เราสามารถที่จะช่วยลดปัญหาโ,กร้อนได้หลายวิธี เพราะทุกย่าวก้าวของเรา มีโอกาสสร้างมลพิษให้กับโลกใบนี้ เจอนี่ UPDATE สัปดาห์นี้ มีเรื่องราวรอบโลกมาฝาก
เรือเหาะไฮโดรเจน ทางเลือกใหม่ขนส่งสินค้า
มาดูแนวคิดใหม่ของบริษัทสตาร์ตอัป H2 Clipper ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งเปิดตัวเรือเหาะไฮโดรเจนที่จะนำมาใช้ในการขนส่งสินค้าทางอากาศ มีขีดความสามารถในการบรรทุกสินค้าได้มากกว่าเครื่องบินขนส่งปกติทั่วไป 8-10 เท่า ขนส่งสินค้าระยะทางไกล 9,600 กิโลเมตร ทำให้ประหยัดต้นทุนในการขนส่งสินค้าลงได้ 4 เท่า
เทคโนโลยีเรือเหาะไฮโดรเจนขนาดใหญ่นี้ พัฒนามาจากเรือเหาะที่เคยได้รับความนิยมในอดีตมาปรับปรุงประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้สามารถบรรทุกสินค้าน้ำหนักมากกว่า 150 ตัน ภายในห้องเก็บสินค้าเนื้อที่มากกว่า 7,530 ลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตามเรือเหาะไฮโดรเจน็มีข้อจำกัดในด้านความเร็ว โดยสามารถบินด้วยความเร็วสูงสุดเพียง 282 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วที่น้อยกว่าเครื่องบินขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ แต่ยังเป็นความเร็วที่มากกว่าการขนส่งด้วยรถบรรทุกหรือเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 7-10 เท่า
จุดเด่นของเรือเหาะไฮโดรเจน คือ การใช้พลังงานสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนในการผลิตกระแสไฟฟ้า มีพิสัยการบิน 800-9,600 กิโลเมตรต่อการเปลี่ยนเซลล์เชื้อเพลิง 1 ครั้ง
นอกจากนี้บริเวณด้านบนของเรือเหาะยังได้รับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์สำหรับสร้างพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เพื่อช่วยในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมใบพัดขณะเดินทางบนอากาศ
ปัจจุบันหลายประเทศเริ่มให้ความสนใจการใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด และเรือเหาะไฮโดรเจนนี้ ก็เป็นอีกรูปหนึ่งของการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีใหม่ที่บริษัทนำเสนอนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการวิจัยพัฒนาเพิ่มเติม บริษัทมีแผนการทดสอบนำเรือเหาะไฮโดรเจนบินขึ้นสู่อากาศครั้งแรกในช่วงปี 2024 และมีแผนการสร้างเพิ่มกว่า 100 ลำ ภายในช่วงปี 2030 เพื่อให้บริการขนส่งสินค้าในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขนส่งสินค้าข้ามทวีป
McDomald's เปิดตัวสาขา Net Zero แห่งแรกของโลก
ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด นับว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกออกมา ทั้งในกระบวนการประกอบอาหารและในส่วนของการบริโภค
ล่าสุด แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่อย่าง McDonald’s ได้เปิดตัวสาขา Net Zero แห่งแรกของสหราชอาณาจักร และยังถือเป็นแห่งแรกของโลก ที่เมืองมาร์เก็ตเดรย์ตัน รัฐชร็อพเชียร์
McDonald’s สาขานี้ ออกแบบมาเพื่อให้มีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ทั้งในแง่ของการก่อสร้างและการดำเนินงานในแต่ละวัน
ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานหมุนเวียนจากกังหันลม 2 ตัว และใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 92 ตร.ม. ช่วยประหยัดไฟฟ้า
การใช้วัสดุรีไซเคิลมาเป็นองค์ประกอบของอาคาร เช่น วัสดุหุ้มอาคารที่ทำมาจากวัสดุ IT เหลือใช้ และใช้ฉนวนกันความร้อนจากขนแกะ รวมไปถึงก้อนอิฐที่ทำเป็นขอบถนน
ช่องจราจร Drive-thru ทำมาจากยางรีไซเคิล นอกจากนี้ยังทำป้ายติดบนผนังจากเมล็ดกาแฟที่ใช้แล้ว มีจุดชาร์จรถยนต์ EV และใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล 100%
ภายนอกมีสวนสีเขียว เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพและมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ออกแบบโดยเด็กๆ จาก Market Drayton Junior School
ด้านวัตถุดิบอาหารนั้นจะจัดหาแหล่งที่มาในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ใช้เนื้อวัวอังกฤษและไอริช 100%
ส่วนบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ใส่อาหารและเครื่องดื่ม จะใช้เหมือนกับสาขาอื่นๆ โดย 93% จะเป็นวัสดุหมุนเวียน รีไซเคิล ผ่านการรับรอง และออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือย่อยสลายได้ พร้อมตั้งเป้าทำบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวให้ได้ทั้งหมดภายในปี 2024
ทั้งนี้ แมคโดนัลด์ตั้งใจจะใช้สาขามาร์เก็ตเดรย์ตันนี้เป็น ‘พิมพ์เขียว’ เพื่อสร้างแมคโดนัลด์สาขาอื่นๆ ให้สำเร็จตามเป้าหมายภายในปี 2040 ด้วย
จริง ๆ แล้ว ที่ผ่านมา McDonald’s ได้แสดงจุดยืนในการพัฒนาการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโลกอย่างชัดเจนมาตลอด โดยนำเสนอแผนความยั่งยืนที่หลากหลายตั้งแต่การเปลี่ยนของเล่น Happy Meal ให้ใช้วัสดุธรรมชาติมากขึ้น ไปจนถึงการแนะนำเมนูทางเลือกที่เป็นอาหารมังสวิรัติ และเพื่อทำให้การดำเนินงานของร้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
Category: