ความฝันของใครหลายคน คือ อยากทำในสิ่งที่รักและเปลี่ยนสิ่งที่รักให้เป็นเงินและงานที่เลี้ยงตัวเองได้ ผมเชื่อว่าคนรุ่นใหม่หลายคนที่มี passion ก็คิดเช่นนั้น… แต่อะไรล่ะที่เป็นทั้งสิ่งที่รัก และเปลี่ยนสิ่งนั้นเป็นความสำเร็จได้ คงต้องเรียนรู้สิ่งนั้นจากคนที่ประสบความสำเร็จ บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์  จำกัด ก็เป็นหนึ่งในโมเดลความสำเร็จที่น่าสนใจ

 

ย้อนกลับไปประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ที่กระแส “คนแพ้นมวัว” ถูกพูดถึงกันอย่างมาก จนเกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมทางเลือกขึ้นมามากมาย ทั้งนมที่ปราศจากแลคโตส (Lactose Free) นมถั่วเหลือง และนมอัลมอนด์ที่ให้คุณประโยชน์ที่ทัดเทียมหรือดีกว่านมวัว ช่วงนั้นมีธุรกิจเกิดขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์นมทางเลือกเพื่อสุขภาพ “137 ดีกรี” ที่ก่อตั้งโดย อริสา อร่ามวัฒนานนท์ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง

 

 

บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์  ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 โดยเป็นบริษัทแรกที่เปิดตัวนมอัลมอนด์เข้าสู่ตลาดในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ 137 Degrees ซึ่งเป็นเลขที่บ้านที่เริ่มต้นธุรกิจ สื่อถึงความตั้งใจในแบบโฮมเมด  และ 137 Degrees ยังเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการฆ่าเชื้อในกระบวนการผลิตอีกด้วย

 

อริสา อร่ามวัฒนานนท์ หรือ “คุณพีช”  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด ผู้บริหารรุ่นใหม่ในวัย 31 ปี  เปิดใจเล่าถึงความเป็นมาให้ passion gen ฟังว่า 137 ดีกรี  มีจุดเริ่มต้นจากการที่พีชเป็นคนแพ้นมวัวมาตั้งแต่เด็ก พอมีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศและได้เห็นผลิตภัณฑ์นมทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ค่อนข้างหลากหลาย หนึ่งในนั้นก็คือนมอัลมอนด์ แต่รสชาติยังไม่ถูกปาก พอได้กลับมาอยู่ประเทศไทย ซึ่งในขณะนั้นนมอัลมอนด์ยังไม่เป็นที่รู้จัก จึงตัดสินใจทำนมอัลมอนด์เพื่อดื่มเอง ทดลองแจกจ่าย จากนั้นจึงเริ่มทดลองทำออกมาขาย ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับที่ดี พีชจึงวางเป้าหมายขยายตลาดไปยังกลุ่มคนที่ต้องการอาหารทางเลือก กลุ่มผู้รักสุขภาพ กลุ่มนักกีฬา และต่อยอดในวงกว้างมากขึ้น อย่างกลุ่มคนดูแลสุขภาพและรักษารูปร่าง ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

 

ความโดดเด่นของซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ อยู่ที่กรรมวิธีการผลิตที่ใช้การคั้นสดจากถั่วเต็มเมล็ด ซึ่งเป็นจุดแข็งที่โดดเด่น ขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นในตลาดมักใช้หัวเชื้อละลายน้ำ ทำให้ได้รสสัมผัสและคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ สามารทำนมอัลมอนด์ที่มีความเข้มข้นได้มากกว่า 90% จึงมีสินค้าที่ยูนิค โดดเด่น และแตกต่างจากคู่แข่ง

 

 

ความน่าสนใจอย่างหนึ่งของ ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ อยู่ที่จุดเริ่มต้นของธุรกิจที่คุณอริสากล้าที่จะเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดผ่าน Social Media แต่สามารถสร้างธุรกิจจนมียอดขายหลักร้อยล้านบาทได้ ช่วงแรกบริษัทฯ ใช้วิธีโปรโมตสินค้าผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก โดยเปิดเฟซบุ๊กเพจ 137 degrees เพื่อเป็นคอมมูนิตี้รักสุขภาพออนไลน์ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้เรื่องสุขภาพ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ติดตามมากกว่า 4 ล้านคน ทำให้สินค้ากลายเป็นที่พูดถึงอย่างรวดเร็วจากฐานลูกค้าที่มีการบอกต่อแบบปากต่อปาก และมีการนำผลิตภัณฑ์ไปแชร์เป็นข้อมูลในกลุ่มคนรักสุขภาพ

 

“ธุรกิจในยุคก่อน เป็น consumer good ทำสินค้าออกมาก่อน ทำโฆษณาให้จดจำแล้วจึงขายสินค้า แต่ในยุคโซเชียลมีเดีย ผู้บริโภคเสียงดังมาก มุมมองการตลาดต้องกลับมาเป็น Pull Marketing ฟังเสียงผู้บริโภคอยากได้อะไร สินค้าอะไรจะตอบโจทย์เขาได้ เพนพอยต์คืออะไร มุมมองการทำธุรกิจเปลี่ยนไปหมด ยุคนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะทำสินค้า 4-5 แบรนด์ออกมาและตัดราคาแข่งกัน หัวใจความสำเร็จอยู่ที่การฟังเสียงลูกค้า แล้วทำสินค้าที่ดี ที่ผู้บริโภคต้องการ ในราคาสมเหตุสมผล”

 

การพัฒนาสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค ยังทำให้เรามีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น ผู้บริโภคก็มีตัวเลือกมากขึ้น ในแง่การตลาด Traditional ก็มีสินค้าหลากหลายบนเชลฟ์ มีวาไรตี้ให้ผู้บริโภคได้เข้ามาเลือกสินค้า

 

จากตลาดคนรักสุขภาพที่แต่เดิมมองเห็นไม่ชัดเจน และตลาดนมอัลมอนด์เองที่ยังไม่มีในประเทศไทย แต่ในปี 2562 ตลาดนมทางเลือกเพื่อสุขภาพ ที่ผลิตจากถั่วเปลือกแข็งกลับมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 500 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นอีกประมาณ 10% ในปี 2563 และขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีต่อ ๆ ไป เนื่องจากเซกเมนต์ค่อนข้างเล็กจึงมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก

 

อริสา กล่าวว่า เราอยากเป็น Global Brand และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่า เป็นแบรนด์คนไทยที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานในการผลิตได้มาตรฐานระดับโลก เราได้รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมจากหลายประเทศ ทั้งฝรั่งเศสและฮ่องกง และเราเองมีเป้าหมายที่อยากเป็นแบรนด์ที่มีประโยชน์กับสังคม เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ชีวิตลูกค้า และเป็นแบรนด์ยั่งยืนที่มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลด Waste ลดมลพิษให้น้อยที่สุด

 

 

“แบรนด์ 137 Degrees จะเป็นแบรนด์ธุรกิจอย่างมีจุดยืน แน่นอนว่าผลกำไรเป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องคาดหวัง แต่เราไม่ได้เอากำไรเป็นเป้าหมายของธุรกิจ เพราะถ้าเอากำไรเป็นเป้าหมายเราจะมีความสุขได้ยาก ถ้าไม่ได้เงินเราก็จะเครียด นั่นทำให้เรากำหนดเป้าหมายของแบรนด์ 137 Degrees ให้เป็นแบรนด์ที่มีประโยชน์ ถ้าเผชิญกับปัญหาหรือทำงานเหนื่อย งานหนัก จะทำให้เรามีพลังที่จะต่อสู้และสนุกไปกับมัน ถ้าทำด้วยใจรัก แพชชัน ตัวเลขจะตามมาเอง”

 

สำหรับสินค้า 137 Degrees วาง Position ในกลุ่มสินค้าระดับพรีเมียมมีจุดแข็งในการสร้างความแตกต่าง และราคาที่จับต้องได้ โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่คั้นมาจากถั่วสด ไม่เติมน้ำตาลทราย ไม่มีสารกันบูด ไม่มีไขมันทรานส์ และคอเลสเตอรอล

 

ปัจจุบัน 137 Degrees เป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์นมทางเลือก มีผลิตภัณฑ์หลักอยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มนมอัลมอนด์ 3 รสชาติ ได้แก่ นมอัลมอนด์สูตรดั้งเดิม  นมอัลมอนด์สูตรอันสวีทเทนด์ และนมอัลมอนด์ สูตรกาแฟลาเต้  2. กลุ่มนมวอลนัท มี 2 รสชาติ ได้แก่ นมวอลนัทรสดั้งเดิมและนมวอลนัท สูตรมัทฉะชาเขียว 3. กลุ่มนมพิสตาชิโอ มี 2 รสชาติ ได้แก่ นมพิสตาชิโอรสดั้งเดิมและนมพิสตาชิโอ สูตรช็อกโกแลต เบลเยี่ยม โดยสินค้า 137 Degrees มีจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั้งในประเทศ และอีกกว่า 30 ประเทศทั่วโลกใน 5 ทวีป โดยมีสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศที่ 50% และส่งออกต่างประเทศ 50%

 

นอกจาก 3 ผลิตภัณฑ์ 137 Degrees ยังพัฒนานมสูตรใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัวนมอัลมอนด์สูตรมอลต์และผักเป็นครั้งแรกของโลก และแตกไลน์สินค้าใหม่ในกลุ่มนมข้าวโพด นอกจากนี้ ยังเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “โฮลี่ นัทส์” (Wholly Nuts) ซึ่งเป็นสูตร Clean & Lean เน้นรสชาติที่ดื่มง่าย  ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

 

  

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ให้ข้อมูลธุรกิจของ ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ ว่า ธุรกิจของซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561  โดยในปี 2561 มีรายได้ 291 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 326 ล้านบาทในปี 2562 และ 444 ล้านบาทในปี 2563 ในด้านกำไร ปี 2561 ธุรกิจมีกำไรที่ 41 ล้านบาทและลดลงเหลือ 26 ล้านบาทในปี 2562 และ 18 ล้านบาทในปี 2563 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการขยายธุรกิจและการสร้างโรงงานใหม่อย่างต่อเนื่อง 

 

อริสากล่าวว่า สำหรับในช่วงโควิด-19 นั้นธุรกิจก็ได้รับผลกระทบบ้าง ในส่วนของผู้บริโภคในประเทศ เขาต้อง WFH  ทำให้ไลฟ์สไตล์เปลี่ยน ลูกค้าส่วนหนึ่งก็หันมาบริโภคอาหารสุขภาพมากขึ้น เราเองนอกจากช่องทางการขายผ่านออนไลน์ที่มีอยู่แล้ว ก็มีการแนะนำสูตรอาหารใหม่ ๆ จากผลิตภัณฑ์ของเรา ให้ผู้บริโภคสามารถทำกินเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน  นอกจากนี้ เรายังออกสินค้าใหม่ เป็นไอศกรีมจากนมอัลมอนด์ภายในแบรนด์ Happy Addey ซึ่งเป็นการต่อยอดจากสินค้าปัจจุบัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค  ส่วนผลกระทบในตลาดต่างประเทศ ก็มีได้รับผลกระทบอยู่ช่วงหนึ่งที่มีการปิดท่าเรือ ทำให้ไม่สามารถส่งออกได้ แต่ปัจจุบันสถานการณ์ต่าง ๆ ก็ดีขึ้น

 

“ช่วงโควิด-19 เป็นโอกาสให้เราได้คิดทบทวนและปรับปรุงการทำงานของเราให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในกระบวนการผลิตเราปรับกระบวนการให้กระชับขึ้น ลดความซ้ำซ้อน เอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทำให้การจัดการงานเกิดประสิทธิภาพ ลดของเสียในกระบวนการผลิต ลดต้นทุนได้มากขึ้น โดยไม่ได้ลดคน ตรงกันข้ามเรากลับเพิ่มคนเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ในการเพิ่มคนนั้นเน้นการบริหารจัดการที่ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ภาพรวมธุรกิจแข็งแกร่งขึ้น พร้อมสู้กับอุปสรรค ทำให้เราพร้อมขยายงานและเติบโตขึ้นเมื่อตลาดดีขึ้น”

 

เวลาเผชิญกับปัญหา ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกโฟกัสตรงไหน ถ้าเราโฟกัสปัญหาที่ไม่มีทางออก ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเราเลือกมองในสิ่งที่เราทำได้ ก็สามารถจับต้องได้ สามารถแก้ไขให้ภาพรวมธุรกิจดีขึ้นได้

 

 

ความสำเร็จและการตอบรับจากผู้บริโภค ทำให้ในปี 2563 ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ ใช้งบประมาณเกือบพันล้านบาท พัฒนาโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี  เริ่มเดินเครื่องผลิตมาตั้งแต่ต้นปี 2563 โดยให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนการผลิต ภายใต้มาตรฐานการรับรองคุณภาพ GMP, HACCP,BRC, ISO 22000, FSSC 22000 และ USFDA

 

“บริษัทฯ ให้ความสำคัญการทำตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์  การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าและผู้บริโภค รวมถึงพันธมิตรด้านช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าตลอดทั้งปีเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมการบริโภคสินค้าจากทั่วโลก”

 

สำหรับแง่คิดทางธุรกิจที่ทำให้ประสบความสำเร็จนั้น อริสากล่าวว่า ในฐานะเจ้าของธุรกิจมี 2 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ อันแรก Passion นำมาซึ่งความสนใจในอะไรบางอย่าง หลงใหลในอะไรบางอย่าง ทำให้เราใช้เวลากับมันได้มาก โดยที่เราไม่ทุกข์ ทำงานโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย แต่ทำงานเพราะเราสนใจ ถ้าเรามี Passion จะทำอะไรก็ดีไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรืองานอดิเรก สอง Perseverance หรือความอดทนไม่ย่อท้อหรือความถึกทน ไม่มีอะในโลกที่ไม่มีอุปสรรค ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับเราจะทำสิ่งนั้นต่อไปหรือเปล่า สิ่งที่สำคัญมาก ๆ เราไม่จำเป็นต้องฉลาดที่สุด หรือมีต้นทุนเยอะที่สุด แต่เราจะต้องอดทน มุ่งมั่นในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างไม่ย่อท้อ จนกว่าสิ่งนั้นจะสำเร็จ 

Category:

Passion in this story