Categories: INSPIRE

ที่ทางของศิลปะกับศิลปินใน 3 วัย

“ศิลปะไม่ได้สอนให้วาดรูปเป็น แต่สอนให้รู้จักการใช้ชีวิต”

– ศิลป์ พีระศรี –

ศิลปะไม่ใช่เพียงแค่การวาดรูป ระบายสี หรือเป็นสิ่งนามธรรมที่ยากเกินจะเข้าใจเท่านั้น แต่คือผลผลิตที่เกิดขึ้นจากความพากเพียรมนุษย์ ศิลปะไม่ใช่เรื่องยากเกินที่คนทั่วไปจะสัมผัส แต่คือชีวิตประจำวันที่เราทุกคนสัมผัสได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านคำสอนของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี  ปราชญ์ศิลปินผู้วางรากฐานศิลปะไทยสมัยใหม่ และอธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยศิลปากร

ศิลปะมีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมความเจริญงอกงาม ทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม ศิลปะทำให้เยาวชนสามารถใช้เวลาว่างในการสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์และถอยห่างจากยาเสพติด ศิลปะทำให้เรารู้สึกสงบ เป็นความผ่อนคลายและอิ่มเอิบใจ

การชื่นชมในงานศิลปะนั้นเพิ่มพูนคุณค่าของชีวิต ศิลปะกระตุ้นให้สมองหลั่งฮอร์โมนโดพามีนออกมา เป็นสารเดียวกับที่สมองหลั่งออกมาเมื่อเราตกหลุมรักใครสักคน ศิลปะทำให้เรารู้ว่าเราคือใครและทำให้ชีวิตดีขึ้นด้วยการแสดงออกมา

แต่กระนั้น พื้นที่ทางศิลปะในประเทศไทยก็มีอยู่น้อยนิดเหลือเกินที่จะให้ผู้คนได้เสพและรังสรรค์งานศิลปะ ข้อนี้เองที่ทำให้ ธนาคารออมสิน จัดการประกวดวาดภาพ “ออมสินร่วมสมัย เทิดไท้จักรีวงศ์” เพื่อสนับสนุนการสร้างงานศิลปะของเด็กและเยาวชนไทยทุกระดับ ปลูกฝังให้มีความซาบซึ้งในคุณค่าของศิลปะและเกิดสุนทรียภาพ

สร้างโอกาสให้เยาวชนและประชาชนที่มีความสามารถ รักและสนใจในงานศิลปะได้มีเวทีในการแสดงผลงาน ภายใต้แนวคิดสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียากิจนานัปการด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เพื่อปวงชนชาวไทยได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตราบจนทุกวันนี้

ออมศิลป์ร่วมสมัย เทิดไท้จักรีวงศ์

การประกวดวาดภาพ ภายใต้หัวข้อ “ออมศิลป์ร่วมสมัย เทิดไท้จักรีวงศ์” ชิงถ้วยเชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 2.36 ล้านบาท เป็นการเปิดกว้างให้ผู้เข้าร่วมประกวดได้สร้างสรรค์ผลงานอย่างไม่จำกัดแนวคิด ซึ่งได้รับเกียรติจากศิลปินแห่งชาติและผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินผลงาน

ธนาคารออมสินได้เปิดรับผลงานส่งเข้าประกวดตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าปีนี้มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดทั้งสิ้น 558 ผลงาน และเมื่อวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2562 ธนาคารออมสินได้คัดเลือกและตัดสินผลงาน โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านงานศิลปะ 9 ท่าน ร่วมเป็นคณะกรรรมการผู้ตัดสิน ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณอิทธิพล ตั้งโฉลก, ศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา เถาทอง, ศาสตราจารย์เมธีดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, ศาสตราจารย์วิโชค มุกดามณี, อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร,ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิต, ศาสตราจารย์ถาวร โกอุดมวิทย์, อาจารย์สังคม ทองมี และอาจารย์วีรเดช พนมวัน ณ อยุธยา

โดยผลการตัดสินการประกวดรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งของแต่ละประเภทมีดังนี้

  • ประเภทบุคคลทั่วไป ผลงานชนะเลิศ คือ นายทรงฤทธิ์ เหมือยพรม ผลงานชื่อ “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไทย” ได้รับประกาศนียบัตรพร้อมเงินรางวัล 1,000,000 บาท และศึกษาดูงานต่างประเทศ
  • ประเภทเยาวชนอายุระหว่าง 13-17 ปี ผลงานชนะเลิศ คือ นายอานนท์ แสงสุวรรณ ผลงานชื่อ “เรื่องราวผ่านมังกร” ได้รับประกาศนียบัตรพร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท และศึกษาดูงานต่างประเทศ
  • ประเภทเยาวชนอายุระหว่าง 7-12 ปี ผลงานชนะเลิศ คือ ด.ช.ทนิตสร รัตนรัตน์ ผลงานชื่อ “ยาสีฟันพอเพียง” ได้รับประกาศนียบัตรพร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท และศึกษาดูงานต่างประเทศ

นอกจากนี้ ธนาคารออมสินยังเพิ่มรางวัลพิเศษให้กับโรงเรียนหรือสถาบันศิลปะที่รณรงค์ให้เด็กและเยาวชน ส่งผลงานเข้าประกวดและผลงานนั้นผ่านการคัดเลือกในรอบแรกจำนวนมากที่สุด 3 อันดับแรก จะได้รับโอกาสส่งผู้แทนร่วมเดินทางไปทัศนศึกษางานด้านศิลปะ ณ ประเทศไต้หวัน ร่วมกับผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทพร้อมกันด้วย เพื่อเปิดโลกทัศน์ด้านศิลปะและสร้างจิตนาการเพิ่มเติม

ศิลปิน 3 วัย

“ศิลปะไม่ได้ยาก ศิลปะที่บริสุทธิ์คือจินตนาการของผู้คิดเอง” มุมมองของ ทนิตสร รัตนรัตน์ เด็กชายผู้ชนะเลิศการประกวดประเภทเยาวชนอายุระหว่าง 7-12 ปี ที่มีต่อศิลปะ สะท้อนให้เห็นถึงความคิดที่ลุ่มลึกของเด็กคนหนึ่งว่าศิลปะเป็นเรื่องธรรมดา อันเกิดจากจิตนาการของมนุษย์ และมนุษย์ทุกคนมีศิลปะอยู่ในตัว อยู่ที่ว่าจะสามารถมองเห็นมันในตัวเราได้มากน้อยแค่ไหน

ทนิตสร รัตนรัตน์

“ยาสีฟันพอเพียง” คือชื่อผลงานของทนิตสร โดยได้แรงบันดาลใจจากที่เด็กคนนี้ได้มองเห็นยาสีฟันหน้ากระจกที่บ้าน ทำให้นึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงเป็นแบบอย่างในความพอเพียง จากการที่ทรงบีบยาสีฟันจนหมดหลอด ทนิตสรได้ใช้เทคนิคสื่อผสมในการรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้น

เมื่อถามว่าเขาจะนำเงินรางวัลนี้ไปทำอะไรต่อ ศิลปินตัวน้อยได้ตอบอย่างไม่ลังเลว่า จะนำเงินส่วนหนึ่งแบ่งให้พ่อกับแม่ ที่คอยสนับสนุนในแนวทางที่เขารักมาโดยตลอด และอีกส่วนจะนำไปใช้เป็นทุนการศึกษาในการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งเขาใฝ่ฝันจะเรียนต่อในคณะทันตแพทยศาสตร์

“จงเชื่อในความฝัน” คือสิ่งที่ทนิตสรอยากจะบอกกับทุกคน ที่มีความฝันแต่ไม่กล้าที่จะเดินตามฝัน เฉกเช่นที่เขาได้เดินตามความฝันทำในสิ่งที่เขารักอย่างงานศิลปะ

อานนท์ แสงสุวรรณ

อานนท์ แสงสุวรรณ ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศ ในประเภทเยาวชนอายุระหว่าง 13-17 ปี ด้วยผลงาน “เรื่องราวผ่านมังกร” โดยได้แรงบันดาลมาจากความยิ่งใหญ่ของสัตว์ในตำนานอย่างมังกร เปรียบเสมือนความยิ่งใหญ่ของพระมหากษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ สื่อถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมานับตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งร้อยเรียงเป็นเรื่องราวอยู่บนตัวมังกร

อานนท์ได้ใช้เวลาตลอดทั้งปิดเทอมในการรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้นออกมาได้อย่างสวยงามและเต็มไปด้วยจินตนาการ เขามองว่าเด็ก ๆ ก็สามารถเข้าถึงและเข้าใจในศิลปะได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น ไม่ต้องกลัวอะไร ถ้าเกิดชอบและมีใจรัก ก็ลงมือทำได้เลย

สิ่งที่อานนท์ได้จากการประกวด นอกเหนือไปจากเงินรางวัลและโอกาสที่ได้ไปศึกษาดูงานต่างประเทศ เขายังได้รับโอกาสในการเรียนรู้การทำงานที่น้อยคนนักจะได้รับ และมิตรภาพมากมายจากเพื่อนใหม่ ๆ ที่เขาได้เจอะเจอ สิ่งสุดท้ายที่เขาได้บอกกับเราคือ “ขอบคุณกรรมการที่ช่วยเลือกผมมาเป็นที่ 1 นะครับ”

จากชายผู้รักในศิลปะไทยและคลุกคลีอยู่กับพระพุทธศาสนามาทั้งชีวิต ในวันนี้ ทรงฤทธิ์ เหมือยพรม ได้คว้ารางวัลชนะเลิศในประเภทประชาชนทั่วไป กับผลงาน “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไทย” ที่ได้ผสมผสานพระพุทธศาสนาเข้ากับพระมหากษัตริย์ไทย สองสิ่งที่ซึ่งเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย และถ่ายทอดออกมาได้อย่างวิจิตรงดงาม

ทรงฤทธิ์ เหมือยพรม

สำหรับทรงฤทธิ์ ศิลปะไม่ใช่อะไรที่ไกลตัว แต่คือชีวิตประจำวันที่อยู่กับเราทุกคน “บางครั้งในรูปที่เราดูไม่รู้เรื่อง เราก็ใช้ความรู้สึกแทน ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องความหมายอะไรที่ศิลปินต้องการแสดง ศิลปะเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ว่าจะทำอะไร ทุกคนมีศิลปะในตัวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเล่นดนตรี ทำอาหาร ผมก็ว่ามันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง การใช้ชีวิตมันก็เป็นศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายหรือว่าอะไร ทุกคนมีสไตล์เป็นของตัวเอง”

ในฐานะที่เขาเป็นคนรุ่นเก่าและเฝ้ามองการเติบโตของต้นกล้าน้อย ๆ อย่างคนรุ่นใหม่ ได้ฝากบอกกับคนรุ่นใหม่ที่กำลังเรียนรู้การเติบโตว่า “ไม่ต้องไปกลัวอะไร เราชอบอะไรก็แสดงออกมาให้เต็มที่ แล้ววันหนึ่งสิ่งที่เรากล้าแสดงออกหรือสิ่งที่เราทำจะตอบแทนเราเอง”

“ทำในสิ่งที่รักให้ดีที่สุด จดจ่อ มุ่งมั่น และทำตามความฝัน ผลของมันจะออกมางดงามในที่สุด”


อภินัทธ์ เชงสันติสุข

เด็กหนุ่มที่กำลังเรียนรู้ชีวิตและถูกเฆี่ยนตีด้วยความเป็นผู้ใหญ่

Recent Posts

Young SME หลักสูตรสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ชู Soft Power เสริมสร้างธุรกิจยั่งยืน

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…

6 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดธุรกิจยุคใหม่ กับ มุมมองด้านความยั่งยืน

บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…

9 months ago

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล “ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี” จากงาน DG Awards 2023

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…

10 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์แบรนด์ สไตล์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…

10 months ago

พิธีปิดการอบรมหลักสูตร SML รุ่นที่ 4 ปี2566

พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…

1 year ago

เมื่อสูงวัยต้องไปทำฟัน

ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…

1 year ago

This website uses cookies.