สภาพการจราจรที่หนาแน่นในเมืองกรุง และการหวนคิดว่า เราทุกคนต้องอยู่และหายใจเอาควันพิษ “ก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์” เข้าปอด ทำให้ คุณเอิร์ธ “สรณัญช์ ชูฉัตร” ที่เคยเรียนการออกแบบรถ จากภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรมมาก่อน เลือกนำความรู้ที่มีมาศึกษาวิจัย และผลิตรถจักรยานยนต์ดังกล่าว และได้รับการตอบรับอย่างดี หลังจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็มียอดสั่งจองเข้ามาแล้ว 90 คัน และมีกำหนดส่งมอบได้ในต้นปีหน้า
นอกจากนี้ สำหรับคนเมืองแล้ว หนึ่งในค่าใช้จ่ายก้อนโตของเราทุกคน คือ ค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทาง เขาจึงคิดว่า หากสามารถพัฒนา และผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เป็นทางเลือกให้ผู้คนได้ใช้กัน จะเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว นั่นคือ
โดยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นดังกล่าว เมื่อชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ใช้เวลาชาร์จแค่ 1-2 ชั่วโมงก็ได้แบตเต็มลูก สามารถวิ่งได้ระยะทาง 180 กิโลเมตร ด้วยต้นทุนการชาร์จครั้งละ 10 บาท หรือเท่ากับ 0.04 บาทต่อการวิ่งเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร
จากการใช้พลังงานสะอาดนี้ โดยเปรียบเทียบว่า รถใช้น้ำมันจะปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศที่ 45 กรัมต่อการวิ่งเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร ถ้าใช้รถวิ่งเป็นระยะทาง 50 กิโลกรัมต่อวัน จะมีการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศเท่ากับ 2 กิโลกรัมต่อวัน ทั้งนี้ ประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนราว 22 ล้านคัน หากรถเหล่านี้วิ่งวันละ 50 กิโลเมตร ก็จะปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศวันละ 5 หมื่นตัน หรือปีละ 18 ล้านตัน !!!!
ในมุมมองของคุณเอิร์ธ คนไทยมีความสามารถและประเทศไทยเคยเป็นผู้ส่งออกรถจักรยานยนต์อันดับ 6 ของโลก ดังนั้น ชิ้นส่วนต่างๆ เราสามารถผลิตได้ เพราะมีองค์ความรู้ แต่การประกอบเป็นรถทั้งคัน ยังหาคนทำได้น้อยมาก เขาจึงคิดจับตลาดนี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นตลาดรถไฟฟ้า ที่กำลังเป็นจริงในทุกพื้นที่ทั่วโลกจากภาวะวิกฤตด้านสภาพอากาศที่คนทั้งโลกเผชิญกันอยู่
การกำหนดรายละเอียดในแต่ละจุดของรถเป็นไปอย่างพิถีพิถัน คำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ใช้ เช่น มอเตอร์เป็นแบบ in wheel motor ขนาด 7 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่ากับ 150 ซีซี ซึ่งในแง่การใช้งานในเมือง เพียงเท่านี้ ก็เพียงพอในการทำความเร็วแล้ว สำหรับแบตเตอรี ตัวจ่ายพลัง ก็เลือกใช้ แบตเตอรี ลิเทียม แมงกานีสออกไซด์ แบบเดียวกับที่ใช้ในรถ นิสสัน ลีฟ การันตีได้ทั้งในแง่ความปลอดภัยและการประหยัด
ขณะที่หัวชาร์จที่อยู่บนตัวถังรถ เป็นแบบ Euro Type 2 ทำให้สามารถนำไปชาร์จไฟกับสถานีอัดประจุไฟฟ้าต่างๆ ที่มีในปัจจุบัน รวมถึงในห้างสรรพสินค้าบางแห่ง โดยมีการพัฒนาระบบฟาสต์ชาร์จ จึงชาร์จแบตฯ เต็มลูกได้ในเวลาเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น และในส่วนของแบตเตอรี่นั้น ก็ถอดออกได้ ทำให้เปลี่ยนเอาแบตฯ ที่เต็มมาใส่แทนได้ รวมถึงยังมีแบบหัวปลั๊กให้ชาร์จกับไฟที่บ้านได้ สะดวกสบายทุกอย่าง
ยังมีการติดตั้ง Regenerative Brake ไว้ ทำให้ทุกครั้งที่เบรกรถ ก็จะมีการชาร์จไฟกลับเข้ามาในแบตเตอรี และเหนือสิ่งอื่นใด ชิ้นส่วนที่ใช้ประกอบเป็นตัวรถ ก็ทำมาจากวัสดุทีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั่นก็คือ เป็น “ไบโอพลาสติก” ที่ทำมาจากเส้นใยสับประรด โดยใช้มากถึง 52 เปอร์เซนต์ของชิ้นส่วนรถ ที่เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ เพราะเขาหวังว่า เมื่อชิ้นส่วนเหล่านี้กลายเป็นขยะในที่สุด จะไม่เป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์ใช้น้ำมันทั่วไป
คนหนุ่มที่มุ่งมั่นจริงจัง และแปลงฝันให้เป็นการลงมือทำเมื่อ 4 ปีก่อน (2016) ยังมีแผนก้าวไปข้างหน้า หาแนวทางว่าจะพัฒนายานพาหนะไฟฟ้าให้ออกมาในรูปแบบใดได้อีกบ้าง เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…
บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…
อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…
ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…
พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…
ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…
This website uses cookies.