เชื่อว่าทุกคนไม่ชอบโดนปฏิเสธ โดยเฉพาะเมื่อเป็นฝ่ายบอกความต้องการหรือแสดงความเห็นออกไปก่อนอย่างจริงใจ ความกังวลหรือความกลัวว่าจะโดนปฏิเสธ คือ หนึ่งในสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้หลายคนไม่กล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ควรทำเพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้ แต่ความจริงนั้น การโดนปฏิเสธไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ทั้งมันยังสามารถกลายเป็นแรงผลักดันให้คุณพัฒนาตัวเองได้อีกด้วย
บทความนี้ ขอเสนอข้อคิดดีๆ จาก แจ๊ก แคนฟิลด์ (Jack Canfield) นักเขียน นักสร้างแรงบันดาลใจ และนักพูดชื่อดังชาวอเมริกัน เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการโดนปฏิเสธได้อย่างถูกต้อง และไม่ให้ความกลัวการถูกปฎิเสธกลายเป็นอุปสรรคของคุณ
1. การโดนปฎิเสธเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเจอ
การโดนปฎิเสธในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมทีมเพื่อลงแข่งขันในกีฬา การไม่ได้เลื่อนตำแหน่งตามที่หวัง การที่คนที่คุณชอบปฏิเสธไม่ไปออกเดทกับคุณ หรือการโดนบริษัทเชิญออกจากงาน ขอให้คุณตระหนักไว้เสมอว่า สิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้นได้กับทุกคน และทุกเวลาไม่ใช่เฉพาะกับคุณ คุณไม่ได้แปลกไปจากผู้อื่น
2. เวลาที่ใครปฎิเสธคุณ มันเป็นเหตุผลเฉพาะของคนนั้น ไม่ใช่ทุกคนจะปฏิเสธคุณเหมือนกัน
สำหรับบางคน การโดนปฏิเสธ เปรีบเสมือนใครสักคนกำลังชี้หน้าบอกว่าพวกเขาไร้คุณค่าและไม่คู่ควรกับสิ่งที่พวกเขาหวัง ซึ่งทำให้พวกเขาเสียกำลังใจ และอาจเลิกพยายามไปเลย เพราะกลัวว่าอาจถูกปฎิเสธแบบเดิมอีกในอนาคต
หากคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ขอให้ตระหนักว่า เมื่อมีใครบอกปฎิเสธคุณ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม มันเป็นเพียงความคิด และมุมมองส่วนตัวของบุคคลนั้น เท่านั้น การที่คุณโดนปฏิเสธจากคนเพียงคนเดียว ไม่ได้หมายความว่าคนอื่น ๆ จะปฏิเสธคุณเหมือนกันหมด โลกนี้ยังมีคนที่ต้องการคุณ และเห็นคุณค่าของคุณอยู่แน่นอน คุณเพียงต้องค้นหาให้เจอ
3. หาสาเหตุที่คุณโดนปฎิเสธ เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับการพัฒนาตนเอง
เมื่อคุณโดนปฎิเสธเรื่องใดๆ ก็ตาม ให้คุณพยายามหาสาเหตุเบื้องหลังว่าเพราะอะไร เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณส่งใบสมัครงานไปแล้วโดนปฏิเสธ คุณควรลองติดต่อหาผู้รับสมัครเพื่อสอบถามว่าคุณขาดคุณสมบัติ หรือความสามารถอะไรไป เขาจึงไม่รับคุณ ซึ่งเมื่อได้คำตอบมาแล้ว คุณก็สามารถไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องนั้นได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสมัครงานครั้งต่อๆ ไป
4. คุณไม่ได้เสียอะไรจากการโดนปฏิเสธ
การโดนปฏิเสธไม่ได้ทำให้ชีวิตของคุณแย่ลง หรือสูญเสียสิ่งที่คุณมีอยู่ เช่น ถ้าคุณไปสัมภาษณ์งานแล้วไม่ผ่าน ให้มองว่า ก่อนมาสัมภาษณ์คุณก็ยังไม่มีงานทำ ดังนั้น คุณแค่ต้องลองไปสัมภาษณ์งานที่อื่นต่อ หรือถ้าไปสารภาพรักแล้วอีกฝ่ายไม่ตกลง ให้คิดว่า ก่อนหน้านี้คุณก็ไม่มีแฟนอยู่แล้ว และพยายามหาคนที่ใช่ต่อไป
ดังนั้น คุณควรกล้าพูด-กล้าทำ อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไร และถ้าคุณโชคดีอีกฝ่ายอาจจะตอบตกลงก็ได้
สรุป
อย่าท้อเมื่อโดนบอกปฏิเสธ จงใช้มันเป็นประสบการณ์เพื่อพัฒนาตนเองต่อไป เพราะในโลกกว้างใบนี้ยังคงมีคนอื่นที่ต้องการคุณ และกำลังรอให้คุณเข้าไปหาอยู่เสมอ
แปล และเรียบเรียงเนื้อหาจาก How to Overcome Rejection and Move Forward With Your Big Goals (คลิปวิดีโอ) โดย Jack Canfield entrepreneur
Category: