Categories: INSPIRE

PODCAST THE (PHOTO) SERIES EP.08: รู้สึกหมดแรง หมดไฟ หมดกำลังใจ ทำอย่างไรดี

คุณเคยตั้งเป้าที่จะทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกมันกลางคันเพราะขี้เกียจไหม ?

คุณเคยคิดอยากจะออกกำลังกายทุกวัน มีทรวดทรงองค์เอวให้รู้สึกดีกับตัวเองเล่น ๆ แต่ก็จบลงที่เตาหมูกระทะและชานมไข่มุกหวาน 125% รึเปล่า ?

คุณไม่ใช่คนเดียวหรอกที่รู้สึกเช่นนี้ เพราะเราทุกคนล้วนแต่มีความขี้เกียจติดตัวมาตั้งแต่เกิด และไม่แปลกที่เราจะหมดกำลังใจในการทำตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ เพราะเรื่องนี้มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อธิบายเอาไว้อยู่

ที่คุณรู้สึกหมดเรี่ยวแรง หมดไฟ และหมดกำลังใจที่จะทำการใด ๆ เช่นนี้ เป็นเพราะว่าคุณรู้สึกเหนื่อยล้าจากการควบคุมตัวเองยังไงล่ะ โดยปกติแล้วมนุษย์ทุกคนจะมีสิ่งที่เรียกว่า “willpower” หรือ “แรงใจที่จะควบคุมตัวเอง”

ถ้าจะแปลให้ง่ายกว่านั้นอาจจะเป็นความอดทน วินัย ฯลฯ ซึ่งไอเจ้า willpower นี้เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างกำลังใจที่ดี ทำให้เรามีแรงจูงใจ มุ่งมั่นที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ

Roy Baumeister นักจิตวิทยาที่ศึกษาเรื่อง willpower ได้ทำการทดลองโดยแบ่งผู้เข้าร่วมการทดลองเป็น 2 กลุ่ม และให้กลุ่มแรกรับประทานคุกกี้อบใหม่ที่มีกลิ่นหอมยั่วยวน ในขณะที่กลุ่มที่ 2 ให้รับประทานแค่หัวไชเท้าในชามที่อยู่ถัดจากชามคุกกี้ จากนั้นให้ทั้งสองกลุ่มลองทำบททดสอบ

นักวิจัยพบว่ากลุ่มที่ต้องรับประทานแต่หัวไชเท้าและห้ามกินคุกกี้นั้น ยอมแพ้และเลิกทำบททดสอบเร็วกว่ากลุ่มที่รับประทานคุกกี้ ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากกลุ่มที่รับประทานหัวไชเท้าจำเป็นต้องออกแรงต่อสู้กับความอยากและควบคุมตนเองไม่ให้กินคุกกี้ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ดังนั้นจึงมีความตั้งใจน้อยกว่าและไม่สามารถจดจ่อกับบททดสอบได้เท่ากับอีกกลุ่มที่ได้กินคุกกี้

willpower ของคนเราในแต่ละวันก็เหมือนกับแบตเตอรี่ ยิ่งใช้มากเท่าไหร่ มันยิ่งหมดเร็วเท่านั้น การควบคุมตัวเองให้ทำหรือไม่ทำอะไรก็ตาม ล้วนแล้วแต่ใช้ willpower ของเราทั้งนั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมในช่วงบ่ายเราถึงไม่ค่อยมีแรงหรือมีสมาธิที่จะทำงานกันนัก เพราะเราใช้ willpower ไปกับการปลุกตัวเองให้ตื่น ฝืนตัวเองให้มาทำงาน ฝ่ารถติดในตอนเช้า บังคับตัวเองให้จดจ่อกับการทำงานไม่วอกแวกไปเลื่อนนิวส์ฟีดในเฟซบุ๊ก ควบคุมตัวเองไม่ให้ปรี๊ดแตกใส่เพื่อนร่วมงาน หรือต่อสู้กับความขี้เกียจเพื่อโบนัสก้อนโตในปลายปี

อย่างที่บอกไปว่า willpower นั้นทำงานเหมือนแบตเตอรี่ ดังนั้นเราจึงควรใช้มันอย่างคุ้มค่าที่สุดและให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ที่ตั้งเป้าไว้ในแต่ละวันให้สำเร็จลุล่วง

และต่อไปนี้คือทริกในการจัดการกับ willpower เพื่อให้สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ตอนเช้าคือเวลาทอง

ในตอนกลางคืนที่เรากำลังนอนหลับปุ๋ย ร่างกายจะชาร์จและฟื้นฟู willpower จนเต็มเปี่ยม ทำให้ในตอนเช้าเป็นเวลาทอง เพราะเรามี willpower ที่จะควบคุมตัวเองได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ถ้าต้องการจะทำอะไรให้สำเร็จ ควรเลือกทำในตอนเช้าหลังตื่นนอน

สิ่งสำคัญคือเราไม่ควรหมดพลังไปกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ‘ลำดับความสำคัญในชีวิต’ เลือกทำในสิ่งที่สำคัญกับเป้าหมายในชีวิตซะก่อน เช่น ถ้าคุณตั้งเป้าจะออกกำลังกายเป็นประจำในทุกวัน หรือจะทำการใหญ่ให้เสร็จสิ้นซะวันนี้ ก็ควรเลือกทำในช่วงชั่วโมงแรก ๆ ของวันหลังตื่นนอน

2. ความสงบบ่อเกิดของพลัง

หลายคนชอบความหวือหวา ความตื่นเต้น หรือเสพติดความเศร้าในชีวิต แต่รู้ไหมว่าอารมณ์เหล่านี้ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าและหมดพลังงานได้ง่าย ๆ ลองจินตนาการว่าถ้าคุณดูหนังเศร้าแล้วอยากจะร้องไห้เสียเหลือเกิน แต่คุณบังคับตัวเองไม่ให้ร้องไห้ หลังดูหนังจบคุณจะเลือกกินอะไรระหว่างสลัดกับคุกกี้ ? จากการทดลองพบว่าผู้ที่ต้องอดกลั้นอารมณ์มีแนวโน้มจะเลือกกินคุกกี้มากกว่า ไม่ต่างอะไรกับเวลาที่เครียด เราจะควบคุมตัวเองในเรื่องต่าง ๆ ได้ยากขึ้นนั่นแหละ

การสงบสติอารมณ์ เลือกที่จะออกมาจากความวุ่นวายแล้วมาอยู่กับตัวเอง ก็เหมือนกับการชาร์จแบตไปในตัวเหมือนกัน เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกหมดแรง หมดพลัง โฟกัสสิ่งต่าง ๆ ได้ยาก ลองทำสมาธิหรือหายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ ดูสิ ผลการศึกษาพบว่าเมื่อเราทำสมาธิถึงหรืออยู่กับตัวเอง แม้จะเพียงเวลาสั้น ๆ จะช่วยเพิ่ม willpower ของเราได้

3. ปล่อยให้ชีวิตผ่อนคลายดูบ้าง

อย่าจริงจัง ควบคุม หรือตีกรอบกับทุกพื้นที่ในชีวิตขนาดนั้น เพราะมันจะทำให้คุณต้องสูญเสีย willpower ไปกับทุก ๆ อย่างในชีวิต การที่เรามีระเบียบ เคร่งครัด เอาจริงเอาจัง มันก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้ามันทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าและหมดแรงใจที่จะทำอะไรอย่างอื่นก็คงจะแย่เหมือนกัน

ลองปล่อยให้บางพื้นที่ บางจังหวะของชีวิตผ่อนคลายลงบ้าง เช่น ปล่อยให้ห้องรก หรือปรับเปลี่ยนแผนอะไรบางอย่างให้ยืดหยุ่น ไม่ตึงเกินไป และไม่หย่อนเกินไป ใช้ชีวิตแบบพอดี ๆ อาจจะช่วยทำให้คุณมีพลังไปทำเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าได้มากขึ้น

4. อย่าใช้ willpower พร้อมกันในหลาย ๆ เรื่อง

นื่องจาก willpower มีวันหมด ดังนั้น เราจึงไม่ควรทำอะไรหลาย ๆ อย่างเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเรื่องยากที่ต้องใช้พลังจำนวนมหาศาล

เช่น วางแผนจะลดน้ำหนัก หาแฟน หางานใหม่ และลงแข่งไตรกีฬาไปพร้อมกัน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จย่อมน้อยลง เพราะ willpower ที่ใช้ไปในกิจกรรมหนึ่ง จะเหลือน้อยจนไม่พอไปใช้กับกิจกรรมอื่นด้วย สิ่งที่ควรทำคือโฟกัสไปที่เรื่องเดียวให้สำเร็จเสียก่อน ค่อย ๆ ทำทีละเรื่องสองเรื่อง

หรือหากจำเป็นที่ต้องทำเรื่องยาก ๆ พร้อมกันจริง ๆ ให้ตัดหรือทำให้เรื่องที่ “ยังไม่อยากทำ” ให้เป็นเรื่องยาก เช่น อยากจะเสียเงินไปกับการช็อปของออนไลน์ให้น้อยลง ก็ลบแอปออกจากโทรศัพท์ทิ้ง หรือถ้าอยากจะลดน้ำหนักก็เอาของกินอ้วน ๆ ออกไปจากบ้านซะ ถ้าอยากกินจริง ๆ ต้องจำเป็นขับรถออกไปซื้อซึ่งเป็นเรื่องยากขึ้น เมื่อไม่มีอะไรล่อตาล่อใจให้เราเขวจากเป้าหมาย เราก็ใช้ willpower ในการควบคุมตัวเองน้อยลง

5. นึกถึงผลสำเร็จเข้าไว้

ถ้าคุณรู้สึกหมดสิ้นแล้วซึ่งพลัง ให้ลองนึกถึงผลสำเร็จที่รอคุณอยู่ดูสิ

Elliott Berkman นักประสาทวิทยาระบุว่า “เมื่อได้ทำในสิ่งที่ต้องการจะทำจริง ๆ เราจะเหน็ดเหนื่อยน้อยลง” นั่นเป็นเพราะว่าเราใช้ willpower ในการควบคุมตัวเองน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการทำในสิ่งที่ไม่อยากจะทำ

และถ้าคุณรู้สึกหมดแรงที่จะทำ แม้ว่านั้นคือสิ่งที่คุณรักที่จะทำ ให้ลองนึกถึงผลสำเร็จของมันดู เหมือนกับนักวิ่งที่เห็นภาพตัวเองวิ่งเข้าเส้นชัยและชูถ้วยรางวัลอยู่ มันจะทำให้คุณมีแรงฮึดขึ้นมาเลยแหละ

ลองทำตาม 5 ทริกนี้ดู คุณอาจจะมี willpower ที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตมากขึ้น และเห็นโอกาสที่จะทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้สำเร็จ ถ้ารู้สึกว่าหมดพลังจริง ๆ ลองงีบดูสักแป๊บหรือจิบอะไรหวาน ๆ สักหน่อย จะช่วยให้แบตทำงานต่อได้อีกสักระยะ

ใช้เวลาทองในตอนเช้าให้คุ้มค่า ชาร์จพลังจากความสงบ ผ่อนคลายกับชีวิต ตัดอะไรที่เปลืองสมองเปลืองพลังงานทิ้ง และนึกถึงรางวัลที่รอคุณอยู่ คุณจะมีแรงใจมากพอในการทำงานให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน


อภินัทธ์ เชงสันติสุข

เด็กหนุ่มที่กำลังเรียนรู้ชีวิตและถูกเฆี่ยนตีด้วยความเป็นผู้ใหญ่

Recent Posts

Young SME หลักสูตรสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ชู Soft Power เสริมสร้างธุรกิจยั่งยืน

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…

6 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดธุรกิจยุคใหม่ กับ มุมมองด้านความยั่งยืน

บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…

9 months ago

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล “ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี” จากงาน DG Awards 2023

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…

10 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์แบรนด์ สไตล์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…

10 months ago

พิธีปิดการอบรมหลักสูตร SML รุ่นที่ 4 ปี2566

พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…

1 year ago

เมื่อสูงวัยต้องไปทำฟัน

ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…

1 year ago

This website uses cookies.