
Category: