คนทำธุรกิจส่วนใหญ่มักจะปรับตัว เมื่อเริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่แน่นอน แต่ไม่ใช่กับคนรุ่นใหม่อย่าง “ดรุณธรรม เติมเกียรติไพศาล” เพราะเธอก้าวไปข้างหน้าก่อนใคร เพราะเชื่อว่าจะทำธุรกิจให้สำเร็จ จะต้องก้าวไปก่อนคู่แข่งให้ได้  

 

“ดรุณธรรม เติมเกียรติไพศาล” หรือ “ไผ่” คือ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง “บริษัท แบมเบอร์ทู มาร์เก็ตติ้ง คอนซัลแทนท์ จำกัด” เล่าถึงแรงบันดาลใจ ในการทำธุรกิจด้านการจัดงานอีเว้นท์แบบใหม่ที่ต่างไปจากเดิม ๆว่า ได้เปิดตัวมาเป็นเวลา 4 ปี ในช่วงแรกรับจัดงาน Event และ Exhibition รวมถึง Online marketing ทุกรูปแบบ ตามสายงานที่ถนัด ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการถ่ายทำโฆษณา หรืองานก่อสร้างบูธแสดงสินค้า 

 

 

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในต่างประเทศเริ่มมีการจัดงานโดย ที่ไม่ต้องให้ผู้ร่วมงานเดินทางมาที่งาน เธอและหุ้นส่วนจึงเริ่มเล็งเห็นอนาคตของตลาด Hybrid Event, Online Event และ Virtual Exhibition ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างการจัด Event และ โลก Online เนื่องจากตลาดของออนไลน์อีเว้นท์ช่วยทำให้การจัดงานออฟไลน์ดูทันสมัย สมบูรณ์แบบ และตอบโจทย์ลูกค้าได้ทั้งลูกค้าที่มาร่วมงานและไม่สะดวกมาร่วมงานจริง 

 

“จึงเกิดแรงบันดาลใจ ที่จะเป็นผู้ให้บริการการจัดงานประเภทนี้ในประเทศไทย ณ ตอนนั้นตลาดของการจัดงานออนไลน์ยังไม่บูมมาก ทำให้เรามีความเชี่ยวชาญในการจัดงานลักษณะนี้ก่อนบริษัทอื่น”

 

 

และเมื่อโควิด 19 ระบาดเข้ามา ทำให้เป็นโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านของโลกออนไลน์ จึงนำความรู้และความเชี่ยวชาญที่มีอยู่มา Adapt ให้เกิดอีเว้นท์ในโลกออนไลน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

 

 

ปัจจุบันบริษัทฯ ให้บริการการจัดงาน Virtual Exhibition, Webinar, Hybrid Wedding, Live Streaming for sales and training ให้กับทั้งกับภาครัฐและเอกชน แต่ก็ยังให้บริการจัดงานในรูปแบบ Offline อยู่เช่นเดิม

สำหรับจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ เกิดจากความชื่นชอบสายงานอีเว้นท์ตั้งแต่สมัยที่เรียน โดยมหาวิทยาลัยที่เรียนตอนนั้นยังไม่มีปริญญาในสายอีเว้นท์โดยตรง จึงได้เลือกเรียนสาย Tourism, Leisure & Hospitality โดยจะมีอีเว้นท์อยู่ในหลักสูตรด้วย 

 

ตอนที่เรียนอยู่ที่สิงคโปร์ มีการจัดงาน Singapore Grand Prix พอดี ขณะเรียนที่อังกฤษ มีการจัดงาน The London 2012 Summer Olympics  จึงได้มีโอกาสเรียน case study งานอีเว้นท์ระดับโลกสมัยนั้น จึงรู้สึกชอบบรรยากาศของงานอีเว้นท์ และเมื่อมีคนที่มีความสนใจในเรื่องคล้ายๆ จึงมารวมตัวทำงานนี้ 

 

 

ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานในสายอีเว้นท์โรงแรม ส่วนมากเป็นเรื่องของการจัดเตรียมสถานที่ อาหาร เครื่องดื่ม การจัดการต้อนรับคนที่มาร่วมงานอีเว้นท์ ทำให้ได้เข้าใจถึงการ systemize บุคลากรและอุปกรณ์ให้สามารถประสบความสำเร็จได้ดีในต้นทุนที่ต่ำที่สุด และยังได้ทำงานกับออกาไนเซอร์ จึงทำให้สนใจเรื่องของ Content ในการจัดงานมากขึ้น 

 

“เมื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงาน 3 แห่งโดยใช้เวลาประมาณ 4 ปีแล้ว จึงเริ่มมีความคิดที่จะเปิดบริษัทของตัวเอง โดยมีพาร์ทเนอร์ที่มีความถนัดในด้านที่เราไม่มีมาเริ่มต้นธุรกิจด้วย”

 

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประสบปัญหาอุปสรรคและสิ่งท้าทายมากมาย ทั้งความผันผวนของความต้องการตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องเรียนรู้กันตลอดเวลาเพราะเทรนด์เปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน รวมถึงการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มตัว แต่ลูกค้าบางรายยังไม่เปิดใจให้กับการทำงานในลักษณะนี้ 

 

 

ยิ่งเมื่อมีโรคระบาดเข้ามาทำให้งาน Event และ Exhibition หลายงานที่เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าถูกยกเลิกทั้งหมด กลายเป็นความท้าทายใหม่ที่จะต้องเดินหน้า จากเดิมเป็นการจัดทั้งออนกราวน์และออนไลน์ มาเป็นรูปแบบอีเว้นท์ออนไลน์ 100% เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า 

 

“สิ่งที่สำคัญในการที่จะผ่านทุกอุปสรรคไปได้ ไผ่มองว่าส่วนนึงเป็นเพราะ Attitude ของทีมงาน ถ้าหากทีมงานเราพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนไปตามความเปลี่ยนแปลงของโลก เราก็สามารถผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ออกมาให้กับผู้บริโภคได้เรื่อย ๆ”

 

จากประสบการาณ์ที่ผ่านมา ทำใด้เรียนรู้ว่าการสร้างธุรกิจในโลกปัจจุบันต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบทุกด้าน ทั้งเรื่องความสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ ทันสมัย เท่าทันเทรนด์โลก เธอมองว่าการสร้างธุรกิจไม่มีผิดถูก แต่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจจะทำให้เราไปถึงเส้นชัยได้ไวกว่า การสร้างธุรกิจที่แตกต่างจากรูปแบบเดิมเป็นสิ่งที่ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย แต่ถ้าทำแล้วจะได้เปรียบกว่าผู้แข่งขันแน่นอน

 

Category:

Passion in this story