หากมีใครตั้งคำถามกับคุณว่า…คุณขับรถได้ หรือ คุณขับรถเป็น คุณจะตอบว่าอะไร !!!???
หลายท่านอาจจะสงสัยและตั้งคำถามกลับว่า แล้วมันต่างกันอย่างไร ไม่เห็นจะแตกต่างกันเลยสักนิด !!!???
ขอตอบอย่างมั่นใจว่า “การขับรถได้กับการขับรถเป็น” แตกต่างกันมาก “การขับรถได้” คือการที่ผู้ขับขี่พารถให้เคลื่อนตัวไปถึงจุดหมาย แต่ “การขับรถเป็น” มีขั้นตอนที่น่าสนใจมากมาย แบ่งเป็น 3 ขั้นตอนหลักๆ คือ ขั้นเตรียมพร้อมก่อนการใช้รถ ขั้นตอนการขับขี่ และขั้นตอนการดูแลรักษารถ
- ขั้นเตรียมพร้อมก่อนใช้รถ
สิ่งสำคัญอย่างแรก ที่มักได้ยินบ่อยๆ คือ การตรวจสภาพรถยนต์แบบพื้นฐาน ไล่มาตั้งแต่ปริมาณลมยาง ที่ไม่ควรอ่อนหรือแข็งเกินไป เพราะหากลมยางอ่อน รถจะมีอาการโยนตัว โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งจะรู้สึกว่ารถยวบยาบ ที่สำคัญจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
หากลมยางแข็งเกินไป รถจะมีความกระด้าง เวลาขับตกหลุม หรือผ่านรอยต่อของถนน ผู้ขับรถจะรู้สึกได้ถึงแรงสะเทือนที่ตามมา ผู้ขับขี่รถยนต์ควรหมั่นตรวจปริมาณลมยางสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
แต่……เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ควรเติมลมยางเท่าไร
รถ (เกือบ) ทุกคัน จะมีสติ๊กเกอร์บอกความเหมาะสมของลมยางติดไว้ที่ข้างประตูด้านใน หรือ ง่ายที่สุด คือเปิดสมุดคู่มือประจำรถยนต์ที่ผู้ผลิตรถให้มา ในคู่มือจะบอกข้อมูลลมยางไว้อย่างละเอียด
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของปริมาณน้ำมันเครื่องที่ควรหมั่นตรวจสอบไม่ให้น้อยเกินไปหรือมากเกินไป เพราะจะส่งผลต่อเครื่องยนต์และทำให้เกิดปัญหา วิธีเช็คระดับน้ำมันเครื่อง คือดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมาดู ระดับที่เหมาะสมควรอยู่กึ่งกลางระหว่าง MIN และ MAX เพราะเวลาเครื่องยนต์ทำงาน ความร้อนจะดันน้ำมันเครื่องให้ไปอยู่ระดับ MAX เอง หากเติมน้ำมันเครื่องเยอะเกินไปน้ำมันเครื่องอาจท่วมได้
- ขั้นตอนการขับขี่
หลังจากที่รถเคลื่อนตัวออกมาแล้ว ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องตั้งสติ และมีสมาธิ จดจ่อกับสิ่งรอบตัว รวมไปถึงฟังเสียงผิดปกติต่างๆ ที่มาจากตัวรถ หลักใหญ่ๆ ที่มักได้ยินคือเรื่องของระบบเบรก หากเบรกเริ่มมีเสียงดังจี๊ดๆ ทุกครั้งเวลาเหยียบ ควรตรวจเช็คว่าผ้าเบรคหมดหรือไม่ หากผ้าเบรคเหลือน้อยจะทำให้แผ่นเหล็กที่ประกบผ้าเบรคเสียดสีกับจานเบรค ทำให้เป็นรอยและเกิดเสียงได้ ควรทำการเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ควรต้องสังเกตสัญลักษณ์จราจร ไล่มาตั้งแต่ป้ายจำกัดความเร็ว ป้ายห้ามจอดรถวันคู่วันคี่ ป้ายทางตัน เป็นต้น และเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ขับขี่รถยนต์ไม่ควรมองข้าม
- ขั้นสุดท้าย ขั้นของการดูแลรักษา
รถหนึ่งคันกว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่าย จะดูแลรักษาอย่างไรให้รถอยู่กับเจ้าของยาวนานที่สุด เกิดปัญหาน้อยที่สุด วิธีง่าย ๆ คือ ไม่เร่งเครื่องตอนสตาร์ทรถทันที โดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น หากเป็นไปได้ ควรเร่งเครื่องหลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 10 – 20 นาที ผู้ขับขี่สามารถพักเครื่องยนต์ได้ด้วยการเลื่อนเกียร์ให้อยู่ตำแหน่งว่าง เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ ต่อให้ไม่ได้ขับรถเครื่องยนต์ก็จะยังคงทำงานอยู่
ไม่ควรหยุดรถกะทันหัน เพราะจะส่งผลให้ยางสึกอย่างรวดเร็ว ควรจอดรถในที่ร่ม เพื่อป้องกันไม่ให้รถร้อนจนเกินไป สิ่งสำคัญคือหมั่นเช็ครอยน้ำมันรอบตัวรถให้ดี หากพบรอยน้ำมันควรรีบนำรถไปตรวจสอบเพื่อหาความผิดปกติก่อนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
เห็นไหมครับว่า….. “การขับรถเป็น” ไม่ใช่เรื่องง่าย วันที่ 23 มีนาคมนี้ บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (จำกัด) จะจัดกิจกรรม “ทางด่วนชวนจับคู่ “Smart Drive by BEM” ให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรมพร้อมเรียนรู้ทักษะการขับรถบนถนน รวมทั้งเทคนิคการแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อาทิ เบรก ABS ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี รถเฉี่ยวชนกันในวงเวียน….ใครผิดใครถูกและจะรู้ได้อย่างไร ขับรถออกจากปากซอย ปั๊มน้ำมัน… กรณีไหนถึงเรียกว่า ขับปาดหน้าคนอื่น
ที่สำคัญงานนี้ ฟรี!!!!! ไม่เสียค่าใช้จ่าย เปิดรับ 30 คู่เท่านั้น
คลิ๊กลงทะเบียนได้ที่ https://goo.gl/DKzqW9 หรือ www.bemplc.co.th หรือ www.facebook.com/bemexpressway/ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 081 207 7772
Category: