ทำงานมาตั้งนานไม่ว่าใครก็ต้องการความก้าวหน้าในบริษัทกันทั้งนั้น ตำแหน่งอาจปรับยากอันนั้นเข้าใจได้ แต่อย่างน้อยก็ควรปรับเงินเดือนให้สมน้ำสมเนื้อกับการทุ่มเททำงานให้กับบริษัทอย่างเต็มศักยภาพกันสักหน่อย จนทำให้หลายคนคิดน้อยใจว่า หากปีนี้เงินเดือนยังไม่ขึ้นคงต้องขอลาออกไปหางานใหม่ที่พร้อมจ่ายมากกว่านี้ แต่หากคุณยังสนุกกับงาน การเดินทางก็สะดวกสบาย แถมเพื่อนร่วมงานก็แสนดี การหางานใหม่คงไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด สิ่งที่ควรทำคือการเดินเข้าไปพูดคุยกับหัวหน้าเพื่อขอขึ้นเงินเดือนแบบตรงไปตรงมาจะดีกว่า แต่ก่อนจะทำอย่างนั้นมา เรามี Checklist ดีๆ ที่จะช่วยให้คุณประเมินตัวเองได้ว่า ที่ผ่านมาคุณทำงานอย่างเต็มศักยภาพและพัฒนาตัวเองแบบเต็มความสามารถจริงๆ หรือแค่มโนไปเอง!
เป็น KPIs พื้นฐานที่ทุกบริษัทใช้ในการประเมินปรับเงินเดือน คุณจึงควรเช็กตัวเองว่าที่ผ่านมาวินัยการทำงานของคุณเป็นอย่างไร เช่น ใช้วันหยุด-วันลาเกินกำหนดหรือไม่? มาเข้างานสายบ่อยแค่ไหน? รวมไปถึงการกลับบ้านก่อนเวลาที่ควรต้องแจ้ง HR ทุกครั้ง คุณเคยทำมั้ย? สิ่งเหล่านี้มีข้อกำหนดหรือกฏของบริษัทที่ชัดเจน ดังนั้นหากที่ผ่านมาคุณเคารพกฎกติกาทุกข้อ ไม่เคยทำผิดข้อตกลงใดๆ ก็ถือว่าข้อนี้ ผ่าน!
ก่อนจะขอขึ้นเงินเดือน คุณควรที่จะลองเช็กดูว่า คนที่ทำตำแหน่งและหน้าที่เดียวกันกับที่คุณทำอยู่ ในบริษัทอื่นๆ นั้น ได้ค่าตอบแทนเท่าไหร่กันบ้าง เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่ตั้งเป้าในการขอปรับเงินเดือนที่สูงหรือต่ำจนเกินไป และคาดหวังได้ใกล้เคียงกับความจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเช็กแล้วปรากฏว่าค่าตอบแทนที่คุณได้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามาตรฐานทั่วไป ก็เดินหน้าขอขึ้นเดินเดือนต่อได้เลย
อาจมีหลายครั้งที่คุณจะถูกขอให้ทำในสิ่งที่เกินหน้าที่ ไม่ว่าจะเพราะพนักงานไม่พอหรือเพราะถูกกว่าการจ้างคนข้างนอก ซึ่งหากเป็นการช่วยเหลือกันชั่วครั้งชั่วคราวระหว่างรอหาพนักงานใหม่ ก็คงไม่เป็นไร เพราะคิดในแง่ดีได้ว่าเป็นการสร้างโอกาสให้คุณได้เรียนรู้งานใหม่ๆ และได้พัฒนาตัวเอง แต่ถ้าผูกขาดจนกลายเป็นหน้าที่ประจำของคุณ มันก็ดูไม่ยุติธรรม หากคุณจะไม่ได้รับค่าจ้างจากการทำงานเหล่านั้น ลองเช็กดูว่าคุณต้องทำงานที่ไม่ได้ตกลงกันไว้มากเกินไปจนไม่มีเวลาทำงานของตัวเองแล้วหรือยัง? ถ้าใช่ คุณก็มีอีกหนึ่งเหตุผลที่จะขอขึ้นเงินเดือนได้แล้ว
ที่ผ่านมาคุณเคยสร้างผลงานหรือนำเสนอแนวคิดใหม่ดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทมากน้อยแค่ไหน? เพราะคนที่กล้านำเสนอไอเดียที่จะช่วยพัฒนาให้บริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่นั้นเจริญก้าวหน้า และเป็นตัวตั้งตัวตีในโปรเจ็คที่สร้างผลประโยชน์ให้กับบริษัทอย่างเต็มที่นั้น แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเท มุ่งมั่น จัดเป็นบุคลากรชั้นดีที่บริษัทควรมองเห็นคุณค่า ดังนั้นหากที่ผ่านมาคุณสร้างผลงานที่โดดเด่นและสร้างรายได้ให้กับบริษัท คุณก็ควรได้รับผลตอบแทนจากสิ่งเหล่านั้น อย่าลืม take credit จากสิ่งที่คุณทำ และอย่าลืมพูดถึงเรื่องนี้ตอนขอขึ้นเงินเดือนด้วย
ทุกบริษัทย่อมต้องมีทั้งขาขึ้นและขาลง วันหนึ่งอาจเคยปิดดีลด้วยยอดขายทะลุเป้า แต่ไม่นานอาจโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานจนแทบล้มละลาย จนต้องลดเงินเดือน ตัดทอนสวัสดิการ หรือควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ จนพนักงานหลายคนเลือกที่จะหนีเอาชีวิตรอดจากเรือที่กำลังจะจมด้วยการหางานใหม่ แต่บางคนอาจอดทนอยู่ต่อและร่วมฝ่าวิกฤตินั้นด้วยกัน เพื่อให้บริษัทผ่านพายุไปได้ อย่าให้หัวหน้าของคุณลืมไปว่าคุณคือผู้ที่ยึดมั่นหนักแน่นและไม่เคยทิ้งพวกเขาไปไหน ดังนั้นเมื่อผลประกอบการกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง คุณก็ควรที่จะได้รับการปรับเงินเดือนตามสมควร
ถ้าหากคุณเช็กตัวเองแล้ว มีคุณสมบัติผ่านตาม 5 ข้อด้านบน
มาลองดูกันว่า อะไรควรทำและไม่ควรทำตอนเจรจาขอขึ้นเงินเดือน
ก่อนเข้าไปพูดคุยเรื่องการปรับเงินเดือนกับหัวหน้า ควรหาโอกาสที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา สถานที่หรือบรรยากาศต่างๆ ที่เอื้อกับการขอเงินเดือนขึ้น เช่น หัวหน้าอารมณ์ดี ไม่ตึงเครียด และเป็นช่วงที่ผลประกอบการของบริษัทอยู่ในขาขึ้น
เมื่อได้โอกาสเข้าหาเจ้านายแล้ว ก็ควรดูบรรยากาศและเริ่มเกริ่นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยอาจถามถึงมุมมองของหัวหน้าที่มีต่อการทำงานของคุณ สร้างโอกาสด้วยการขอคำแนะนำว่าคุณควรพัฒนาตัวเองด้านไหนอีกบ้าง รวมถึงพูดเชื่อมโยงไปยังผลงานของคุณที่ผ่านมา ให้หัวหน้ารับรู้ถึงช่วงเวลาที่ทำงาน ว่าคุณได้ให้ความทุ่มเทมากแค่ไหน และใส่ความเป็นเหตุเป็นผลเข้าไป เพื่อบอกหัวหน้าเป็นนัยๆ ว่า ต้องการขอขยับปรับเงินเดือน
ถึงแม้ผลงานที่ผ่านมาผลงานของคุณจะดีมากขนาดไหนก็ตาม หากคุณพูดคุยแบบโอ้อวดและรุกเร้าจนเกินพอดีก็อาจทำให้การพูดคุยครั้งนี้ดูน่าหมั่นไส้ จนหัวหน้าอาจจะเซย์โนให้กับการเจรจาขอขึ้นเงินเดือนครั้งนี้ก็เป็นได้
เมื่อตัดสินใจเข้าเจรจาเพื่อขอขึ้นเงินเดือน ควรเลือกช่วงเวลาที่หัวหน้าอารมณ์ดี โดยเข้าไปพบและพูดคุยด้วยเหตุและผล ไม่ควรโอ้อวดผลงานที่ผ่านมามากเกินไป และหากหัวหน้าเปิดโอกาสให้บอกตัวเลขที่ต้องการ ไม่ควรเจาะจงตัวเลขแต่ขอให้พิจารณาตามผลงานที่ผ่านมา หรือหากผลการเจรจาการขอขึ้นเงินเดือนไม่สำเร็จ ก็ไม่ควรเสียมารยาทเพราะหัวหน้าอาจจะต้องนำไปพิจารณาก่อนจึงจะแจ้งคุณอีกครั้งก็ได้
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…
บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…
อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…
ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…
พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…
ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…
This website uses cookies.