เรื่องเล่าจากกองขยะ

กองขยะ!! ที่รวมของเสีย สิ่งที่ไม่มีใครต้องการ สิ่งที่ผู้คนรังเกียจ เพียงแค่นึกถึงก็ได้กลิ่นโชยมาจนคลื่นไส้…รู้หรือไม่ภายใต้เศษซากและสิ่งที่เน่าเหม็นเหล่านั้น กลับแฝงไว้ด้วยปรัชญาแนวคิดมากมาย เพียงแต่เมื่อคุณหัดสังเกตมัน

ในโลกที่ไอเดียและความคิดสร้างสรรค์สามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินล้าน…การให้เวลากับความคิดและสิ่งรอบตัวจึงมีความสำคัญ บ่อยครั้งที่เราพบว่าสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต…ไม่ได้สอนเราเท่ากับสิ่งที่แย่ๆ และเลวร้าย เฉกเช่นเดียวกับกองขยะที่ทุกผู้คนต่างเอาของเสีย สิ่งที่ไม่มีใครต้องการ สิ่งที่ผู้คนรังเกียจ ไปไว้อยู่รวมกัน กองขยะจึงไม่น่าอภิรมย์มากเท่านั้น

แต่ภายใต้ฉากหน้าที่ไม่น่าดูนั้น กองขยะกลับแฝงไว้ด้วยปรัชญาและข้อคิดมากมาย และบางสิ่งอาจจะเปลี่ยนโลกและวิธีคิดของคุณไปตลอดกาล ต่อไปนี้คือ 7 สิ่ง ที่คุณได้จากกองขยะ 

1.ขยะก็แค่ของที่คนไม่ต้องการ

แน่นอน…ขยะก็คือขยะนั่นแหละ จะมีอะไรมากกว่านั้น แต่…

2.ไม่มีสิ่งใดที่ไร้ค่าอย่างแท้จริง

ขณะที่ทุกคนเลือกทิ้งของที่ไม่ใช้แล้ว แต่ก็ยังมีคนอีกกลุ่มนึงที่ถูกขนานนามว่า “คนเก็บขยะ” เดินเก็บสิ่งเหลือใช้ เช่น เศษกระดาษ ขวดแก้ว และขวดพลาสติก ไปเปลี่ยนเป็นเงินประทังชีวิต…คนเรามักมองและตัดสินคุณค่าในทุกสิ่งว่า สิ่งนั้นมีค่า สิ่งนี้ไม่มีค่า…แต่ต่างคนก็ต่างมอง คุณค่าจึงขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน

3.คุณเลือกมองสิ่งปฏิกูลหรือมองเพชร

ในขณะที่เราเชื่อว่าทุกสิ่งในกองขยะไร้ค่า!! แต่ภายใต้ฉากหน้านั้นมีคนกลุ่มหนึ่งที่มองหาของมีค่าอยู่เสมอ เช่น สร้อย แหวน เพชรนิลจินดา บางพวกมองหาทองเส้นเล็กๆ บนแผงวงจร เพื่อเอาไปหลอมเป็นทองก้อน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นของที่ไม่มีค่าเพียงพอ ก็ยังมีมุมมองที่แตกต่างให้เลือกมองได้เสมอ เปรียบกับคนที่มีทั้งมุมที่ดีและไม่ดี อยู่ที่คนจะเลือกที่ตรงไหน…การมองให้เห็นคุณค่าในคนอื่น จะฝึกให้เรามองโลกในมุมบวก ซึ่งพลังบวกจะดึงดูดสิ่งดีต่างๆ ให้วิ่งเข้ามาหา

4.ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่มีคุณค่าในตัวเอง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

ไม่มีอะไรที่ไม่มีค่าอย่างแท้จริง ของบางสิ่งที่เราเคยทิ้งไปเมื่อนานมาแล้ว โต๊ะ ตู้ เตียงเก่า ที่ครั้งหนึ่งไม่ทันสมัย ถึงวันนี้กลับกลายเป็นของมีค่าแบบเฟอร์นิเจอร์เรโทร ทุกสิ่งทุกอย่างจึงล้วนมีคุณค่าในตัวเอง เฉกเช่นเดียวกับชีวิตคนวันหนึ่งเราคนอาจจะมองเราว่ามีค่า แต่ถึงวันหนึ่งเราก็อาจจะหมดคุณค่าในสายตาคนอื่นได้เช่นกัน…ดังนั้นจงอย่ามองคนแค่เปลือกนอก แต่ให้มองถึงคุณค่าและสิ่งที่คนเหล่านั้นหยิบยื่นให้กับสังคม

5.โอกาสมีอยู่เสมอในทุกที่

แม้แต่ในกองขยะก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาส หลายครอบครัวสร้างเนื้อสร้างตัว หาเงินส่งลูกเรียนจนจบปริญญาด้วยเงินที่ได้จากการเก็บขยะ…เมื่อเรามองไปสิ่งที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งจงมองสิ่งนั้นอย่างรอบด้าน เหมือนลูกเต๋าที่มี 6 ด้านเสมอ การฝึกตัวเองให้มองทุกสิ่งอย่างรอบด้าน จะทำให้เราเป็นที่ช่างสังเกต ช่างคิด ช่างวิเคราะห์ ซึ่งจะทำให้เรามองทุกสิ่งอย่างแตกต่าง และเห็นโอกาสที่เกิดขึ้นเสมอ

6.ความร่ำรวยเริ่มจากการกระทำอันน้อยนิด

ความสำเร็จไม่ได้มาจากอะไรที่ใหญ่โตเสมอๆ การทำสิ่งเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ กันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เช่น การเก็บเงิน ก็ทำให้เราประสบความสำเร็จมีเงินมีทองจำนวนมากได้ ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2517 ชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถกระบะคันเก่า ตระเวนรับซื้อของตามบ้าน 15 ปีต่อมาเขาตั้งโรงงานคัดแยกขยะรีไซเคิล จนถึงวันนี้กลายเป็นธุรกิจรับซื้อขยะขนาดใหญ่มีคนงานมากกว่า 14000 คน และขยายสาขาไปถึง 9 ประเทศ ชายหนุ่มคนนั้นเป็นที่รู้จักในชื่อ ดร.สมไทย วงษ์เจริญ ประธาน วงษ์พาณิชย์ กรุ๊ป

7.ท้ายที่สุดขยะก็เป็นเงิน

ถึงที่สุดคงมีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อว่าขยะจะเป็นได้ทั้งโอกาสและความร่ำรวย ลองดูภาพนี้

ในแต่ละวันโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ จะนำขยะที่ได้จากเมืองและชุมชนมาเผาเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นสิงคโปร์และสวีเดนต้องรับซื้อขยะเพื่อนำมาเผาเพื่อผลิตไฟฟ้า แล้วเราจะปฏิเสธอีกเหรอว่า ขยะเป็นสิ่งที่ไม่มีค่า!!

ทุกเรื่องในโลกล้วนมีคุณค่าและแง่มุมในตัวเองเสมอ การจะเข้าถึงคุณค่าเหล่านั้น ไม่ใช่การเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้มีค่า แต่อยู่ที่การเปลี่ยนมุมมองของเรา มองให้ดีก็ดี มองให้ไม่ดีก็ไม่ดี สิ่งสำคัญที่สุด จึงขึ้นอยู่กับมุมมองและการตอบสนองต่อมุมมองนั้น