เอาเป็นว่าไม่มีจะแย่มาก…มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้ก่อนอายุ 30 ปี แต่หากคุณไม่ได้ทำ 8 สิ่งนี้ ชีวิตของคุณจะรันทดมาก…

ในชีวิตหนึ่งของคนเรามีเรื่องต่าง ๆ ให้ค้นหา ให้ทำ ให้เรียนรู้มากมาย จากจุดเริ่มต้นที่ก้าวแรก สู่วัยประถม วัยรุ่น เรียนจบ ทำงาน สร้างครอบครัว เผลอแผล็บเดียวชีวิตก็ใกล้สามย่านซะแล้ว (อายุ 30 ปี) ทำไมชีวิตยังไม่มีอะไรเลย มองเพื่อน ๆ ก็มีหน้าที่การงานดี บางคนโดยเฉพาะสาว ๆ ก็เริ่มแต่งงานมีครอบครัว…แล้วเราล่ะมีอะไร

passion gen จึงรวบรวมเรื่องราวมาบอกเล่า ก่อนอายุ 30 คุณต้องมีสิ่งต่อไปนี้” เพี่อเป็นรากฐานในก้าวต่อ ๆ ใปของชีวิต

1. ค้นหาตัวเองให้เจอ สิ่งที่รักและงานที่ต้องทำ

ประการแรกสำคัญที่สุด คือ ค้นหาตัวเอง เราเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไร อยากทำอะไร อยากเป็นอะไร อะไรเป็นสิ่งที่รัก อะไรเป็นสิ่งที่ชอบ…สิ่งเหล่านี้เป็นคำตอบพื้นฐานที่ควรจะตอบตัวเองให้ได้ก่อนอายุ 30 คำตอบนี้จะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดเป้าหมายและสิ่งที่จะต้องทำต่อไป เพื่อความสำเร็จในชีวิต ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่รักและสิ่งที่ต้องทำ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นสิ่งเดียวกันเสมอ หากโชคดีได้ทำสิ่งที่รักและงานที่ต้องทำไปพร้อม ๆ กัน ก็จะมีโอกาสก้าวหน้า เป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในชีวิต

2. ออกไปเจอโลกกว้าง ใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยง

เพราะชีวิตมีเพียงชีวิตเดียว และช่วงวัยรุ่นที่โชติช่วงสว่างไสวก็มีครั้งเดียว จึงควรใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ออกไปเผชิญโลกกว้าง เป็นเสมือนลูกนกที่กางปีกทะยานขึ้นฟ้า หรือจะออกไปแตะขอบฟ้า !! อย่างพี่ตูน-บอดี้สแลม ก็ย่อมได้…การออกไปเผชิญโลกกว้างนั้น เพื่อให้เราได้เปิดโอกาสในการเรียนรู้ชีวิต ในมุมมองและแง่มุมใหม่ๆ ให้เรามองอะไรได้กว้างไกลมากขึ้น

ใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยง อยากทำอะไรให้รีบทำ…อย่าให้เวลาเดินผ่านไปอย่างสูญเปล่า หลายสิ่งหลายอย่างสามารถทำได้เพียงช่วงนี้เท่านั้น  เพราะเมื่อไหร่ที่มีครอบครัวแล้ว ทุกอย่างจะเต็มไปด้วยข้อจำกัด

3. วางแผนกำหนดเป้าหมายให้ชีวิต

แผนที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่ใช่แค่เฉพาะในการทำงานแต่รวมถึงการวางแผนชีวิต ขงเบ้ง กล่าวไว้ว่า “เดินหมากรุกยังต้องคิด เดินหมากชีวิตจะไม่คิดได้อย่างไร” การใช้ชีวิตจึงต้องวางแผน โดยเฉพาะช่วงก่อน 30 เป็นช่วงเริ่มต้นของการวางรากฐานให้ชีวิต วางเป้าหมายให้ดี เดินชีวิตให้ถูก แล้วความสำเร็จจะตามมาเอง

4. ค้นหาประสบการณ์ในการทำงาน สำคัญสุดอีกเรื่องคือเงิน

ความเข้าใจผิดอันหนึ่งของคนในวัยเริ่มทำงาน คือ การพยายามหารายได้มาก ๆ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของคนในวัยก่อน 30 คือ ประสบการณ์จากการทำงาน บ่อยครั้งที่คุณอาจจะต้องเลือกระหว่างงานที่ให้ประสบการณ์ที่ดี กับงานที่ให้เงินที่ดี ซึ่งสำหรับคนในวัยนี้ประสบการณ์ในการทำงานที่ท้าทายสำคัญกว่าจำนวนเงิน เพราะในช่วงอายุถัดไปประสบการณ์ที่ดีจะช่วยให้เราทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ

5. มีงานที่ให้รายได้ชัดเจน

ก่อนวัย 30 นอกจากค้นพบตัวเองให้เจอแล้ว ควรจะเริ่มต้นงานและอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ที่ชัดเจน รายได้อาจจะมาในรูปของเงินเดือนหรือธุรกิจส่วนตัวก็ย่อมได้ แต่งานนั้นต้องมีรายได้ที่มีความชัดเจนแน่นอน สามารถคาดการณ์ความก้าวหน้าและการเติบโตได้ เพื่อนำรายได้มาสร้างความมั่นคงให้ชีวิตต่อไป

6. วางแผนการออม การลงทุน ทำบัญชีรายรับรายจ่าย

ก่อนจะมีงานทำ เรามักคิดแต่เพียงหางานดี ๆ ทำแล้วจะร่ำจะรวย แต่โลกของความจริงไม่เป็นเช่นนั้น เงินจำนวนมากอาจจะมาหาเราได้ แต่หากไม่รู้จักเก็บออมและทำให้เงินงอกเงย เงินนั้นก็จะหมดไปอย่างรวดเร็วกับสารพัดสิ่งยั่วใจ ทั้งรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้า กระเป๋าแบรนด์เนม

การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อรู้ว่าเราบริโภคอะไรเกินตัว มีการวางแผนการออมที่ถูกต้อง และรู้จักการลงทุนอย่างถูกวิธีจะเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

7. ลงทุนกับคู่ชีวิตคนแรก

เชื่อไหม ? ในทุกข้อที่กล่าวมานั้น การลงทุนกับคู่ชีวิตคนแรกสำคัญที่สุด…555 ผมหมายความตามนั้นจริง ๆ การมีภรรยาที่ดีจะทำให้ทุกอย่างในชีวิตดีไปซะแทบจะทั้งหมด แต่หากภรรยาไม่ดีซะอย่าง ทุกอย่างก็จะไม่ดีไปหมด อับราฮัม ลินคอล์น กล่าวไว้ว่า “บ้านที่ถูกแบ่งแยกนั้นย่อมไม่สามารถดำรงอยู่ได้” ถ้าการลงทุนผิดพลาดทำให้เราต้องกระทบกระทั่งกับคู่ชีวิตอยู่ตลอด จะโฟกัสที่ความสำเร็จได้อย่างไร

8. หาบ้านดี ๆ สักหลัง รถมาทีหลังก็ยังได้

เด็กจบใหม่มักต้องการไอเทมอำนวยความสะดวก เช่น คอนโด รถยนต์ และโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้แม้บางอย่างจะจำเป็น แต่ก็เป็นการฟุ่มเฟือยไปโดยใช่เหตุ…ถ้าจำเป็นต้องซื้อควรซื้อที่ราคาประหยัด ส่วนบ้านนั้นต่างออกไป เพราะบ้านและที่ดินเป็นสินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แตกต่างจากรถยนต์และโทรศัพท์มือถือที่นับวันราคาจะยิ่งลดลง ถ้าจำเป็นต้องเลือกแล้ว จึงควรซื้อบ้านและคอนโดก่อน

ทั้ง 8 ประการนี้เป็นกรอบความคิดง่าย ๆ ที่ยึดโยงกับความจำเป็นเหมาะสมในชีวิต แต่ก็เชื่อได้ว่า เด็กรุ่นใหม่จะมีข้อโต้แย้งมากมายกับเนื้อหานี้

เอาเป็นว่าใครเห็นต่างอย่างไร ? คอมเมนต์ไว้แลกเปลี่ยนกันใต้โพสต์นะจ๊ะ…


Passion in this story