Menu
เอ่ยชื่อแบรนด์ Miss Mamon แล้ว เชื่อว่า คงไม่มีใครที่ไม่รู้กับ เค้กเนื้อนุ่มๆ โรยหน้าด้วยเครื่องแน่นๆ ทั้งฝองทอง ชีส ผลไม้ ลูกเกด และอีกหลากหลายหน้า แต่รู้หรือไม่ว่า กำเนิดของแบรนด์นี้ไม่ธรรมดา เพราะได้ผ่านการคิดค้น วางแผน พัฒนา จนกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ ลูกค้าทานแล้วติดใจ ประทับใจ
อย่างไรก็ตามในช่วงโควิดที่ผ่านมา ธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ Miss Mamon ก็เช่นกัน เพราะสาขาส่วนใหญ่อยู่ในห้างสรรพสินค้า เมื่อห้างถูกสั่งปิด จึงเป็นวิกฤต.. หรือโอกาสให้ Miss Mamon ปรับตัวและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง … Passion Gen เชื่อว่า สิ่งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้อีกหลายคน หลายครอบครัว หลายธุรกิจ…
จึงติดต่อ วรวุฒิ นิสภกุลธร ผู้ก่อตั้ง และเจ้าของแบรนด์ Miss Mamon, TAROTO เพื่อให้ถ่ายทอดเคล็ดลับและกลยุทธ์ในการฝ่าวิกฤต
“สวัสดีครับ วรวุฒิ นิสภกุลธร เจ้าของร้านขนม Miss Mamon และขนมไต้หวัน Taroto ครับ เราอยู่ในธุรกิจเบเกอรี่ ผมเชื่อว่าหลายๆคนรู้จักแบรนด์เบเกอรี่โฮมเมด Miss Mamon จุดเด่นของเราคือ ขนมมาม่อนเค้ก ที่เปิดให้บริการมา 16 ปีแล้วและแบรนด์น้องใหม่เป็นขนมหวานไต้หวันสไตล์ dessert Cafe เทรนด์สุขภาพ Healthy Dessert เทรนด์สุขภาพ หวานน้อย ชื่อแบรนด์ TAROTO”
เราเริ่มต้นมาอย่างไร
ผมก็เหมือนกับทุกๆคน “มีความฝันว่าอยากจะมีกิจการร้านขนม ร้านกาแฟ ผมก็ไม่ต่างจากทุกคน” อยากมีธุรกิจตัวเอง แต่จะเริ่มต้นจากอะไรดี ผมกับภรรยามองอะไรที่ใกล้ตัว ที่เราชอบ เริ่มต้นจากความชอบก่อน เราชอบท่องเที่ยว เราชอบไปนั่งกินร้านคาเฟ่ เราชอบทานขนม เราชอบหาของอร่อยทาน ก็เลยมองจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้น ถ้าถามว่า ทำขนมน่าสนใจไหม? ผมมองว่าธุรกิจเกี่ยวของกินเป็นปัจจัย 4 อย่างไรก็น่าจะอยู่รอดได้
มาม่อนมีที่มาอย่างไร
เราเป็น SME วันที่คิดเริ่มต้นธุรกิจ เรามองเรื่องความแตกต่างก่อน 16 ปีที่แล้วแบรนด์ร้านขนมเบเกอรี่มีไม่มาก นับแล้วไม่เกิน 5 ราย แต่ปัจจุบันมีเป็นจำนวนมาก ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์นอก มีคาเฟ่ต์เก๋ๆ เกิดขึ้นมากมาย วันนี้ผู้บริโภคมีทางเลือกเยอะ แต่ย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีก่อนแทบจะไม่มี
วันที่ผมเริ่มธุรกิจ ผมเริ่มจากความคิดในมุมการตลาดก่อน คำถามคือทำไมลูกค้าต้องซื้อเรา หากจะเปิดร้านสักร้านหนึ่งผมต้องหาเหตุผลก่อน ผมถามตัวเองว่าถ้าเปิดร้านมาหนึ่งร้าน ทำไมลูกค้าจะต้องเดินเข้าร้านเรา…
ผมเริ่มจาก “เราต้องแตกต่าง” ค้นหาว่าสินค้าอะไรที่ทำให้ร้านเราแตกต่างจากคนอื่น วันนั้นถ้าเราคิดแล้วทำเลย ทำขนมปังสังขยา ขนมปังไส้กรอก ผมว่าเราไม่น่าจะรอดมาถึงวันนี้ เพราะลูกค้าก็จะซื้อจากร้านที่มีชื่อเสียงกว่าเรา บังเอิญผมไปเจอสินค้าตัวหนึ่งในต่างประเทศตอนช่วงที่ท่องเที่ยว คือ “ขนมมาม่อน” ได้ชิมแล้วรู้สึกว่าอร่อยนะ กลับมาก็หาข้อมูลว่า พบวา มาม่อนคือขนมประเภทหนึ่ง ที่มีเนื้อนุ่มๆ เป็นประเภทของขนมปัง ขนมปังที่ทรงโค้งๆ เราเรียก ครัวซอง ถ้ามีรูตรงกลางเรียกโดนัท ส่วนที่นุ่มๆ ฟูๆ เรียกมาม่อน จุดนี้โดนใจผมเลย ในฐานะที่เราเป็นนักธุรกิจ นักการตลาด มันมีขนมประเภทนี้ในโลกนี้ด้วยเหรอ เราไม่รู้ เลยเป็นที่มาของความสนใจ
จุดเด่นของมาม่อน คือ ความนุ่มของขนมมาม่อน จะนุ่มมาก เราก็รู้สึกว่าตรงนี้น่าสนใจ จึงเป็นที่มาของแบรนด์มาม่อน และขนมมาม่อน เริ่มต้น เราใส่จุดขายลงไป ณ วันนั้นคือ เราไม่ใส่สารกันเสีย เพราะเชื่อว่าคนยังชอบขนมที่กินแล้วรู้สึก Healthy จุดขายที่สามคือ คนไม่ชอบขนมที่หวานมาก จึงเป็นจุดขายของเราว่าเป็น ขนมนุ่ม ไม่ใส่สารกันเสีย หวานน้อย ผมเชื่อว่าน่าจะเหมาะกับคนไทย แล้วก็เป็นการสร้างความแตกต่างว่า เขาไม่สามารถเจอขนมนี้ในร้านต่างๆที่เอ่ยนามมาได้ นั่นคือที่มาที่ไปของของขนมมาม่อน แล้วเราก็เอามาม่อน มาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ Miss Mamon
นั่นเป็นสเต็ปความคิด แต่บางทีทุกอย่างต้องอาศัยศิลปะ การคาดเดา และเหตุผลของการทำธุรกิจ ก่อนอื่นต้องหาช่องว่าง ก่อนว่า ช่องว่างในตลาดคืออะไร ช่วงนั้นเราเห็นว่าธุรกิจมาม่อนเค้กยังไม่มีใครขาย จึงเปิดตลาด ทำแพคเกจจิ้งให้ดี ทำให้สะอาด และเติมความวาไรตี้ที่คนไทยชอบ
สำหรับเรื่องการเปิดตลาก เมื่อ 15 ปีก่อน เรายังไม่มีแพลตฟอร์มออนไลน์ ยังไม่มี Facebook IG Tiktok ยังไม่มีห้างสรรพสินค้าเยอะแยะ ยังไม่มี Community Mall วันที่เราเริ่มเราอยากเข้าห้าง แต่แบรนด์เล็กๆ อย่างเรา เป็น SME ก็เป็นเรื่องยากห้างยังไม่ให้โอกาสเรา เราจึงเริ่มต้นคิดจากลูกค้าก่อนว่า ลูกค้าของเราอยู่ที่ไหน ชอบไปที่ไหน เราวิเคราะห์ว่า ลูกค้าของเราคือกลุ่ม Family และ Working People และเป็นเพศหญิง สาวๆในกลุ่มนี้มีพฤติกรรมที่ชื่นชอบการไปช้อปปิ้ง ไม่ห้างสรรพสินค้า ไปตลาดนัด เราจึงคิดว่า ควรเริ่มต้นที่ตลาดนัด และตลาดที่เหมาะสมกับแบรนด์เราก็ต้องเป็น Premium Grade นิดหนึ่ง ณ วันนั้น ตลาดลุงเพิ่ม หลังการบินไทย เป็นตลาดที่เหมาะสมกับเราที่สุดตลาดหนึ่ง เราจึงเริ่มที่ตลาดนี้เป็นที่แรก ปรากฎว่าลูกค้าชื่นชอบ ให้การตอบรับที่ดี ก็ขายอยู่ได้ 2 ปีครับ จึงเจอกับแมวมองของห้างสรรพสินค้า ที่มาสนใจเราและทาบทามเราให้เข้าไปขายในห้างฯ ซึ่งก็ตรงกับกลุ่มลูกค้าของเรา เราจึงเริ่มขายในห้างสรรสินค้าตั้งแต่วันนั้น
สองปีที่ผ่านมา โควิดส่งผลกระทบกับเราอย่างไร
เป็นช่วงที่หนักหนาสาหัสของทุกคน Miss Mamon ก็ไม่แตกต่างกัน เราก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับกระทบ เพราะร้านเราอยู่ในห้างเยอะพอสมควร …ถามว่าแนวทางปรับตัวของเรา ทำอย่างไร?
การทำธุรกิจที่สำคัญคือกลุ่มเป้าหมายหลักคือใคร? วันที่เราเจอปิดหน้าร้านในห้าง เราจึงมองว่า ลูกค้าของเราอยู่ที่ไหน วันนั้นห้างปิด แต่ที่อื่นไม่ปิด อาทิเช่น สถานีบริการน้ำมัน ฯลฯ เราจึงเริ่มมองการขายนอกห้างไปยังสถานีบริการน้ำมัน เราเริ่มมองเรื่อง Delivery ซึ่งเราทำมาก่อนโควิดสักพักนึงแล้วเพราะเราเห็นเทรนด์ลูกค้าที่เปลี่ยนไป จริงๆ แล้ว 10 กว่าปีที่ผ่านมา Miss Mamon ก็ปรับตัวมาตลอด ผมเชื่อธุรกิจต้องมีการปรับตัวตลอดเพื่อให้แบรนด์สดใหม่อยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นดายอิ้งแบรนด์ ก็คือแบรนด์ที่ตายในที่สุด
เราปรับตัวได้ขยายช่องทาง Delivery เราปรับตัวโดยการออกนอกห้างสรรพสินค้า อันนี้คือสองทิศทางหลักๆ ที่เราทำในช่วงโควิด นอกจากนั้นเราก็ไปปรับที่ตัวสินค้า ช่วงโควิดลูกค้าอยากกินอะไรที่สะอาด ปลอดภัย มาม่อนจึงปรับขนมของเรา จากเดิมเราไม่ใส่สารกันเสีย เราพัฒนาไปเป็น 0% Trans Fat ทุกอย่าง เราใช้เนยสดแท้ในการทำให้ลูกค้า และที่สำคัญในราคาที่สมเหตุสมผล
สินค้าของ Miss Mamon จากธรรมดาเราทำชิ้นใหญ่ เริ่มทำผลิตภัณฑ์ที่เป็นชิ้นเล็กออกมา เรียกว่า Finger Foods ลูกค้าขับรถไป วางขนมไว้ข้างๆ เปิดหยิบเข้าปากได้เลย ไม่ต้องกัดให้หกเลอะเทอะ ส่วนนี้เป็นรายละเอียดของการพัฒนาสินค้าในทุกจุดที่สอดรับกับสถานการณ์โควิด สินค้าชิ้นเล็กลง ราคาจับต้องได้ เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เราดูหมดเลย สินค้าควรจะเป็นอย่างไร ช่องทางการขายควรปรับไปทางไหน โปรโมชันมีทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ก็คือปรับทุกกระบวนท่าใน 4P เป็นช่วงเวลา 2 ปีที่ยาวนานเหมือน 5 ปี
“ผู้ประกอบการที่เป็น SME เราทำคนเดียวไม่ได้หรอกครับ ผมว่าเราขอบคุณทีมงาน ที่ช่วยฝ่าฟันกับเรามาทั้งหมด ผมก็เรียกประชุมทั้งบริษัท ไม่ว่าจะเป็นทีมฝ่ายขาย ทีมการตลาด ทีมฝ่าย Production ฝ่ายผลิต ก็จับไม้จับมือกัน ก็ขอบคุณน้องๆทุกคน ที่ทำให้วันนี้เราฝ่าฟันมาได้”
อยากให้เล่าถึงแบรนด์ TAROTO
ธุรกิจต้องมี Portfolio ที่หลากหลาย เรามีประสบการณ์ในมุมของขนม จึงมองว่าถ้าทำอีกธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจจะเป็นอะไร มีโจทย์ว่า ต้องอยู่ในธุรกิจขนมหวาน วิธีคิดเริ่มต้นคล้ายกัน คือ ต้องตอบตัวเองว่า ทำไมลูกค้าถึงต้องมาซื้อสินค้าเรา
วันที่คิดจะทำ TAROTO ประเทศไทยก็มี Dessert Cafe ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ทั้งอยู่ในห้างพรีเมี่ยมแบรนด์ ถ้วยละ 200- 300 ยันคาเฟ่ที่อยู่ในตลาดนัด คำถามเดียวกัน…ถ้ามิสมาม่อนจะทำ Dessert Cafe จะทำแบบไหน เราเริ่มวิเคราะห์คู่แข่ง ในตลาดมีแบรนด์อะไรบ้าง แน่นอนเจ้าหลักก็อาฟเตอร์ยูเป็นเจ้าหลัก มีตลาดบิงซู มีขนมปังชิบูย่าโทสต์ มีบิงซู สิ่งที่เราเห็นโอกาสคือ เมืองไทยเป็นเมืองแห่งโอกาส ทุกแบรนด์ที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นคนไทยทำเองหรือแบรนด์นำเข้า คนไทยตอบรับหมด แต่พอเรามองลึกในรายละเอียด พบว่า มีแต่ขนมหวานแนวตะวันตกไม่ค่อยมีขนมหวานแนวตะวันออก ผมก็รู้สึกว่า ทำไมไม่มีเซ็กเม้นท์ขนมหวานแนวตะวันออก ผมโตมากับเช็งซิมอี้ โตมากับขนมหวานน้ำแข็งใส เรามองว่าถ้าทำขนมหวานน้ำแข็งใสที่เป็น Dessert Café เราจะทำได้ดีขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งหรือไม่ นั่นคือความคิดตั้งต้น
“ถ้าเข้าห้าง อยากทานขนมหวานทั้งร้อน-ทั้งเย็น มีร้านนั่งดีๆสบาย ราคาไม่แพงมาก เมืองไทยยังไม่มีแนวนี้ ตอนนั้นผมไปเที่ยวไต้หวันมา ก็ไปเจอขนมหวานในประเภทนี้อยู่ เจอเฉาก๊วยที่ทำเป็นพุดดิ้ง ไม่เหมือนของไทยแต่อร่อยกินแล้วลื่นคอ มีความเป็นสมุนไพรเยอะ กินแล้วได้สุขภาพ ได้ความอร่อย”
เราไปเจอ Taro Ball Mix คือ เอาเผือก เอามัน เอามะม่วง เอางาดำมาปั้นเป็นก้อน เรารู้สึกว่าพอเห็นขนมหวานแนวนี้แล้ว รู้สึกว่าใน 1 ชามที่เรากิน มันไม่ได้มีแต่แป้ง ไม่ได้มีน้ำตาล ไม่ได้มีอะไรที่เรากินแล้วรู้สึกว่าอร่อย เซ็กเม้นท์แบบนี้น่าสนใจนะ ใน 1 ชามเนี่ยท็อปปิ้งทำจากธัญพืช ท็อปปิ้งทำจากผลไม้มีประโยชน์ เฉาก๊วยดูดีกับสุขภาพแก้ร้อนใน แก้เจ็บคอ กระทั่งได้แบรนด์ TAROTO ออกมาเป็น Dessert ในแนวตะวันออก มีทั้งเมนูร้อน เมนูเย็น มีเต้าฮวยเสริฟในถังไม้ มีบัวลอยไส้เยอะแป้งบาง ปาท่องโก๋ที่คัดสรรอย่างดีไม่ให้อมน้ำมัน เป็นขนมหวานแนว Healthy Dessert แนวสุขภาพ
ประสบการณ์ส่วนตัว เวลาทานข้าวในห้างสรรพสินค้า ปัจจุบันทานอาหารเสร็จ มักจะทานขนมหวาน ผมเองได้พาคุณพ่อคุณแม่ไปทานบ่อยๆ ก็พบว่า ผู้ใหญ่จะไปทานขนมหวานเพราะลูกชวน แต่ไปแล้วมักจะทานอะไรไม่ได้มาก กินได้นิดนึงที่เหลือเขี่ยทิ้ง อาจจะเพราะหวานไป หรือรู้สึกว่าไม่เหมาะกับเขา ถ้าอย่างนั้น Dessert Café ของเรา ควรเป็นสถานที่ที่ทุกคนทานได้ ภาษาผมคือ “คนในโต๊ะจะไม่ถูกทิ้ง” ทุกคนมีเมนูที่ทานได้หมด ไม่ได้ไปเพราะตามใจลูก ไม่ได้ไปเพราะหลานอยากทาน แต่ไปเพราะตัวเองอยากทานขนมที่ตัวเองอยากทาน
วิธีคิด การดีไซน์เมนูใน TAROTO จะเป็นเมนูที่ทุกคนในครอบครัวทานได้ เมนูร้อนดีไซน์สำหรับผู้ใหญ่ เต้าฮวยเราเป็นต้าฮวยมันม่วงออแกนิคทำสดที่ร้านทุกวัน เมนูนี้เราตั้งใจดีไซน์มาให้คุณพ่อทาน แต่สุดท้ายคนทำงานกลับชอบเมนูนี้มาก เรามีเฉาก๊วยสำหรับคนทำงาน มีบิงซูเพื่อรองรับวัยรุ่น คนรุ่นลูกๆ หลานๆ ถ้าเราเข้าใจสินค้า หรือกลุ่มเป้าหมายเรา ผมเชื่อว่า การออกแบบสินค้า จะออกมาได้ชัดเจน
ก้าวต่อไปของ TAROTO และ Miss Mamon
ช่องทางหลักเราก็คงมีช็อปตามห้างสรรพสินค้า วันนี้เราขยายผ่านแฟรนไชส์แล้วทั้ง TAROTO และ Miss Mamon จริงๆ เราทำก่อนช่วงโควิดระบาด ก็ต้องขอบคุณมีพันธมิตรมีคนที่ให้ความสนใจแฟรนไชส์เราอยู่พอสมควร วันนี้เรามีสาขาแฟรนไชส์ประมาณสัก 6-7 สาขาแล้ว เราเปิดตลาด snack box มิสมาม่อนนะครับ เร็วๆนี้ คงจะมีสินค้า TAROTO เป็น Taro Ball แช่แข็งที่นำกลับไปทานที่บ้านได้
“เราคงอยู่ในฟิลด์ของการเป็นร้านขนม ร้านเบเกอรี่ที่ใส่ใจในวัตถุดิบ ในราคาที่สมเหตุสมผล ลูกค้าไม่ต้องจ่ายในราคาที่แพงเกินไปอันนี้คือจุดยืนของเราทั้ง 2 แบรนด์”
ส่วนผู้ที่สนใจแฟรนไชส์ Miss Mamon ใช้ขนาดพื้นที่ประมาณ 20 ตารางเมตร เพราะเป็นรูปแบบ Grab & Go ส่วน TAROTO จะมีที่นั่งด้วยก็สัก 40 ตารางเมตร ทั้งสองแพคเกจเงินลงทุนแฟรนไชส์รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท สามารถเริ่มธุรกิจได้เลย
ในส่วนแฟรนไชส์ เราจัดทำระบบที่มีประสิทธิภาพ โดยศึกษาความสำเร็จจากแบรนด์ทั่วโลก เราพบว่าแบรนด์ที่มาจากต่างประเทศ สตาร์บัคส์ แมคโดนัลด์ เคเอฟซี ทำไมเขามีสาขาทั่วโลก สิ่งที่เราพบคือ เขามีแฟรนไชส์เป็นระบบชัดเจน มีคู่มือการปฏิบัติงาน มีแนวทางปฏิบัติงานชัดเจน มีการเทรนนิ่ง มีระบบ QC มีทีมพี่เลี้ยง เราจึงมองว่านี่แหละคือ Key Success ของแฟรนไชส์ ไม่ได้เปิดธุรกิจแล้วปล่อยสินค้าให้ไปขายต่อ แต่เป็นการขายความ Success ของแบรนด์ ขายชื่อของสินค้า และส่งมอบสินค้าที่มาตรฐาน แล้วก็มีการระบบ Training คนจะซื้อแฟรนไชส์ Miss Mamon TAROTO ต้องเทรนด์กับเราที่สาขาอย่างน้อย 2 อาทิตย์ เรามีทีมงานไปอยู่หน้างานจริงกับเขาอีกตอนช่วงเปิดสาขา เรามีทีมดูสถานที่ มีทีมมาร์เก็ตติ้งดูการตลาดให้ทั้งปี มีทีมออดิทให้ทุกเดือน กระบวนการทำงานของเรา ถอดแบบสำเร็จมาจากแบรนด์ใหญ่ และนำมาต่อยอดให้เหมาะสมกับธุรกิจไทย
นอกจากนี้เรายังมีแผนจะทำครัวกลาง ที่คาดว่าจะเสร็จในต้นปี 2566 ครัวกลางแห่งใหม่จะสามารถผลิตไลน์ขนมเบเกอรี่ ขนมหวานเซิฟป้อนให้กับทุกสาขาได้อย่างสะดวก สะอาด ปลอดภัย ไม่ใส่สารกันเสีย ซึ่งครัวกลางนี้ส่วนหนึ่งทำเพื่อรองรับตลาดของ B2B ด้วย บริการ Snack box วันนี้คือเทรนด์ งานประชุม งานสัมมนา แม้กระทั่งงานสวดอภิธรรมศพ ไม่มีแล้วทำข้าวต้มเลี้ยงแขกอะไร ยิ่งโควิดยิ่งเห็นชัดว่าคนใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ฉะนั้นการให้ขนมเป็นกล่องเนี่ยเหมาะสมที่สุด เราเข้าสู่ตลาดนี้ มาสักพักแล้ว แล้วช่วงโควิดเป็นช่วงที่เราไปได้ดีด้วยซ้ำ เพราะคนต้องการอะไรที่ไม่ได้ทานที่วัดทันที แต่นำกลับไปทานที่บ้าน
ฉะนั้น snack box ก็เหมือนกัน ตอบโจทย์คือ สะอาด สะดวก แล้วก็ต้องปลอดภัย เรามีมาม่อนเค้กเป็น Signature Product เรา ฉะนั้น Snack Box เปิดมาจะมีมาม่อนเค้ก 1 ชิ้นที่แขกชอบสั่งกัน อีกชิ้นจะเป็นขนมปังคาว น้ำผลไม้สักกล่อง ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
อยากให้ถอดบทเรียนของ Miss Mamon ให้กับ SME
ผมก็ยังเป็น SME หนึ่งคนที่ต้องฝ่าฟันธุรกิจอยู่เหมือนกัน เราไม่ได้สำเร็จในทุกอย่างแล้วก็ยังล้มเหลวอีกมาก สิ่งที่ผมอยากแชร์คือ คุณต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายให้ดี ตรงนี้สำคัญที่สุด คุณขายใคร ถ้าคุณรู้ชัดว่าคุณขายใครคุณมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว จากนั้นให้มาคิดว่า สินค้าคุณมีเหตุผลที่เขาซื้อหรือเปล่า ผมเชื่อว่าคำถามทั้งสองนี้ต้องมี ทำไมลูกค้าต้องซื้อคุณ ผมนึกเสมอว่า “Why Me” เขาซื้อเราเพราะอะไร เขาซื้อสินค้านี้เพราะอะไร ซื้อแบรนด์เราเพราะอะไร ถ้าตอบสองอย่างได้ ผมเชื่อว่าธุรกิจมีโอกาสเดินหน้าไปต่อได้สูง
อยากให้ฝากถึงคนรุ่นใหม่
ฝากถึงน้องๆ ผมเชื่อว่าคนรุ่นใหม่เก่ง เราเชื่อว่าคนรุ่นใหม่มีไฟ และคนรุ่นใหม่ก็เหมือนเราเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เรามีไฟ เรามีความกล้า และยิ่งยุคนี้เทคโนโลยีไปไกลกว่าเยอะมาก ผมทำแบรนด์ Miss Mamon วันนั้นต้องลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ เราลงโฆษณาหน้า 3 ของเดลินิวส์ แต่วันนี้คนรุ่นใหม่มีทั้ง Facebook, IG และ Tiktok มีทั้ง Delivery มีเครื่องมือเครื่องไม้เยอะ สิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องมีคือ ต้องใช้มัน คนรุ่นใหม่ควรมีมุมมองต่อเทคโนโลยี นอกจากใช้เพื่อความบันเทิงแล้ว ให้ลองใช้เพื่อประโยชน์ธุรกิจดูบ้าง ผมเชื่อว่าถ้าเราเจาะตรงนี้ได้ถูก เชื่อว่าคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นก่อนที่ทำธุรกิจ SME จะสามารถผสมผสานกันได้ดี ทำให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
Category:
