ด้วยเทคโนโลยีของอินเตอร์เน็ตและโลกออนไลน์ที่ทำให้ข้อมูลและการติดต่อสื่อสารสามารถเชื่อมต่อกันได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะอยู่มุมใดของโลกทำให้การทำงานและการทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องอยู่แต่เพียงในออฟฟิศแต่อย่างเดียวตรงกันข้ามกลับสามารถเลือกสถานที่ที่ชอบสร้างให้เป็นโต๊ะทำงานและแหล่งแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ ๆ ของผู้ที่ต้องการริเริ่มพัฒนาธุรกิจเป็นของตัวเอง และเหล่าฟรีแลนซ์ผู้ประกอบอาชีพอิสระให้สามารถพบปะกับผู้คนแปลกหน้าที่หมุนเวียนเข้ามาใช้สถานที่ ที่เรียกว่า Co-Working Space ได้ และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ธุรกิจสมัยใหม่ อย่าง Hubba สตาร์ทอัพ ของไทยกลายเป็นธุรกิจที่มาแรงและน่าสนใจ
วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 2 พี่น้องเจ้าของธุรกิจ Hubba Co-working Space ผู้ที่กล้าก้าวออกจาก Comfort Zone มาสร้างฝันเป็นสตาร์ทอัพจนประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักกันของเหล่าฟรีแลนซ์ คนทำอาชีพอิสระ และผู้เริ่มต้นธุรกิจรุ่นใหม่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
เนื่องจากการที่พี่น้อง ชาร์ล และเอม อมฤต เจริญพันธ์ ผู้ที่ต้องการริเริ่มพัฒนาธุรกิจของตัวเอง แต่ต้องเจอกับอุปสรรคและปัญหาว่าไม่มีที่ทำงาน และไม่สามารถหาพื้นที่เพื่อใช้ในการทำงานได้อย่างเต็มที่ประกอบกับการมองเห็นไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันเริ่มเห็นว่าคนไทยมีความต้องการพื้นที่ทำงานเพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ และพัฒนาธุรกิจของตัวเองประกอบกับการได้เห็นโมเดลของสตาร์ทอัพ Co-Working Space ที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศจึงทำให้ 2 พี่น้องเกิดไอเดียในการสร้างพื้นที่ทำงานร่วมกันของกลุ่มฟรีแลนซ์กลุ่มคนทำอาชีพอิสระ และคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง หรือแม้กระทั่งคนทำงานออฟฟิศที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศความจำเจ จากการทำงานในสำนักงาน ให้สามารถเข้ามาใช้ Co-Working Space เพื่อเป็นสถานที่พบปะแลกเปลี่ยนความรู้นำไปสู่การสร้างชุมชนสตาร์ทอัพของธุรกิจสมัยใหม่ต่อเนื่องไปได้ในอนาคต
สาเหตุที่ทำให้ Hubba Co-Working Space เป็นรูปเป็นร่างได้นั้นก็เนื่องจากวิกฤติการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2554 ที่ทำให้การทำงานของ 2 พี่น้องเกิดปัญหาเป็นอย่างมากบ้านที่อยู่อาศัยก็ถูกน้ำท่วมทำให้ต้องหนีน้ำไปอยู่ต่างจังหวัดชั่วคราว การทำงานก็ต้องอาศัยนั่งทำงานตามร้านกาแฟ ย้ายร้านไปเรื่อย ๆ งานประจำทั้งหลายก็มีทีท่าว่าจะไม่มั่นคงอย่างที่คิด จึงเริ่มมองเห็นแนวคิดใหม่ว่าควรเริ่มต้นโปรเจ็กต์สตาร์ทอัพขึ้นอย่างจริงจัง จึงได้กัดฟันเลือกทำเลย่านเอกมัยใกล้รถไฟฟ้า ลงทุนเช่าบ้านพร้อมที่ดินบนพื้นที่ราว 200 ตารางเมตร รีโนเวทให้กลายเป็น Co-Working Space ที่ชื่อว่า Hubba ซึ่งมีที่มาจากคำว่า “Hub” ที่แปลว่า “จุดศูนย์กลาง” และ “Ba” ที่มาจากคำว่า “บ้า” ในภาษาไทย ออกแนวเฮฮาตามสไตล์ขี้เล่นของพี่น้องทั้ง 2 คน
และด้วยวิกฤติในครั้งนี้เองที่ทำให้สองพี่น้องชาร์ล และเอม อมฤต เจริญพันธ์กล้าออกจาก Comfort Zone ที่เป็นอยู่ประจำ หันมาปลุกปั้นความฝันให้เกิดขึ้นและเป็นจริงได้ เกิดเป็น Hubba Co-Working Space เจ้าแรกของเมืองไทยขึ้นภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือนครึ่งเท่านั้น
“เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ปรับเปลี่ยนแนวคิด สร้างสถานที่ทำงาน ให้เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน เกิดเป็นสตาร์อัพ Hubba Co-Working Space” –ชาร์ล และเอม อมฤต เจริญพันธ์ ผู้ก่อตั้ง Hubba Co-Working Space
เมื่อได้พื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อใช้เป็น Co-Working Space แล้ว สิ่งต่อมาที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือการทำการตลาดเพื่อหาลูกค้า โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Hubba จะมุ่งเน้นไปที่เจ้าของธุรกิจรายใหม่ หรือผู้ที่กำลังคิดเริ่มสร้างธุรกิจ ที่ต้องการพื้นที่สำหรับนั่งทำงานและมักจะหาโอกาสทางธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักประกอบกับสองพี่น้องที่เพิ่งเริ่มก่อตั้ง สตาร์ทอัพ Hubba Co-Working Space ต้องการประหยัดงบประมาณในการทำการตลาด จึงเห็นว่าการตลาดออนไลน์เป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุด อีกทั้งยังได้กำลังเสริมคือคุณโน้ตเฉลิมยุทธ์ บุญมา อดีตผู้จัดการตลาดด้านสื่อดิจิตอลที่ Ensogo และ Zalora เข้ามาเป็นหุ้นส่วนช่วยทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ จึงทำให้ชื่อของ Hubba Co-Working Space เป็นที่รู้จักของกลุ่มผู้บุกเบิกธุรกิจรุ่นใหม่และเหล่าฟรีแลนซ์ได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญ Hubba ไม่ได้มองเพียงแค่กลุ่มลูกค้าที่เป็นสตาร์ทอัพชาวไทยเท่านั้น แต่ยังมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาที่ทำงานในรูปแบบของ Co-Working Spaceชาวต่างชาติในย่านชุมชนเมืองให้เข้ามาใช้บริการอีกด้วย
“ความล้มเหลว คือ มารดาของความสำเร็จ” -ธนินท์ เจียรวนนท์
ปัจจุบัน Hubba มีสาขาของ Co-Working Space ทั้งหมด 4 แห่ง คือ
โดยมีสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพจำนวน 20,000 รายเข้ามาใช้บริการ
Hubba ไม่ได้มองว่าธุรกิจอย่าง Co-Working Space จะต้องอยู่ในเมืองหลวง คือ กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังมองเห็นโอกาสและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ซึ่งนิยมประกอบอาชีพอิสระกันมากขึ้น จึงได้วางแผนการขยายสาขาของ Co-Working Space ออกไปยังหัวเมืองในต่างจังหวัด อย่างเช่น เชียงใหม่และหัวเมืองอื่น ๆ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการขยายธุรกิจ Co-Working Space ไปถึงเมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว ซึ่งนับว่าเป็นการนำธุรกิจสมัยใหม่ เข้าไปบุกเบิกตลาดในประเทศนี้อีกด้วย
ด้วยลักษณะการดำเนินชีวิตของคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ธุรกิจสมัยใหม่อย่าง Co-Working Space เป็นธุรกิจที่มาแรงและน่าจับตามอง Hubba จึงถือเป็นตัวอย่างของธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจและน่าเรียนรู้ เพียงแค่คุณปรับเปลี่ยนแนวคิด สร้างแรงจูงใจให้เกิดแนวคิดใหม่กล้าที่จะออกจาก Comfore Zone และเริ่มลงมือทำเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่การพัฒนาต่อยอดในอนาคตธุรกิจของคุณก็ย่อมสามารถที่จะก่อร่างสร้างตัวกลายเป็นสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกัน
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…
บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…
อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…
ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…
พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…
ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…
This website uses cookies.
View Comments