ย้อนภาพสังคมไทยในช่วงยุคทศวรรษ  60-70 คงปฎิเสธไม่ได้ว่าความโด่งดังของนักร้องสาว เสียงเป็นเอกลักษณ์ชื่อ  “ศรีไศล สุชาตวุฒิ” หรือ “คุณตุ้ม”  โดดเด่นไม่น้อยกว่าใคร และเป็นหนึ่งในนักร้องระดับแนวหน้า ติด TOP TEN  ของไทย ที่ยังมีเพลงดังมากมายให้ผู้คนพูดถึงมาจนปัจจุบัน

ล่าสุด คุณตุ้ม ในวัย 75 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นการเป็นนักร้องกับ “Passion Gen” ว่า มาจาก “ความชอบ” แม้จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางบ้าน เพราะครอบครัวไทยเมื่อหลายสิบปีก่อนมองว่า “นักร้อง” ไม่ใช่อาชีพที่มั่นคง

คุณศรีไศล สุชาตวุฒิ

แต่อาจเพราะโชคชะตาขีดเส้นให้เธอเป็นนักร้อง ดังนั้น แม้จะมีช่วงเวลาเหนื่อยยากมากมายเพื่อพิสูจน์ความมุ่งมั่น ในที่สุด เธอก็มายืนอยู่ในจุดที่เธอฝันได้สำเร็จ

          “ตอนนั้นไม่มีครู-อาจารย์สอนร้องเหมือนสมัยนี้ เป็นนักร้องก็ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง แล้วก็ศึกษาตัวอย่างและวิธีการร้องจากรุ่นพี่ เรียกว่าดู และศึกษาเพื่อนำมาปรับใช้  ซึ่งไม่ใช่วิธี copy   ทั้งหมด  ยกตัวอย่าง ชอบคุณสวลี ก็จะไม่ยึดรูปแบบหรือการร้องแบบคุณสวลี แต่การที่เป็นคนชอบเพลงฝรั่งและเพลงแจ๊ส  จึงร้องแบบที่ชอบจนกลายเป็นสไตล์ของตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้”  

คุณตุ้ม เล่าว่า การร้องเพลงที่ผ่านมา ร้องไปตามธรรมชาติ ตามอารมณ์ เป็นการใช้สิ่งที่ธรรมชาติให้ทุกอย่างไว้แบบเต็มที่ จนเมื่ออายุมากขึ้นจึงหยุดร้องเพลงไปนาน แต่เมื่อวันหนึ่งต้องกลับมาร้องเพลงและเป็นการร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ต จึงต้องอาศัยการเตรียมพร้อมควบคู่กับการฝึกฝน

          “จากที่หยุดร้องเพลงอย่างจริงจังไปนาน อยู่เมืองนอกก็ร้องบ้างในงานต่างๆ ที่ได้รับเชิญ แต่พอกลับมาเมืองไทย และมีงานต้องขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ ก็ต้องเตรียมตัว อย่างน้อยคือให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ที่จะอยู่บนเวทีได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ต้องเรียนในโรงเรียนสอนการร้องเพลง ควบคู่กับการออกกำลังกายทุกวัน เพื่อทำให้เราแข็งแรงขึ้น”

คุณตุ้ม ยอมรับว่าน่าจะเป็นเรื่องแปลกสำหรับหลายคนที่นักร้องระดับเธอมาเรียนร้องเพลง แต่เธอมองว่าเป็นเรื่องปกติเพราะชอบการเรียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ที่สำคัญ การเรียนไม่ได้มุ่งหวังให้ร้องเพลงได้ดีเพียงอย่างเดียว  แต่ยังเพื่อเรียนรู้เทคนิคการออกเสียง การควบคุมลมหายใจ  และเพื่อพยุงเสียง เพราะบางครั้งคนร้องเพลงเองก็อาจไม่รู้ว่าใช้วิธีการร้องแบบผิด ๆ มาตลอด  เมื่อครูช่วยปรับแก้ไข ก็ทำให้ร้องเพลงได้สบายขึ้น

         “ธรรมชาติให้เสียงมา แต่ไม่ได้ให้เทคนิคมาด้วย มีแต่เพาเวอร์ แต่ตอนนี้เหมือนเราไม่มีแล้ว บางครั้งจึงรู้สึกว่าร้องแล้วเหนื่อย  หรือกรณีที่เรามีปัญหาว่าทำไมเดี๋ยวนี้ร้องเพลงขึ้นเสียงสูงไม่ได้ ครูก็ให้คำตอบได้ว่า เป็นเรื่องปกติของผู้หญิงอายุรุ่นนี้ ที่ฮอร์โมนบางอย่างหายไป ส่งผลให้โทนเสียงต่ำลง เราก็ต้องปรับวิธีการร้อง เรียกได้ว่าการเรียนทำให้เรารู้เรื่องพวกนี้ แล้วเอามาปรับใช้ร่วมกันกับความรู้เดิมที่เรามี ก็ช่วยให้ร้องเพลงได้สบายขึ้นจริงๆ

คุณศรีไศล สุชาตวุฒิ ให้เกียรติพูดคุยกับคุณบุรินทร์ เหมทัต ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Passion Gen และผู้ดำเนินรายการ “บุรินทร์เจอนี่”

หลังจากการลงเรียนครั้งแรก  ก็เป็นที่มาของการลงเรียนเรื่อยมาอีกหลายคลาส และเปลี่ยนโรงเรียนที่สอนบ้าง  เพราะการสอนของโรงเรียนแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน ครูแต่ละที่ก็มีวิธีการสอนหรือเทคนิคต่างกัน  อยู่ที่จะเลือกวิธีใดนำไปปรับใช้มากน้อยเพียงใด

จนถึงทุกวันนี้ คุณตุ้มก็ยังสนุกกับการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะมั่นใจว่าจะทำให้เธออยู่กับสิ่งที่รักอย่างมีความสุขได้อีกนาน

สำหรับมุมมองของเธอกับนักร้องรุ่นใหม่ ๆ  คุณตุ้มยอมรับว่า คนสมัยนี้เก่งกว่าสมัยก่อนมาก และเห็นด้วยกับการที่พ่อแม่สนับสนุนสิ่งที่ลูกชอบด้วยการพาไปเรียนร้องเพลงอย่างจริงจัง แต่อยากฝากว่า เด็กที่มีอายุน้อยเกินไป เมื่อเรียนร้องเพลงแล้วอาจทำให้เแยกไม่ได้ระหว่างเอกลักษณ์ของตัวเอง กับการยึดติดแพทเทิร์นที่ครูสอนจนเกิดเป็นการเลียนแบบ ดังนั้นการเปิดโอกาสให้เด็กเริ่มร้องและฟังให้มีความหลากหลาย จึงเป็นรูปแบบหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กเรียนรู้การร้องเพลงให้ไพเราะอย่างไม่ฝืนธรรมชาติของตน

          “เสน่ห์ของนักร้อง ต้องมีความจริงใจต่อเพลง โดยแสดงออกมาจากความรู้สึกส่วนลึกที่อยู่ข้างใน แล้วร้องออกมาทางปากด้วยความมั่นใจ สำคัญที่สุดคือต้องเป็นธรรมชาติ ซึ่งต้องเกิดขึ้นจากการเรียนรู้ และการฝึกฝน”

Category:

Passion in this story