นายคอย เฟเธอร์สตัน  (Coy Featherston) ชายอเมริกันวัย 68 เคยเป็นหนุ่มนักกีฬาสุดฮ็อท ขวัญใจเพื่อนๆ เขาเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วยทุนนักกีฬาฟุตบอล หลังจบการศึกษา เขาไปทำงานฝ่ายเวทีให้ศิลปินชื่อดังของอเมริกาอย่าง แฟรงก์ แซปป้า (Frank Zappa) และวงดนตรีแนวสมัยใหม่ “The Mothers of Innovation” อยู่นานหลายปี

แต่เมื่อยุครุ่งเรืองของ แซปป้าและ The Mothers of Innovation ผ่านไป เขาก็กลายเป็นคนตกงานในปี ค.ศ. 1995  และด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง การหางานใหม่กลายเป็นเรื่องยากลำบาก ซ้ำร้ายญาติคนเดียวที่มีคือน้องชายยังประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นายเฟเธอร์สตันจึงต้องเป็นคนไร้บ้าน ไร้งาน อาศัยข้างถนนเป็นที่ซุกหัวนอนนับแต่นั้น

จนกระทั่งเดือนกันยายนปีนี้ โชคจึงหวนกลับมาหานายเฟเธอร์สตัน เมื่อ สำนักข่าว American-Statesman ได้ถ่ายภาพเขาขณะกำลังเคลื่อนย้ายสัมภาระ ไปประกอบบทความบนเว็บไซต์ เรื่องสภาเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เตรียมออกกฏห้ามคนไร้บ้านพำนักบนถนนในย่านเวสต์ แคมปัส

ภาพประกอบบทความดังกล่าว ทำให้ นางลีอา เมคลิง  (Leea Mechling) เพื่อนสมัย ม.ปลายของนายเฟเธอร์สตัน ตกใจมากที่เพื่อนคนดังในอดีตกลายเป็นคนไร้บ้าน เธอจึงขับรถออกไปตามหาเขาในเมืองออสติน และใช้เวลานานถึง 4 วัน กว่าจะเจอตัวเพื่อนเก่าซึ่งกำลังให้อาหารอาหารนกพิราบอยู่บริเวณโบสถ์  เมื่อทักทายกันแล้วเธอก็ขอให้เขาเก็บของขึ้นรถไปกับเธอทันที

นายเฟเธอร์สตันพักที่บ้านนางเมคลิงไม่นาน ก่อนที่เธอจะพาเขาไปพักกับ นายดอน แวนเดอเบิร์ก (Don Vanderburg) เพื่อนสมัยเรียนอีกคน ซึ่งเปิดบ้านต้อนรับเขาด้วยความยินดี  ด้วยเหตุนี้ นายเฟเธอร์สตันจึงมีบ้านให้หลับ-นอนอีกครั้ง หลังจากอาศัยข้างถนนมายาวนาน

ปัจจุบัน นอกจากที่อยู่อาศัยแล้ว นายเฟเธอร์สตันยังได้รับความช่วยเหลือมากมายจากเพื่อนร่วมรุ่นมัธยมอีกหลายคน ที่ช่วยพาเขาไปลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมเพื่อรับความช่วยเหลือต่าง ๆ   รวมถึงเปิดระดมทุนผ่าน เว็บไซต์  Gofundme  เพื่อหาเงินซื้อที่พักอาศัยให้เขา โดยล่าสุด (ตุลาคม 2562) สามารถระดมทุนได้มากกว่า 13,000 ดอลลาร์แล้ว

เพื่อนๆของนายเฟเธอร์สตันบอกว่า สิ่งที่พวกเขาทำ เป็นการแสดงให้เพื่อนเห็นว่าเพื่อนยังอยู่ในใจเสมอ ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยผ่านไปนานแค่ไหน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเพื่อนอย่างนายเฟเธอร์สตันที่ได้ชื่อว่าเป็นคนซื่อตรงและซื่อสัตย์กับเพื่อนเสมอมา

เรื่องของนายเฟเธอร์สตัน ทำให้คนอเมริกันจำนวนไม่น้อยเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับคนไร้บ้าน นั่นคือ แทนที่จะคิดแบบเดิมว่าพวกคนไร้บ้านล้วนขี้เกียจและติดยา ก็เกิดเป็นความเข้าใจใหม่ว่า ห้วงเวลามืดดำของชีวิตอาจเกิดขึ้นกับใครและเมื่อใดก็ได้ เมื่อมีโอกาสช่วยเหลือเกื้อกูลกันจึงควรช่วยกันไป

ต้องขอบคุณภาพถ่ายใบนั้น ที่คืนชีวิตให้นายเฟเธอร์สตัน 


แปล และเรียบเรียงจาก
statesman
goodnewsnetwork

 

 

Category:

Passion in this story