DUEL ART EXHIBITION งานแสดงผลงานของศิลปินสองรุ่นที่มีความชอบและหลงใหลในอาวุธปืนเหมือนกัน ผ่านการทำงานศิลปะที่แตกต่างกัน “ปืน” ถูกมองว่าเป็นของต้องห้าม อันตราย ก่อให้เกิดความรุนแรงและนำมาซึ่งความเศร้าโศก และการสูญเสีย แต่ยังมีอีกหลายแง่มุมในการบอกเล่าที่เกี่ยวกับปืน ความงดงาม แง่คิด และงานศิลป์ที่ใช้ “ปืน” แทนปลาย “ภู่กัน”

 

อะไรคือ “แรงบันดาลใจ” ที่อยู่เบื้องหลังผลงานของศิลปินทั้งสองคน ปิยทัต เหมทัต และ แทน โฆษิตพิพัฒน์ สองศิลปินรุ่นใหม่จะมาบอกเล่าถึงแรงบันดาลใจที่ใช้ปืนสร้างสรรค์ผลงานแทนพู่กัน การสร้างสรรค์งานศิลปินด้วยปืนจะเป็นอย่างไร…

ปิยทัต เหมทัต (โอ๋) ศิลปิน

คอนเซ็ปต์งานวันนี้

คอนเซ็ปต์ของงานวันนี้คือ เอาปืนมาทำงานศิลปะครับ ใช้ปืนกับกระสุนแทนพู่กัน แล้วไอเดียเนี่ยมันมีอยู่ในงานเยอะมาก มีการพูดถึงหลายแง่ที่เกี่ยวกับเรื่องปืนและอาวุธ เริ่มจากความเป็นขั้วที่มันย้อนแย้งกันแต่ว่ามันอยู่ด้วยกัน อาทิเช่น ความสร้างสรรค์กับความทำลายล้าง “เปรียบเสมือนกับสองด้านของเหรียญเดียวกัน เพราะว่าปืนเนี่ยหรือว่าอาวุธสงครามเนี่ยเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำที่สุดในโลก แล้วก็เป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในเวลาเดียวกันเนี่ย แต่ละประเทศก็ยังแข่งกันพัฒนาอาวุธให้ล้ำกว่ากันจนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ เพราะฉะนั้นจินตนาการ ความสร้างสรรค์ ไอเดีย เงินทุนมหาศาลแบบไม่อั้นจึงไปอยู่ในวงการนี้เพื่อสร้างสิ่งที่ทำลายล้างออกมา จึงเห็นได้ชัดว่ามันเป็นขั้วของ “ความสร้างสรรค์” และ “การทำลายล้าง” อยู่ด้วยกัน

แรงบันดาลใจของงานชุดนี้

ตอนที่นี่เริ่มงานนี้ผมก็ไปวิจัยและก็หาแง่มุมต่างๆที่จะมาใช้พลิกแพลงออกมาเป็นชิ้นงานได้ ทำให้พบเจอหลายสิ่งหลายอย่าง เริ่มต้นจากภาพชุดที่เป็นระเบิดควันที่ออกมาจากลำกล้องของปืนแต่ละขนาด มันมีรูปทรงต่างๆ กัน แล้วผมรู้สึกว่าถ้าเราเก็บสะสมเชฟของระเบิดที่ออกมาจากลำกล้องได้เพียงพอ ก็จะสามารถที่จะมาจัดวางด้วยกันแล้วมันก็ให้อารมณ์ที่เหมือนกับมองออกไปนอกจักรวาล คล้ายกับการระเบิดของจักรวาล ดวงดาวต่างๆ

 

หลังจากผลงานแรกเสร็จ ก็มีไอเดียผลิตชิ้นงานออกมาเรื่อยๆ ก็ไปถึงกระสุนที่เป็นกระสุนหัวระเบิดที่เมื่อเวลาไปปะทะอะไรบางอย่างแล้วมันจะบานมีรูปทรงที่เหมือนดอกไม้ ก็ทำให้เห็นว่าดีไซน์ของกระสุนเนี่ยมันเป็นโลหะพอบานออกดูเป็นดอกไม้เป็นความผสมผสานของ Organic และ Machanic และมีความสวยงามอยู่ในตัว ถ้าไม่บอกว่าเป็นกระสุนคนก็จะมองว่าเป็นดอกไม้เป็นอันดับแรก แต่พอบอกว่าเป็นกระสุน ทุกคนก็จะอุทานบอกมันตรงกันข้ามขนาดนั้นเลยหรอ จึงเป็นผลงานที่มีความย้อนแย้งที่น่าสนใจอยู่ในตัว

 

พอทำกระสุนเสร็จก็ย้อนกลับเข้าไปในใกล้ตัวปืนมากขึ้น ถึงพวกลำกล้องของปืนที่ปกติแล้วคนส่วนใหญ่เนี่ยเราจะเลี่ยงทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ไปอยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องเห็นลำกล้องปืนมาอยู่ข้างหน้าเรา แต่แท้จริงแล้วลำกล้องปืนก็มีมิติของความสวยงาม การดีไซน์ ความพิถีพิถัน ที่คนออกแบบปืนเขาใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไป แต่โดยปกติแล้วมันเป็นมิติที่ซ่อนอยู่ที่คนทั่วไปจะไม่ได้เห็น ก็เป็นโอกาสที่จะนำเสนอสิ่งเหล่านี้ออกมาให้คนได้ดูด้วย

การจัดแสดงผลงานศิลป์ครั้งนี้ เราอยากจะสื่อสารอะไรกับสังคม

ผมอยากจะสื่อสารว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องใกล้ตัว หลายคนอาจจะคิดว่ามันห่างไกลกับชีวิตประจำวัน แต่จริงๆแล้วมันอยู่ในชีวิตประจำวันล้อมรอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเทคโนโลยีมันไม่ใช่จำกัดอยู่แค่ปืน คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต จีพีเอส ดาวเทียม ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีเหล่านี้ได้ถูกพัฒนาเพื่อเอาไปทำสงคราม ก่อนที่จะมาถึงเราที่ปลายน้ำ เขาพัฒนาไปถึงจุดหนึ่งแล้วมันตกรุ่นก็จะมาถึงพวกเรา สิ่งนี้เป็นวงจรที่เลี่ยงไม่ได้และทุกคนก็ติดอยู่ในบ่วงนี้ด้วยกันทั้งหมด

เราก็อยู่ในบ่วงของเทคโนโลยี

ใช่ครับ และเทคโนโลยีนี่เองที่จะเปิดเผยว่า แต่ละคนเลือกใช้มันอย่างไร บางคนใช้ไปในทางที่ดี บางคนใช้ไปในทางที่ไม่ควร ผลของมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับปืนแต่ขึ้นอยู่กับคนจับปืน เทคโนโลยีอาจจะรวมถึง โทรศัพท์มือถือ เราก็สามารถใช้มันไปในทางที่ลบได้เหมือนกัน หรืออินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ ที่เป็นศูนย์รวมของความรู้ของมนุษย์ชาติ เราจึงควรเสพมันได้อย่างสร้างสรรค์ แต่ก็เห็นคนหลายคนเลือกเสพอะไรที่ฉาบฉวย เป็นภาพลวงตา สร้างค่านิยมที่บางทีไม่ดีกับตัวเราเอง  หรือบางทีเราใช้เวลากับมันเยอะเกินไป จนเราไม่ได้ดูแลตัวเอง ไม่ได้ออกกำลังกาย

ทำไมถึงเป็นการ Duel

งานนี้ตอนแรกที่ผมเริ่มทำผมไม่มีความรู้เรื่องปืนเลยแต่มีไอเดียที่รู้ว่าอยากทำอะไร แล้วก็เลยนึกถึง “แทน” เพราะว่ามีประสบการณ์ด้านยิงปืนและแทนเป็นเจ้าของสนามยิงปืนด้วย แล้วแทนก็เป็นศิลปินด้วยจึงมีความเข้าใจในการสร้างสรรค์งาน ผมจึงขอให้แทนมาช่วยตั้งแต่ผลงานแรกๆ ที่มีไอเดียอยากจะถ่ายรูประเบิดที่ออกมาจากลำกล้อง นั่นคือจุดเริ่มต้น

แล้วงานก็ไม่ได้ไปทำครั้งเดียวเสร็จ ต้องทำ 7-8 ครั้ง กว่าจะได้รูปที่มากพอจะจัดแสดง แล้วระหว่างทางที่ทำงาน แทนก็เริ่มมีไอเดียกับการสร้างสรรค์งานของตัวแทนเองที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปืนเช่นกัน…จนมาถึงวันหนึ่งก็นั่งทานข้าวเย็นกันกับคุณแม่ของแทนหลังจากไปถ่ายรูปปืนน่ะครับ คุณแม่ของแทนจึงทักขึ้นมาว่าทำไมไม่จัดแสดงผลงานด้วยกันเลยหล่ะ ผมเองเห็นว่าน่าสนใจ เลยชวนแทนบอกมา DUEL กันสักรอบไหม ผมว่าเป็นฤกษ์งามยามดีเพราะผมก็รักแทนเหมือนน้อง และคุ้นเคยกับบ้านของน้องแทนเป็นอย่างดีสนิทเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน 

 

จึงอยากจะเชิญชวนคนที่สนใจ ไม่ว่าคนที่สนใจถ่ายรูป คนที่สนใจยิงปืน ลองมาดูครับว่า งานภาพ งานศิลปะที่ทำด้วยปืนออกมาเป็นยังไงครับ ผมว่าผลงานนี้ก็เป็นสิ่งที่ค่อนข้างแปลกใหม่

แทน โฆษิตพิพัฒน์

คอนเซ็ปต์งานครั้งนี้เป็นอย่างไรครับ

คอนเซ็ปต์งานครั้งนี้ มันเป็นคอนเซ็ปต์ที่ใหญ่มาก แต่ว่าที่แน่ๆ เป็นผลงานที่ทำด้วยอุปกรณ์หรือว่าวัตถุบางอย่างที่มาจากปืนหรือว่ากระสุนนั้นเอง แรงบันดาลใจของงานครั้งนี้ก็มาจาก “ปืน” ซึ่งเป็นงานอดิเรกของผมอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้ว ก็อยู่กับพวกปืน ทั้งสะสมด้วยแล้วก็แข่งขันด้วย ทำมาสักประมาณ 6-7 ปีแล้วตั้งแต่ที่กฎหมายอนุญาตให้ซื้อได้

จากงานอดิเรก ทำไมถึงมาเป็นงานศิลป์

ผมเห็นว่าศิลปินหรือคนทำงานอาร์ตส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ ปืน จะมีแง่มุมที่แตกต่างกัน ส่วนผมก็จะทำในอีกแง่มุมหนึ่ง แต่งานอาร์ตสไตล์ผมจะทำจากคนที่รู้จักกับปืน หลงใหลกับปืน ก็อาจจะมีเพอร์สดปคทีฟหรือแง่มุมที่แตกต่างกันกับศิลปินคนอื่น ผมว่านี่มันคืออะไรที่อยากจะแบ่งปันกับคนที่เข้ามาชมงานด้วยครับ

จุดที่น่าสนใจ หรือที่อยากเน้นในการแสดงงานครั้งนี้

ปืน เป็นอะไรที่มันเป็นเหมือนสิ่งต้องห้ามที่คนในสังคมทั่วไปรับรู้ แต่ในการทำงานศิลป์ของผมให้คนมาเดินดู จะเป็นในอีกแง่มุมนึงของปืน มันเป็นอีกมุมนึงของศิลป์ด้วยเช่นกันครับ

 

การแสดงผลงานครั้งนี้ จริงๆ แล้วผมไม่ได้อยากจะเปลี่ยนมุมมองของคนที่มาชม หรือว่าเสนอมุมมองของผมออกไป แต่ผมอยากจะให้สิ่งที่เราเรียกว่าปืน ที่สะท้อนออกไปจากตัวเรามันกลายเป็นงานศิลป์ ที่มีความสวยงาม มีความหมาย แล้วแต่คนที่มาชมจะคิดและสะท้อนออกมาเป็นแง่มุมของตัวเอง ซึ่งจริงๆ ผลงานก็มีความคิดมีความหมาย แต่ว่านั่นคือมุมมองของผม เป็นความเชื่อของผมด้วย แต่ผมไม่อยากจะเปลี่ยนมุมมองของคนอื่นที่มาชมผลงาน ผมคิดว่าปืนมันเป็นอะไรที่เป็นกลางอยู่แล้ว ใครที่เดินเข้ามา ความเชื่อเกี่ยวกับปืน ประสบการณ์เกี่ยวกับปืนไม่เหมือนกัน ผมก็อยากมุมมองของแต่ละคนอยู่อย่างนั้น แต่อยากให้เขาได้มา ได้สัมผัส เข้าใกล้ แล้วก็มองอีกมุมหนึ่ง คิด ค้น หาในเรื่องที่เกี่ยวกับปืนมากกว่า

DUEL ในชื่อของงานนี้ หมายถึงอะไร

คำว่า “DUEL” พี่โอ๋ ปิยทัต เป็นคนตั้งชื่อ ซึ่งมีความหมายว่า “ดวล” มาดวลกัน แต่ไม่ใช่หมายความว่าเราโกรธกันหรืออะไรกัน แต่เป็นการสนทนากันมากกว่าระหว่างชิ้นงานที่ไม่เหมือนกัน แต่ว่าจริงๆ มีพื้นฐานมาจากสิ่งเดียวกันก็คือ อาวุธปืน พี่โอ๋กับผมเป็นคนที่ชอบปืนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แล้วนอกจากที่เราชอบงานศิลปะด้วยกัน เราก็ชอบพวกอาวุธปืนเหมือนกันด้วยครับ

 

ผมเองอยากจะให้คนที่มาชมงานครั้งนี้ได้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกับการชมผลงานอื่นๆ งานนี้คอนเซ็ปต์มันแปลกอยู่แล้ว คนทำก็แปลกอยู่แล้ว ผมก็หวังว่ามาแล้วได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนเดิม นอกจากในเรื่องปืนแล้วก็อยากจะให้คนเข้าใจธรรมชาติของปืนด้วย ว่าทำไมมันอยู่ในสังคมเรา แล้วในสังคมเราทำไมจึงยอมรับการมีอยู่ของมัน  

Passion in this story