ในบรรดสตาร์ตอัป กลุ่ม Wealth Tech ของไทยมีหลายรายที่ตั้งขึ้นในระยะเวลาใกล้ ๆ เคียงกัน และหนึ่งในกลุ่มสตาร์ตอัปนั้น Jitta เป็นรายหนึ่งที่ส่องประกายเฉิดฉายไม่แพ้รายอื่น จากเวอร์ชันแรกที่ออกมาในปี 2555 ถึงปัจจุบัน Jitta ก้าวมาได้ไกลมาก และเป็นหนึ่งในที่พึ่งพิงของนักลงทุน โดยเฉพาะ Jitta Ranking และ Jitta Score ที่เป็นเครื่องมือคัดเลือกหุ้น Value Investor ตามแนวทางของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดเครื่องมือหนึ่ง

 

Passion gen จึงต้องกริ๊งกร๊างไปหา Jitta เพื่อสัมภาษณ์ “คุณเผ่า – ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์” CEO และผู้ก่อตั้ง www.jitta.com ถึงแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจ และมุมมองและแง่คิดที่ใช้ในการลงทุน

“สวัสดีครับ ผม ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ชื่อเล่นชื่อ เผ่า ปัจจุบันเป็น CEO อยู่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะเวลธ์ ผมเป็นคนที่เรียนจบในสายวิศวะ แต่ชื่นชอบการทำธุรกิจ ตั้งแต่เรียนก็เริ่มทำธุรกิจหลายอย่างและธุรกิจออนไลน์ เมื่อเริ่มมีรายได้ก็หันมาศึกษาเรื่องการลงทุน ซึ่งการลงทุนเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก การเข้าใจการเงินการลงทุนทำให้เราวางแผนและมองภาพอนาคตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จึงอยากนำสิ่งนี้มาถ่ายทอดให้คนจำนวนมากเข้าใจ จึงได้รวมกับผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 ท่านแล้วตั้ง Jitta.com ขึ้นมา”

Jitta.com คืออะไร

เว็บไซต์ Jitta.com เป็นเว็บไซต์ด้าน Stock Analysis คือเอา AI มาวิเคราะห์หุ้นในเชิง Value Investor (VI) ว่าควรลงทุนอะไร เท่าไร ตามแนวทางของวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนแนว VI ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก  เพราะสมัยก่อนการวิเคราะห์ธุรกิจเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก กว่าจะดาวน์โหลดงบการเงิน เพื่อนำมาวิเคราะห์ในแง่มุมต่าง ๆ บางครั้งหุ้นตัวหนึ่งใช้เวลาวิเคราะห์เป็นสัปดาห์ เราเลยนำเทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์การวิเคราะห์ให้ง่ายดายขึ้น เราเลยสร้าง Jitta ขึ้นมาเป็นเครื่องมือให้กลุ่มนักลงทุนมาใช้ข้อมูลจากเรา

 

ทำไมเด็กวิศวะถึงสนใจด้านไฟแนนซ์

ถ้าดูรอบตัวเรา จะเห็นว่านักลงทุนที่เก่งมีส่วนหนึ่งที่จบแพทยศาสตร์ จบวิศวกรรมศาสตร์ อย่างผมเองก็คุ้นเคยกับตัวเลข เหตุและผล เพราะเป็นสิ่งที่เชื่อมั่นได้ ผมเชื่อว่าความรู้นี้ชีวิตสบาย ฐานะการเงินมั่นคง ตอนนั้นผมอยู่ที่อเมริกาเงินฝากที่ธนาคารได้ดอกเบี้ย 0.5% เราก็รู้สึกว่ามันห่อเหี่ยว ถ้า 0.5% เมื่อไหร่จะรวย ต้องหาเงินไปเรื่อย ๆ  จึงเริ่มศึกษาการลงทุนในหุ้นและสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทดลองดูแล้วพบว่า การลงทุนในหุ้นน่าจะเหมาะกับผมมากกว่า ผมชอบหุ้น ชอบนั่งหน้าจออ่านงบการเงิน ผมไม่เบื่อ และผมทำธุรกิจมาก่อน พออ่านงบการเงินรู้สึกว่ามองเห็นธุรกิจ เราสามารถวิเคราะห์ได้ลึกระดับหนึ่งเลยว่าธุรกิจนี้ดีไม่ดีอย่างไรจากการดูตัวเลข รู้โฟลว์กระแสเงินสดในบริษัทอยู่แล้ว พอมาอ่านงบแทบจะจิตนาการออกว่าบรรทัดนี้เกี่ยวกับอะไรในโลกความจริงที่ทำธุรกิจ เราเลยก้าวสู่โลกของการลงทุนเรื่อย ๆ

 

ผมมีความเชื่อว่า “ถ้าอยากประสบความสำเร็จ วิธีที่เร็วที่สุดคือศึกษาว่าคนที่ประสบความสำเร็จสูงในอาชีพนั้นคือใคร แล้วเขาทำอย่างไร ฝึกฝนอย่างไร” ถ้าอยากเป็นนักฟุตบอลที่เก่งก็ต้องดูแบบอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด และลิโอเนล เมสซิ ว่าเขาแตะอย่างไร เลียนแบบเขา ฝึกฝนเทคนิคตามเขา

วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็เป็นซูเปอร์สตาร์ในด้านการลงทุน เขาเป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งของโลกที่ได้รับการยอมรับ จากเงิน 1 แสนเหรียญสามารถลงทุนงอกเงยจนปัจจุบันร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของโลก แล้วชีวิตของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ได้ทำอะไรนอกจากลงทุนเพียงอย่างเดียว ผมเองรู้สึกว่าอันนี้ตอบโจทย์ผมจึงเริ่มศึกษาวิธีการลงทุนของเขาและพบว่ามันถูกกับจริตของเรา นั่นคือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ชอบในการสร้างระบบแล้วปล่อยให้ระบบเดินหน้าไป ให้เงินทำงาน  ไม่ใช่นั่งหน้าจอเทรดหุ้นทั้งวัน

ช่วงแรกก็ขาดทุนเยอะ การลงทุนเป็นหนึ่งในทักษะที่ต้องทำจริง เหมือนอ่านหนังสือว่ายน้ำ ไม่มีทางที่เราจะว่ายเป็นจนกว่าจะได้ว่ายน้ำจริง หลักการก็ประมาณนี้ แต่พอไปอยู่ในสนามจริง ๆ มีเรื่องความโลภ ความกลัว ข่าวสารทุกอย่างที่กระทบเราเข้ามา เราต้องตัดสินใจท่ามกลางสมรภูมิ

 

 

ในการทำธุรกิจคุณต้องตัดสินใจเรื่องเล็กน้อยจำนวนมาก เรื่องหนึ่งในนั้นอาจจะตัดสินใจผิดพลาดได้และใม่ก่อให้เกิดผลเสียมากนัก แต่การลงทุนต้องตัดสินใจน้อยครั้งและแต่ละครั้งมีผลมาก ถ้าคุณตัดสินใจผิดพลาดคุณอาจจนลง 50% ได้เลย ดังนั้น การลงทุนจึงแบกรับความเครียดสูง ระบบวิเคราะห์และ AI จึงมีบทบาทมาก

 ตอนเริ่ม Jitta เวอร์ชันแรกเป็นอย่างไร

เวอร์ชันแรกเริ่มในปี พ.ศ. 2555 หลังจากลงทุนประสบความสำเร็จ ผมคิดว่าเราควรจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม การลงทุนทุกคนสนใจแต่น้อยคนที่จะประสบความสำเร็จ มีคนแค่ 10% เท่านั้นที่อยู่รอดในตลาดหุ้น แต่ที่สำเร็จจริง ๆ ไม่ถึง 5% ที่เหลือขาดทุนหมด เราอยากทำโจทย์การลงทุนตรงนี้จึงทำเว็บ Jitta ขึ้นมา

 

 

jitta เวอร์ชันแรก เพราะเราทำที่ไทยแล้วไปวิเคราะห์หุ้นสหรัฐ เพราะเรามองว่าอยากให้เป็นโกลบอล ปกติของการทำสตาร์ตอัป ต้องออกโพรดักต์ไว้ให้คนใช้ จะได้รู้ผลตอบรับ ปรากฏเวอร์ชันแรกเอาไปให้คนใช้ก็ไม่มีคนใช้เพราะไม่มีใครลงทุนในอเมริกาเลย จึงยังไม่ได้คอมเมนต์ ผมจึงพัฒนาฟีเจอร์นั่นโน่นนี่เยอะแยะ โดยที่เราไม่เคยรู้ว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่นักลงทุนต้องการ

 

กระทั่งผมไปซิลิคอนแวลลีย์อเมริกา แล้วได้ฟีดแบ็กตรง ๆ แบบว่า “ห่วยก็บอกว่าห่วย” คนที่เข้าเว็บเราควรใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีแล้วควรจะรู้ว่า “เขาจะได้ประโยชน์อะไรจากเว็บนี้” แต่ Jitta เวอร์ชันแรก 30 นาทีแล้วยังไม่รู้ว่าจะได้อะไร

 

“น้ำตาผมไหลเลยนะครับ ทำมาเป็นปีแต่โดนด่า แล้วเราก็มั่นใจเพราะทำธุรกิจประสบความสำเร็จมาก่อน พอถูกด่า มันเจ็บปวดรวดร้าว น้ำตาคลอ เสียดายเวลา เสียดายเงินลงทุน เสียดายทีมงานที่ช่วยทำ”

แต่เราก็สู้ต่อ…ไม่หยุด เพราะสิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อในการทำธุรกิจ “ไม่มีคนที่ล้มเหลว มีแต่คนที่ล้มเลิก” ตราบใดที่เราไม่ล้มเลิกเราต้องประสบความสำเร็จ 

จากเวอร์ชันแรกเราทำอย่างไรต่อ

ผมเริ่มเก็บข้อมูลจากผู้ใช้งาน ผมถามคนในซิลิคอนแวลลีย์ว่า คุณอยากให้เราทำอะไร ให้  Jitta แก้ปัญหาอะไรให้เขา เขาก็บอกว่าสิ่งที่อยากรู้ไม่ใช่ข้อมูลข่าวสารหรือตัวเลขมากมาย สิ่งที่อยากรู้คือ เขาควรซื้อหุ้นอะไร ที่ราคาเท่าไร เราจึงกลับมาคิดแล้วพัฒนาออกมาเป็นเวอร์ชันใหม่

 

“ผมเอาข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์และประมวลผลกับ AI แล้วคิดออกมาเป็น Jitta Score, Jitta Line มีการจัดอันดับหุ้นน่าลงทุนตาม Jitta Ranking โดยเน้นหุ้นแนว VI แบบถูกต้องตามหลักการ แล้วทดสอบกับการลงทุนจำลองก็พบกว่าพอร์ตเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จึงเปิดตัวให้ใช้งานจริงภายใต้แนวคิดว่า ถ้าลงทุนอย่างถูกต้องในระยะยาวจะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด นั่นคือเรือธงใหม่ของเรา”  จากนั้นผู้ใช้งาน Jitta ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ Jitta Ranking โชว์ผลงานทุกปีว่า ต้นปีเราเลือกลงทุนหุ้นอะไร ตอนสิ้นปีให้ผลตอบแทนเท่าไร พอเริ่มได้ผลตอบแทนที่ดีคนก็เชื่อถือขึ้นเรื่อยๆ คนก็เริ่มลงทุนตาม Jitta Ranking มากขึ้นเรื่อย ๆ

 

นั่นคือจุดกำเนิดของ Jitta Wealth

ถูกต้องครับ !! นักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่าหลักการดี ผลตอบแทนดี แต่เขาไม่อยากซื้อขายเอง เพราะต้องทำธุรกิจ บางคนยุ่งมาก บางคนตัดใจขายขาดทุนปรับพอร์ตตาม AI ไม่ได้ ท้ายที่สุดจึงเกิด Jitta Wealth เพื่อให้บริการกับนักลงทุน คุณเอาเงินมาฝากให้เราดูแล เราบริหารเงินลงทุนตาม Jitta Ranking  สุดท้ายคุณจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง พอร์ตจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

 

เราเอาเทคโนโลยีทั้งหมดมาผสมกับหลักการลงทุนที่ถูกพิสูจน์ทั้ง Value Investor, Modern Portfolio Theory , Thematic Investing และ Diversify แล้วให้เทคโนโลยีเป็นคนทำทั้งหมด ผลปรากฏว่าพอร์ตโตขึ้นเอง เพราะโลกของการลงทุนศัตรูที่สำคัญที่สุดคือ “ตัวเราเอง” เพราะเรามีความโลภ มีความกลัว ทำให้เกิดความเครียดและการตัดสินใจผิดพลาด แต่กับ AI แล้วสบายมากตัดขายขาดทุนได้ทันที บางตัวอาจจะขาดทุน บางตัวได้กำไร ลงทุน 10 ตัว ไม่ต้องกำไรทุกตัว กำไร 6-7 ตัว พอร์ตก็โตแล้ว ระยะยาวแล้วพอร์ตจะกำไร

 

Jitta เวอร์ชันปัจจุบันมีวิเคราะห์หุ้นอยู่ 19 ประเทศ มีหุ้น 1-2 หมื่นหุ้นในแพลตฟอร์มเดียวกัน สามารถวิเคราะห์หุ้นทุกวัน และเปลี่ยนแปลงข้อมูลทันทีที่งบการเงินประกาศ ถือเป็นระบบวิเคราะห์ที่ปฏิวัติวงการอย่างหนึ่ง หลายคนชื่นชอบ ทีมงาน Jitta เองก็มีความสุขทุกครั้งที่มีคนชื่นชมและชอบคุณ

 

การพัฒนาจากนี้ Jitta จะฟัง User Feedback ก่อนเสมอ ทำให้เราเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง นักลงทุนอยากได้การเปรียบเทียบข้อมูลเราทำให้ อยากดูงบการเงินย้อนหลังเราทำให้ อยากรู้หลักการลงทุนเราทำวิดีโอสอน กระทั่งสุดท้าย อยากให้เราบริหารจัดการเงินลงทุนให้ เราก็ทำให้ผ่าน Jitta Wealth ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความผิดพลาดในครั้งแรก ดังนั้น อย่าเห็นความผิดพลาดเป็นเรื่องร้ายแรง เพราะถ้าคุณไม่ผิดพลาด คุณไม่เรียนรู้ สิ่งสำคัญคือ คุณผิดพลาดแล้วคุณต้องลุกให้เร็ว แล้วเรียนรู้ว่าครั้งหน้าคุณจะทำอย่างไร

 

จากความผิดพลาดในครั้งแรก หลังจากนั้นเราก็เดินถูกมาตลอดอีกหลายปี รับฟังความคิดเห็นของลูกค้ามาเรื่อย ๆ  ทำอย่างไรให้เราทำในสิ่งลูกค้าต้องการ ทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า

ยุทธศาสตร์ของ Jitta Wealth คืออะไร 

ถ้าเราจะทำ Jitta Wealth เหมือนกองทุนอื่นก็ไม่รู้จะทำทำไม เราจึงตั้งธงไว้ว่า 

1. คนที่ลงทุนกับ Jitta Wealth แล้วต้องได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น เราต้องมั่นใจว่าอัลกอริทึม หรือขั้นตอนการประมวลผลต้องดีขึ้น ผลตอบแทนต้องดีขึ้นเรื่อย ๆ

2. ถ้า Worst Cast อัลกอริทึมเราทำผลตอบแทนได้เท่ากับตลาดหรือกองทุนทั่วไป เราจะคิคค่าธรรมเนียมให้ต่ำกว่ากองทุนอื่นอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ดังนั้น นักลงทุนจะได้กำไรมากขึ้น 

3. เราจะทำให้ลูกค้าลงทุนสะดวกสบายขึ้นในการเปิดบัญชี และเข้าดูข้อมูลต่าง ๆ จึงนำ e-Signature และ e-KYC มาช่วยในการยืนยันตัวตน และนำข้อมูลต่าง ๆ ด้านการลงทุนขึ้นแสดงบนแอปพลิเคชันให้นักลงทุนดูได้ตอลดเวลา 

4. สุดท้ายการลงทุนควรเป็นแบบกระจายความเสี่ยง เช่น การลงทุนใน ETF หรือการลงทุนแบบ Thematic Megatrend ที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศมาก

 

วันนี้เรามองตัวเองเสมอว่า จะทำประโยชน์ให้ลูกค้าได้อย่างไร แน่นอนภาพใหญ่ลูกค้าให้เราบริหาร แต่ลูกค้าจะไม่ทราบว่า เรามี Value Added อะไรบ้าง อันนั้นเป็นหน้าที่ของผมและทีมงานทุกคนที่ต้องคิดอยู่เสมอ “ตื่นมาวันนี้เราจะทำอะไรเพื่อให้เขากำไรมากขึ้น ทำอย่างไรให้เขาจ่ายค่าธรรมเนียมถูกลง ผู้ถือหุ้นทั้งหมดจะมีความสุขได้อย่างไร” อันนี้คือสิ่งที่เราโฟกัส

————————————————————–

รับชมเนื้อหาของ EP.อื่น ๆ ย้อนหลังได้ที่ลิงค์ด้านล่าง :


นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ กันกุลก้าวสู่บริษัทพลังงานครบวงจร | Passion Talk EP039
Website : https://www.passiongen.com/inspired/passion-talk/2022/17/นฤชล-ดำรงปิยวุฒิ์-gunkul-spectrum-pt-ep039
Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=SRPEK-ojd-Y
————————————————————–

นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ เมื่อโลกก้าวสู่ยุคพลังงานสะอาด และ Carbon Tax|Passion Talk EP.038
Website : https://www.passiongen.com/news/2022/03/นฤชล-ดำรงปิยวุฒิ์-gunkul-pt-ep038
Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=ivjcuaBE_0w
————————————————————–

Passion Talk EP037 ทินกร เหล่าเราวิโรจน์ Web3.0 เปลี่ยนโลก คนไทยจะก้าวอย่างไร?

Website : https://www.passiongen.com/inspired/passion-talk/2022/20/ทินกร-เหล่าเราวิโรจน์-web3-0-metaverse-p

Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=3QYnPv9Nknc
————————————————————–

Passion Talk EP036 “อำนาจ เอื้ออารีมิตร” จากมีดหมอสู่กองเอกสาร จุดประกายฝัน EKH สู่โรงพยาบาลชั้นนำครบวงจร
Website : https://www.passiongen.com/news/2022/06/อำนาจ-เอื้ออารีมิตร-โรงพ
Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=xDSjmf1LtZM&t=38s
————————————————————–

Passion in this story