เปิดเคล็ดลับ Le Skin เครื่องสำอางแบรนด์ไทย ดังไกลต่างแดน

ผู้หญิงกับความรักสวยรักงามเป็นสิ่งคู่กัน สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม โดยเฉพาะ เครื่องสำอาง จึงขายดิบขายดี มีอัตราการเติบโตขึ้นทุกปี ทำให้ธุรกิจเครื่องสำอางเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นผู้ประกอบการ

https://youtu.be/J9PuHfQmcvI

ชนุพร บุญนิล หรือ คุณอาร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ เนเชอรัล บิวตี้ แอนด์ คอสเมติก (ประเทศไทย) จำกัด คือ 1 ในนั้น และวันนี้เธอสามารถทำตามความฝัน ด้วยการเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว “เลอ สกิน (Le Skin)”  ซึ่งเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เธอยอมรับว่า…. กว่าจะก้าวมาถึงจุดที่ยืนอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความอดทน เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ทันกับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

“ อาร์เริ่มต้นจากการเป็นแม่ค้าตลาดนัดมาก่อน จากนั้นก็เริ่มมาทำธุรกิจเกี่ยวกับเส้นผม ช่วงแรกๆ ที่เข้าหาลูกค้าเพื่อเสนอสินค้า ยอมรับว่าไม่ง่ายเลย จำได้ว่าเคยโดนลูกค้าไล่ออกจากร้าน เพราะเขาไม่รู้จักและไม่เชื่อมั่นในสินค้าของเรา แต่แฟนอาร์ที่ทำธุรกิจด้วยกัน จะบอกเสมอว่า ไม่เป็นไร อะไรที่เรายังไม่ได้ทำ ยังไม่มี  ก็ต้องรีบทำ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือของตัวสินค้าและตัวเราเอง ตอนนั้นเรายังไม่ได้เปิดในรูปแบบบริษัท ยังไม่มีนามบัตร ก็เลยไปทำนามบัตร เปิดบริษัทฯ ขึ้น เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ”

หลังจากเปิดบริษัทฯ และลุยทำตลาดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเส้นผมอย่างไม่ย่อท้อ ทำให้สินค้าเริ่มเป็นที่รู้จักและกิจการเริ่มอยู่ตัว แต่ด้วยความที่เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ชนุพรจึงมองหาธุรกิจใหม่ โดยยังเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความสวยความงามเช่นเดิม เพราะเป็นสิ่งที่เธอรัก

“ มองว่าถ้าทำเฉพาะเส้นผมอย่างเดียว ตลาดแคบไป ก็เลยอยากขยายไลน์ไปที่สกินแคร์ ซึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว สบู่เป็นสินค้าที่ขายดีมาก อยากจะทำสบู่บ้าง เลยไปเข้าคอร์สเรียนการทำสบู่ประเภทต่างๆ ต่อด้วยเรียนทำผลิตภัณฑ์อื่นๆ แล้วเอาไปให้พนักงานกับคนรู้จักลองใช้ หลายคนบอกว่าใช้แล้วดี ทำไมไม่เปิดเป็นธุรกิจไปเลย นี่คือจุดเริ่มต้นของธุรกิจเลอ สกิน ”

ชนุพร เล่าว่าตอนตัดสินใจทำสินค้าสกินแคร์ เธอทราบดีว่าต้องใช้เงินลงทุนสูงพอสมควร แต่คิดว่าดีกว่าไม่ลงมือทำอะไรเลย จึงตัดสินใจตั้งโรงงานผลิตสินค้าของตัวเองขึ้น จากนั้นก็เริ่มสำรวจตลาด เพื่อดูว่าจะผลิตสินค้าตัวใดดี ซึ่งเธอบอกว่า ในเวลานั้นเธอไม่ทราบว่าวิธีการสำรวจตลาดที่ถูกต้องทำอย่างไร รู้เพียงว่าที่ไหนมีเครื่องสำอาง เธอก็จะตามไปดู ตลาดกำลังนิยมสินค้าประเภทใด สินค้าแบบไหนขายดี เธอก็จะทดลองทำ

แต่สุดท้ายแล้วเธอมองว่า ถ้าจะให้ธุรกิจมีความยั่งยืนจริงๆ เธอต้องจ้างพนักงานที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเข้ามาทำหน้าที่ มาร่วมกันสร้างผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

นับว่าเธอตัดสินใจไม่ผิดพลาด เพราะปัจจุบันแบรนด์เลอ สกิน เติบโตอย่างมั่นคงเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน ซึ่งรู้จักสินค้าของเธอผ่านแคตตาล็อกสำหรับกลุ่มทัวร์ จากนั้นก็เริ่มมีการแนะนำแบบปากต่อปาก จนปัจจุบันผลิตภัณฑ์เลอ สกิน สามารถส่งออกไปยังประเทศจีนและในอีกหลายๆ ประเทศ อาทิ แอฟริกา ตะวันออกกลาง

ชนุพร หรือ คุณอาร์ นักธุรกิจหญิงเก่งเจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางฝีมือคนไทย ที่โด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ กล่าวว่า ทุกวันนี้ เธอยังต้องหมั่นหาความรู้และพัฒนาศักยภาพของตัวเองอยู่เสมอ เช่น ไปลงเรียนคลาสต่างๆ ที่สอนเกี่ยวกับการตลาดรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สำหรับกุญแจสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจของเธอนั้น คุณอาร์เผยว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือเริ่มจากความรักและมี passion กับสิ่งที่จะทำ

“ เคล็ดลับในการทำงานให้ประสบความสำเร็จข้อแรก ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไร อาชีพอะไร คุณต้องรักในสิ่งที่คุณทำ เพราะถ้าคุณรัก คุณจะเต็มใจทำ อาร์รักที่จะทำสกินแคร์ ทำให้รู้สึกว่าทุกๆ วันการทำงานเป็นเรื่องสนุก ข้อต่อมา คุณภาพสินค้าต้องดี แน่นอนว่าอาร์ทดสอบผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น จนมั่นใจว่าสูตรนี้มันดีสำหรับเราจริงๆ ก็ให้คนอื่นทดลอง หลังจากผ่านมาตรฐานบริษัทฯ และผ่าน อย.เรียบร้อย ถึงเอาออกมาขาย และสุดท้ายคือเรื่องราคา ต้องสมเหตุสมผล ไม่ควรตั้งราคาสูงจนเกินไป ”

ชนุพร กล่าวปิดท้ายว่า ธุรกิจเครื่องสำอางปัจจุบันมีการแข่งขันสูง และมีผู้ประกอบการเข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดมากมาย นี่คือโอกาสของทุกๆ คนที่สนใจเข้ามาดูว่าบรรยากาศของตลาดเครื่องสำอาง ตลาดสินค้าสกินแคร์เป็นอย่างไร แต่อยากฝากให้คนที่สนใจเข้ามาทำธุรกิจด้านนี้ว่า ต้องรักที่จะทำธุรกิจนี้จริงๆ เพราะบางครั้งสิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้รับในช่วงแรกๆ อาจจะไม่ใช่เม็ดเงิน แต่มันคือความสุขของลูกค้าและตัวเราเอง

เธอเชื่อว่า ใครก็ตามที่เริ่มต้นทำธุรกิจด้วยความรักและความใสใจ ธุรกิจจะสามารถเติบโตและเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงแน่นอน