Categories: INSPIRE

PODCAST THE (PHOTO) SERIES EP.11: เปิดใจวัยรุ่น “ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงชอบลาออก”

และแล้วพอดแคสต์รายการ “สิ่งที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอน” ก็เดินทางมาถึงตอนที่ 11 แล้ว ต้องยอมรับตรง ๆ นะครับว่าเราก็หมดมุก ไม่รู้จะมาพูดเรื่องอะไรต่อแล้วเหมือนกัน แต่บังเอิ๊ญ บังเอิญ เมื่อวานก่อนได้ไปอ่านเจอบทความดี ๆ ชิ้นหนึ่งเข้า เป็นบทความที่น่าสนใจและใกล้ตัวผมอยู่เหมือนกัน ซึ่งเชื่อได้เลยว่าไม่ว่าจะคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นเก่าเองก็อาจจะมีคำถามคล้าย ๆ กันเกิดขึ้น โดยเฉพาะกับบรรดานายจ้างอะนะครับว่า ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงชอบลาออก

ที่ว่าเด็กรุ่นใหม่ชอบลาออกเนี่ย ผมก็ไม่ได้พูดขึ้นมาลอย ๆ นะครับ เอาล่ะ อาจจะไม่ใช่เด็กรุ่นใหม่ทุกคนที่ชอบลาออก จริง ๆ จะบอกว่า “ชอบ” ก็ไม่ได้หรอก แต่เพราะเรา “ไม่ชอบ” นั่นแหละ เลยเลือกที่จะลาออกจากงาน

ทั้งนี้เนี่ยมีเว็บไซต์ forbes.com เปิดเผยข้อมูลนะครับว่า กว่า 49% ของเด็กรุ่นใหม่ หรือกลุ่ม Millennials และ Gen Z เนี่ย จะออกจากงานหรือเปลี่ยนงานในทุก ๆ 2 ปี ซึ่งถือว่าเป็นเปอร์เซนต์ที่สูงขึ้นมาก เมื่อเทียบกับคนรุ่นพ่อแม่หรือ Gen X

ในฐานะที่ผมก็เป็นคนรุ่นใหม่ อยู่ใน Gen Z อายุ 23 และเป็น First Jobber ที่ทำงานเป็นที่แรกเหมือนกันเนี่ย ก็มีคนรอบ ๆ ตัว พวกเพื่อน ๆ ที่เปลี่ยนไปแล้ว 4-5 งาน บางคนทำงานอยู่ได้ 3 เดือนก็ลาออกและหาใหม่อยู่จำนวนไม่น้อยเหมือนกัน

เอาล่ะ อาจจะดูเหมือนบ่นเกินไปนะครับ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เราจะมาดูสาเหตุกันดีกว่า ว่าทำไมคนรุ่นใหม่ถึงชอบลาออก ชอบเปลี่ยนงานกันบ่อยนักนะ

มีบทความอยู่ชิ้นนึงนะครับชื่อว่า The Top 5 Reasons Millennials Quit Jobs They Like ซึ่งได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ Forbes.com เปิดเผยว่า กว่า 74% ของคนรุ่นใหม่ที่รักในงานของเขา มีแนวโน้มที่วางแผนลาออกจากงานภายใน 3 ปี ย้ำนะครับว่ารักในงานด้วยนะ ก่อนหน้านี้ผมได้พูดใช่ไหมฮะว่า คนรุ่นใหม่ 49% มีแนวโน้มลาออกภายใน 2 ปี แต่พอขยับเป็น 3 ปีแล้ว ตัวเลขกลับพุ่งไปถึง 79%

ซึ่งบทความชิ้นนี้ได้กล่าวถึงสาเหตุ ที่ทำให้คนรุ่นใหม่ตัดสินใจวางแผนจะลาออกภายใน 3 ปี แม้ว่างานที่ทำอยู่จะเป็นงานที่เขารัก ด้วยกัน 6 ข้อด้วยกัน

1.  มองหาโอกาสที่ดีกว่า

1 ในเหตุหลักและอาจจะเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจลาออกเลย คือ คนรุ่นใหม่จะมองหาโอกาสที่ดีกว่าที่อื่นแทน เพราะที่ทำงานเก่าไม่อาจหยิบยื่นโอกาสดี ๆ ไม่อาจหยิบยื่นความก้าวหน้าในอาชีพการงานให้กับพวกเราคนรุ่นใหม่ได้ คนรุ่นใหม่ต้องการความท้าทายในการทำงาน ต้องการโอกาสที่จะได้ทำอะไรสักอย่างที่มีความหมาย ไม่ใช่สักแต่ว่าทำ โดยไม่รู้ว่าผลของงานจะได้อะไร จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วเนี่ย คนรุ่นใหม่ก็ไม่ได้อยากจะออกจากงานหรอกครับ กว่า 89% ของคนรุ่นใหม่ที่บทความชิ้นนี้เปิดเผยมา ระบุว่าพวกเขาจะทำงานอยู่เป็น 10 ปีเลยหรือมากกว่าก็ได้ ถ้างานนั้น องค์กรนั้น มีโอกาสในการก้าวหน้าในอาชีพการงาน มีความท้าทาย และค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

2. ต้องการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ

อย่างที่บอกไปนะครับว่าคนรุ่นใหม่ต้องการมองหาโอกาสที่ดีกว่า ในขณะเดียวกันเราก็ต้องการได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ได้พัฒนาตัวเอง ได้มีทักษะใหม่ ๆ ติดตัว และอย่าลืมนะครับว่าปัญหาหนึ่งของคนรุ่นใหม่ในยุคนี้คือการไม่รู้จักตัวเองว่าต้องการอะไร อยากทำอะไร หรือทำอะไรได้ดี เพราะสังคมที่ไม่เปิดโอกาสให้พวกเราได้เรียนรู้ตัวเอง เพราะฉะนั้นบริษัทต่าง ๆ ควรเปิดโอกาสให้พวกเราได้เรียนรู้จักตัวเอง ไปพร้อม ๆ กับการทำงานจริง สร้างสภาพแวดล้อมให้พวกเรารู้สึก Comfort ที่จะบอกว่าอะไรใช่อะไรไม่ใช่ ที่สำคัญคือช่วยให้พวกเราได้รู้จักตัวเอง ว่าอะไรคือทักษะที่เรามี แล้วงานไหนเหมาะกับความสามารถเราที่สุด สกิลไหนที่เราต้องพัฒนาเพื่อให้ก้าวหน้าในชีวิต

3. ค่าจ้างที่ไม่สัมพันธ์กับความเหนื่อย

ข้อนี้เราไม่ได้จะต้องการจะหาว่าใครผิดใครถูกนะครับ แต่เราจะมาบอกในมุมของคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่เลือกออกจากงาน เพราะเงินเดือนที่น้อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับภาระงานที่ได้รับ บางคนต้องเลิกงานมืด หรือกลับบ้านไปแล้วก็ยังต้องทำงานอยู่ แถมเงินเดือนยังไม่สัมพันธ์กับค่าครองชีพอีก ทั้งค่ารถ ค่ากิน ค่าอยู่ การเลือกเปลี่ยนงานก็เป็นอีกทางที่ทำให้เรียกเงินจากที่ใหม่เพิ่มขึ้นได้

4. วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่สอดคล้องกัน

บางองค์กรที่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานด้วยแป๊ป ๆ แล้วก็พากันลาออกไป สาเหตุหนึ่งก็มาจากวัฒนธรรมองค์กรที่คร่ำครึ ล้าสมัย ไม่ทันโลก มีลำดับชั้นสูง หรือเจ้านาย ไม่ได้สนใจจะฟังเสียง ฟังความคิดพวกเราสักเท่าไหร่ มันทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกว่า เราคงเปลี่ยนอะไรที่นี่ไม่ได้ เราคงใช้ความสามารถที่มีกับที่นี่ไม่ได้

เมื่อค่านิยมขององค์กรไม่สอดคล้องกับคนทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่ที่มองหาการพัฒนา มองหาโอกาสในชีวิต ในอาชีพที่ดีกว่า มองหาเจ้านายหรือหัวหน้างานที่ทำตัวเป็นโค้ชมากกว่าเป็น Boss แถมแล้วรู้ว่ายังไงองค์กรนี่ก็คงไม่สามารถให้สิ่งเหล่านี้กับเราได้ แล้วค่านิยม วัฒนธรรมในองค์กรนี้ ก็ไม่เปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ ก็เลือกที่จะโบกมือบ๊ายบาย เพื่อไปหาโอกาสข้างหน้าดีกว่า

5. ช่องว่างระหว่างวัยที่ห่างกันเกินไป

ถ้าดูเผิน ๆ เหมือนความต่างของ Generation น่าจะไม่มีผลอะไรใช่ไหมครับ แต่จริง ๆ แล้วมีผลมากเลยนะ ยิ่งองค์กรไหนที่สัดส่วนของวัยพนักงานต่างกันมาก ๆ เพราะยิ่งช่องว่างระหว่างวัยที่ห่างกันมาก ๆ มันหมายถึงทัศนคติที่ต่างกัน ไหนจะเรื่องของการพูดคุย เพราะคุยกับคนอายุห่างกันมาก ๆ ก็ไม่เหมือนพูดกับเพื่อน เราพูดไอเหี้ย ไอสัส กับเพื่อนได้ เรารู้สึกใกล้ชิดและการพูดกับเพื่อนในทุก ๆ เรื่องมากกว่า แถมความสัมพันธ์ก็ไม่เหมือนกับการทำงานกับเพื่อน พูดง่าย ๆ ว่าไม่มีเพื่อนนั่นแหละ ช่องว่างระหว่างวัยเนี่ย จึงเป็นอีกเหตุผลสำคัญมาก ๆ ข้อหนึ่งที่ทำให้คนรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออก

6. อยากย้ายสายงาน

ถึงแม้คนรุ่นใหม่จะชอบงานที่ทำอยู่ขนาดไหนนะฮะ แต่คนรุ่นใหม่ประมาณ 1 ใน 10 กล่าวว่าพวกเขาจะลาออกเพราะตัดสินใจจะย้ายสายงาน เพราะอาจจะเพิ่งเจอว่าอยากทำอะไร หรือต้องการโอกาสในการประกอบอาชีพที่มากขึ้นกว่าเดิม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เมื่อมีคนเปลี่ยนสายงานเป็นเพราะพวกเขาตัดสินใจแล้วว่าต้องการลองทำอย่างอื่นดู

เรื่องนี้ผมก็เข้าใจนะครับ เข้าใจดีด้วย เพราะค่านิยมในการทำงานของคนยุคใหม่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงกับค่านิยมในการทำงานของรุ่นพ่อแม่ที่ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวทั้งชีวิต หรือทำอยู่ 4-5 ปีเปลี่ยนงานที แต่อัตราการเปลี่ยนงานของคนรุ่นเราเนี่ย เปลี่ยนเร็วมากพอ ๆ กับยุคสมัยนี้ที่อะไร ๆ ก็เร็วไปหมดนี่แหละ เราไม่ได้มองเป็นเรื่องผิดหรือแปลกประหลาดอะไร ที่คน ๆ นึงจะเปลี่ยนงานบ่อย เราไม่ได้มองว่าเขาเป็นคนไม่อดทน ถ้าเขาทำงานอยู่ได้ 3 เดือนแล้วจะลาออก ในเมื่อวัฒนธรรมองค์กร เงินเดือน รูปแบบการทำงานของบริษัทไม่ตอบโจทย์เรา


อภินัทธ์ เชงสันติสุข

เด็กหนุ่มที่กำลังเรียนรู้ชีวิตและถูกเฆี่ยนตีด้วยความเป็นผู้ใหญ่

Recent Posts

Young SME หลักสูตรสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ชู Soft Power เสริมสร้างธุรกิจยั่งยืน

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…

6 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดธุรกิจยุคใหม่ กับ มุมมองด้านความยั่งยืน

บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…

9 months ago

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล “ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี” จากงาน DG Awards 2023

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…

10 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์แบรนด์ สไตล์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…

10 months ago

พิธีปิดการอบรมหลักสูตร SML รุ่นที่ 4 ปี2566

พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…

1 year ago

เมื่อสูงวัยต้องไปทำฟัน

ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…

1 year ago

This website uses cookies.