เดี๋ยวนี้งานมันหายากขึ้น ๆ ทุกวันเลยนะครับ แล้วตลาดแรงงานก็เต็มไปด้วยคนเก่ง ๆ บริษัทชั้นนำก็คงยากจะได้คนเก่งไปทำงานด้วยกันทั้งนั้น แต่จริง ๆ แล้วเนี่ย เราไม่จำเป็นต้องคนเก่งที่สุดถึงจะได้งานดี ๆ เท่านั้นหรอกนะครับ แต่เราจะต้องรู้ทิศทางลมว่าในตอนนี้ตลาดแรงงาน ต้องการอะไร ต้องการคนแบบไหน แล้วในอนาคตบริษัทต่าง ๆ จำเป็นจะต้องพึ่งพาคนที่มีทักษะ มีสกิลแบบไหนกัน พูดง่าย ๆ ว่าเราต้องศึกษาปัจจุบัน เพื่อมองหาโอกาสในอนาคต ไม่ใช่กลับไปย้อนหาโอกาสของเมื่อวานที่เต็มไปด้วยคู่แข่ง

เพราะฉะนั้น คลาสในวันนี้เราจะพูดถึงสกิลที่มีไว้ ไม่ตกงานแน่นอน ข้อมูลนี้ผมได้มาจาก รายงาน The Thailand Digital Transformation Survey Report 2020 ของบริษัท Deloitte หนึ่งในบริษัท Big Four ของวงการบัญชี-ที่ปรึกษาระดับโลก นั่นเอง เอาล่ะเราไปดูกันดีกว่าว่าสกิลอะไรกันที่รับรองเลยว่าเราจะไม่ตกงาน

 

 

สำหรับ Hard Skill ที่เป็นที่ต้องการขององค์กรมากที่สุด คือ

1. Digital Transformation

ยุคนี้มันเป็นยุคของดิจิตัลนะครับ บริษัทไหน องค์กรไหนที่ไม่พยายามจะปรับตัวเข้าหาดิจิตัลก็อาจจะไปไม่รอดในยุคนี้ หลาย ๆ บริษัทจึงต้องการคนที่มีทักษะทางดิจิตัล เพื่อปรับเปลี่ยนบริษัทของตัวเองเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้

2. Data Analytic and Science

ในยุคนี้มันเต็มไปด้วยข้อมูลนะครับ แล้วทุกอย่างก็ขับเคลื่อนไปด้วยข้อมูล เหมือนที่ Clive Humby นักคณิตศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลชาวอังกฤษเคยกล่าวไว้ “Data is the New oil” ใครมี Data มากกว่าก็จะได้เปรียบคู่แข่งในตลาด

 

เพราะฉะนั้นทักษะในการรวบรวมข้อมูลที่มีแล้วสามารถนำวิเคราะห์ข้อมูลได้ เช่น ข้อมูลกลุ่มลูกค้า พฤติกรรมของลูกค้า การหาข้อมูลธุรกิจเชิงลึก

เพื่อนำไปสนับสนุนการตัดสินใจ ต่อยอดแผนงานหรือแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ ตามความต้องการของลูกค้า แล้วก็ต้องสามารถนำเสนอผลการวิเคราะห์นั้นให้กับลูกค้าได้ด้วยภาษาที่เข้าใจงาน หรือที่เรียกว่า Data Visualization หรือการเอาข้อมูลมาทำเป็นภาพ

ส่วน Data Science จะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลและนำมาพัฒนาเป็นโมเดล (Model) หรือเครื่องมือ (Tools) ที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจ ช่วยในการตัดสินใจ โดยการวางกลยุทธ์ขององค์กร ซึ่งจะแบ่งเป็นสองส่วนหลัก ๆ คือ

1) การนำโมเดลมาวิเคราะห์และทำนายผล (Predictive Analytics) เช่น การพยากรณ์ยอดขายจากปัจจัยต่าง ๆ

2) ใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น (Operations Optimization) เช่น การจัดตารางการผลิตสินค้า (Production Scheduling)

 

3. Digital Marketing and Strategy

ยังไงซะการตลาดก็ยังจำเป็นสำหรับการขายอยู่ดี แต่ในยุคนี้ต้องเป็นการตลาดดิจิตอลเท่านั้น เป็นการทำการตลาดโดยใช้ช่องทางออนไลน์หรือช่องทางดิจิทัลในการเข้าถึงลูกค้า ซึ่งในยุคที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟนการทำการตลาดลักษณะนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะมีช่องทางรวมถึงวิธีการมากมายในการใช้เพื่อเข้าถึงลูกค้าซึ่ง Digital Marketing เนี่ย จะประกอบด้วยทักษะย่อย ๆ อีกหลายกลุ่ม เช่น Content Marketing หรือการทำการตลาดโดยใช้คอนเทนต์นำ การทำ SEO การทำ Influencer Marketing

 

นอกจากนี้ยังต้องวาง Strategy หรือการวางกลยุทธ์ในการทำการตลาดดิจิตอลได้ด้วย คือจะทำการตลาดดิลิตอลแบบไหน จะยิงแอดไหม หรือจะใช้คอนเทนต์เพื่อเรียกลูกค้าเข้ามาหาแบบออร์แกนิคไม่เสียตังเลย

 

 

Soft skills ที่จำเป็นมากที่สุดใน 3 อันดับแรกสำหรับ Digital Transformation

1. Analytical Thinking/ Critical Thinking หรือความคิดเชิงวิพากษ์

ทักษะการคิดเพื่อตัดสินเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องเห็นคล้อยตามข้อมูลที่นำเสนอ สามารถโต้แย้งข้ออ้างนั้นเพื่อนำไปสู่การแสวงหาคำตอบที่เหมาะสมกว่าเดิมได้

คือต้องมีความเข้าใจว่า ปัญหาทุกอย่างไม่มีขาวและดำเสมอไป คนที่มีความคิดเชิงวิพากษ์ได้จะเข้าใจวิธีวิเคราะห์ และประเมินข้อมูลที่มีก่อนจะตัดสินใจทำอะไร จึงไม่ต้องแปลกใจหากนายจ้างมองหาผู้สมัครที่มีความสามารถระดับสูง ในการแก้ไขปัญหาซับซ้อน

สามารถมองปัญหาใหญ่แล้วรู้ว่าปัญหานี้มันเกิดจากอะไร มีปัญหาย่อย ๆ ไหม มันมีเหตุผลอะไรถึงเกิดขึ้น แล้วจะทำยังไงต่อ มีข้อมูลอะไรมาซัพพอร์ตได้ สามารถเชื่อมโยงปัญหาหรือความรู้ที่ได้เข้ากับอย่างอื่นได้รึเปล่า เพื่อหาข้อสรุปของปัญหา

 

2.Creativity

เป็นทักษะที่สร้างแนวคิดใหม่ๆ พัฒนาวิธีการใหม่ๆที่ช่วยให้การทำงานดีขึ้น ทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหาได้ดีกว่าเดิม

บริษัทจำนวนมากต้องการความคิดสร้างสรรค์ที่นำมาต่อยอด-ประยุกต์ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่นและใช้งานได้จริง

แล้วปัจจุบันนะครับ สังคมกำลังมองหาอะไรที่แปลกแหวกแนว ไม่ซ้ำซาก ไม่ได้ติดกรอบเดิม ๆ เพื่อเรียกความสนใจจากลูกค้าให้มาซื้อสินค้าหรือบริการ เพราะฉะนั้นความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นสกิลที่สำคัญและเป็นที่ต้องการของตลาดมาก

วิธีการที่จะช่วยพัฒนาทักษะนี้คือ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อ่านข่าว อ่านหนังสือ อบรมสัมมนาความรู้ใหม่ๆที่ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆที่จะช่วยแก้ปัญหาหรือพัฒนาการทำงานของคุณให้ดีขึ้น พูดคุยกับผู้คนต่างๆเพิ่มให้เกิดไอเดียใหม่ๆ เหล่านี้จะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของได้

 

3.Adaptability

ทักษะหรือความสามารถที่คนจะปรับเปลี่ยนการกระทำ วิธีการที่จะทำสิ่งต่างๆให้เหมาะสมกับสถานการณ์ใหม่ๆที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีสามารถทำงานแทนคนได้ คนที่จะรักษาตำแหน่งงานไว้ได้จึงต้องเป็นคนที่สามารถทำงานได้หลากหลาย ปรับตัวได้ดี มีทักษะที่เทคโนโลยีทำแทนไม่ได้หรือทำแทนได้ไม่ค่อยดี
ธุรกิจที่มีคนเก่ง มีความสามารถในการปรับตัวดีย่อมสามารถเข้าหาโอกาสทางการตลาดได้ง่าย และรวดเร็วกว่า
แล้วจะพัฒนาตัวเองให้มีทักษะนี้ยังไงล่ะ

      • หมั่นสังเกตสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนแปลงรอบตัว เช่น แนวโน้มตลาด การเปลี่ยนแปลงของคู่แข่ง ความพึงพอใจของลูกค้า เทคโนโลยีใหม่ๆที่ส่งผลกระทบกับงานที่ทำ

      • พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่เพื่อปรับตัวเองให้ทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เหล่านี้ก็จะช่วยให้เราสามารถพัฒนาทักษะในการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ได้

 

 

ดังคำกล่าวที่ว่า

 

“Your skills. Your asset. Your future”

 

เรียนรู้ไปเถอะครับทักษะพวกนี้ เพราะยังไงทักษะเหล่านี้ สกิลเหล่านี้มันก็เป็นของเรา เป็นทรัพย์สินที่ติดตัวเราไปจนตาย และสร้างอนาคตให้กับเราได้

 

แล้วในยุคดิจิตอลแบบนี้ สกิลเดียวก็อาจจะไม่พอ เราจำเป็นจะต้องมีสกิลในหลาย ๆ ด้าน มีทักษะหลาย ๆ อย่าง รู้ให้เยอะเข้าไว้ จะเป็น Graphic Design ที่ออกแบบแต่กราฟฟิคก็ไม่พอแล้ว บางทีก็ต้องมาตัดต่อวิดีโอได้ด้วยเหมือน เพราะในยุคนี้เป็ดจะไปได้ไกลกว่าใครเพื่อน ใช่ครับ ชีวิตมันก็เยอะและยากอย่างงี้แหละครับ เรามาสู้ไปด้วยกันนะครับเพื่อนๆทุกคน

 


 

Category:

Passion in this story