องค์กรขนาดใหญ่ทั้งหลายที่ประสบความสำเร็จในสายธุรกิจต่าง ๆ มักจะพบปัญหาเรื่องความแตกต่างทางความคิดระหว่าง Generation จนก่อให้เกิดปัญหาสะสมและอาจบานปลายจนเป็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้ากับผู้ใต้บังคับบัญชาแน่นอนว่ายิ่งบริษัทใหญ่คนในองค์กรยิ่งมากยิ่งปรับเปลี่ยนความคิดของบรรดาคนที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาได้ยากและดูเหมือนว่าจะไม่มีทางไปปรับเปลี่ยนความคิดพวกเขาได้เลยเพราะแต่ละ Generation ต่างก็มีทัศนคติในการทำงานความคิดและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันฉะนั้นการจะแก้ปัญหาความสัมพันธ์ในองค์กรอันจะช่วยให้คุณไม่เสียลูกน้องมือดี หรือคนที่มีศักยภาพไปให้องค์กรอื่นคุณก็จำเป็นที่จะต้องมีเทคนิคการเป็นผู้นำองค์กรที่ดีแล้วเทคนิคดังกล่าวนี้เป็นอย่างไรมาเริ่มลงมือและพัฒนาไปพร้อม ๆ กันได้เลย

ผู้นำที่ดี เสริมคุณค่าและศักยภาพของทีมงาน

บริษัทไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กและจะดำเนินธุรกิจแบบไหนก็ตาม ล้วนถูกขับเคลื่อนโดยทรัพยากรบุคคลนั่นจึงทำให้คนที่ต้องการเป็นผู้นำองค์กรธุรกิจที่ดีจะมองข้ามเรื่องของทรัพยากรบุคคลไม่ได้แม้แต่คนเดียวเลิกเสียทีกับความคิด “I am Hero” ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนถ้าคุณขาดพวกเขาการทำธุรกิจก็ไปไม่รอดเช่นกัน

ฉะนั้นความเป็นผู้นำเริ่มต้นที่ตรงนี้ตรงที่คุณต้องปรับเปลี่ยนความคิดตนเองก่อนว่า “คุณไม่ได้เก่งที่สุด” คนทุกคนมีคุณค่ามีความหมายมีศักยภาพความเชี่ยวชาญในแบบของเขาอยู่ที่คุณจะมองเห็นหรือไม่และคุณมีความสามารถมากพอที่จะดึงเอาศักยภาพของคนเหล่านั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อบริษัทได้หรือไม่

สุดยอดนักธุรกิจไทยที่สามารถเป็นแบบอย่างผู้นำในเรื่องนี้ได้ชัดเจนก็คือ ภูริต ภิรมย์ภักดี CEO คนรุ่นใหม่บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เป็นทายาท Gen 4 ของตระกูลภิรมย์ภักดี ที่มองเห็นคุณค่าและศักยภาพของคนในองค์กรอยู่เสมอซึ่งปัจจุบันคุณภูริตได้ดูแลในส่วนธุรกิจนอน-แอลกอฮอล์ ซึ่งต้องยอมรับว่าตอนนี้ตลาดกลุ่มเครื่องดื่มนอน-แอลกอฮอล์มีการแข่งขันที่รุนแรงไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรคุณภูริตก็ยังมีวิสัยทัศน์ตามแบบฉบับ CEO รุ่นใหม่ว่า

“การพัฒนาคนเป็นหัวใจสำคัญต้องให้เขารู้ว่าองค์กรทำอะไร แม้ว่าจะมีการขึ้นค่าแรงแต่เราไม่เคยเลย์ออฟพนักงานทุกคนอยู่แบบครอบครัวแต่จะให้เขาทำงานเยอะขึ้น พัฒนาเขาให้มากขึ้นหาคนเก่ง ๆ เข้ามาทำงาน อนาคตอาจจะไม่ต้องเข้ามาทำงานในออฟฟิศก็ได้เพราะสามารถทำงานผ่านดิจิทัลได้แล้ว”

คลิกเลย! แนะนำบทความน่าอ่าน

ปัจจุบันคุณภูริตมีพนักงานในองค์ที่ตนรับผิดชอบมากถึง 2,000 คน ซึ่งคุณภูริตทราบดีว่าธุรกิจยุคใหม่เปลี่ยนแปลงเร็วมีการ Disrupt ของเทคโนโลยีอยู่โดยตลอดด้วยความเป็นผู้นำที่ต้องรับผิดชอบดูแล และเป็นหัวเรือใหญ่ดูแลในส่วนเทรดดิ้งจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายว่าจะทำอย่างไรให้ทีมงาน 2,000 คน มีศักยภาพมากพอที่จะต่อสู้กับตลาดที่มีเทคโนโลยีเข้ามาแทรกแซงและคำตอบก็คือต้องเริ่มจากการเห็น “คุณค่า” ในทีมงานทุกคน เข้าอกเข้าใจพวกเขาว่าเขาต้องการอะไรสิ่งใดที่บริษัทต้องการล้วนต้องอาศัยคนทำให้เกิดขึ้นทั้งนั้นฉะนั้นจงเห็นคุณค่าพวกเขาและอย่าไปกดดันใช้วิธีการฝึกสอนอันจะช่วยพัฒนาพวกเขาให้เป็นบุคลากรที่มีศักยภาพมากขึ้นช่วยให้เขาเข้าใจในงานเมื่อเขาเข้าใจงาน ก็จะมองว่างานมันไม่ได้ยาก ความกดดันในการทำงานก็จะลดลง เพราะคนทุกคนมีศักยภาพในตนเองและสามารถพัฒนาได้

นี่คือแบบอย่างผู้นำที่มองคนได้ทะลุเข้าใจในความสำคัญของทรัพยากรบุคคลต้นแบบของผู้นำที่ดีที่จะทำให้องค์กรทั้งองค์กรเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงซึ่งถ้าคุณสามารถปรับเปลี่ยนความคิดและมุมมองที่มีต่อลูกน้องของคุณดังวิสัยทัศน์ CEO ของคุณภูริตที่กล่าวมาข้างต้นนี้ได้คุณก็จะเห็นว่า “ลูกน้อง” ก็คือ “คน” คุณต้องการหยุดต้องการพักลูกน้องคุณก็ต้องการพักไม่ต่างจากคุณคุณบอกเขาว่าจะหยุดจะลาต้องแจ้งก่อน แล้วคุณล่ะหยุดลามาสาย หรือหยุดยาวเคยบอกลูกน้องสักคำหรือไม่เคยไว้ใจฝากให้เขาดูแลงานแทนในช่วงที่คุณไม่อยู่หรือไม่การบอกกล่าวกันสักนิดก็เหมือนเป็นการแสดงออกว่าคุณให้เกียรติและให้ความสำคัญกับเขาแล้วคุณมีเวลาที่จะสานความสัมพันธ์ให้ความเป็นกันเองกับพวกเขาบ้างหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การเป็นผู้นำที่ดีเป็นหัวหน้าในอุดมคติของลูกน้องคุณได้ทั้งสิ้น

ผู้นำที่ดี ต้องรู้จักสร้างโอกาส

คุณภูริตไม่เพียงแต่เป็นแบบอย่างผู้นำในเรื่องของการเห็นคุณค่าและศักยภาพของคนในองค์กรเท่านั้นแต่คุณภูริตก็ยังมีวิสัยทัศน์ตามแบบฉบับ CEO รุ่นใหม่ คือเห็นพลังและศักยภาพของคนรุ่นใหม่ด้วยกันปัจจุบันมี Startup รุ่นใหม่มากมายที่มีไอเดียและพร้อมจะโตแต่ Startup เหล่านั้นไม่สามารถก้าวต่อไปได้เนื่องจากขาดผู้ให้การสนับสนุนทั้งเรื่องเงินลงทุนแนวคิดหรือไอเดียทางด้านการตลาดกล่าวง่าย ๆ ว่าพวกเขาขาดโอกาสซึ่งคุณภูริตมองว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากหากประเทศไทยมีคนให้การสนับสนุน Startup กันมาก ๆ Startup ไทยก็จะโตและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อีกมาก ดังนั้นคุณคุณภูริตจึงไม่รอช้าผุดโครงการจัดตั้งกองทุน Singha Ventures ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนนักธุรกิจ Startup รุ่นใหม่ที่มีไอเดียในการสร้างนวัตกรรมให้กับสินค้าอุปโภคและบริโภคโดยพร้อมที่จะนำเงินทุนเข้าช่วยสนับสนุน Startup ซึ่งนี่นับเป็นแบบอย่างผู้นำองค์กรที่ดีด้วยเช่นกัน เมื่อตนเองประสบความสำเร็จแล้วก็ไม่ลืมที่จะสร้างโอกาสให้กับคนที่รักและมี Passion ในการทำธุรกิจเหมือน ๆ กัน

คลิกเลย! แนะนำบทความน่าอ่าน

สร้างคน…สร้างศักยภาพ

การสร้างและมอบโอกาสให้กับผู้คนไม่ว่าจะเป็นลูกน้องในองค์กรหรือแม้กระทั่งคนที่มี Passion ในการทำธุรกิจเหมือน ๆ กันนั่นเป็นเทคนิคหนึ่งที่ผู้นำองค์กรธุรกิจที่ดีต้องมี คุณธนินท์ เจียรวนนท์ถือว่าเป็นแบบอย่างผู้นำอีกคนที่ลุกขึ้นมาสร้างโอกาสให้กับบุคคลากรของตนเมื่อคุณเห็นคุณค่าและศักยภาพในตัวพวกเขาแล้วคำถามต่อไปก็คือคุณจะทำอย่างไรต่อไป

คุณจะใช้วิธีไหนที่จะนำศักยภาพที่มีอยู่ในบุคคลเหล่านั้นออกมาใช้ให้เป็นรูปธรรม คำตอบในเรื่องนี้ก็คือการให้โอกาสคนรุ่นใหม่ได้เติบโต และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำที่ดีนำองค์กรให้ขับเคลื่อนต่อไปอย่าลืมว่าในโลกของการทำงานจริง ๆ แล้ว องค์กรทุกองค์กรนั้นย่อมมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนบุคลากรอยู่ตลอดเวลามีทั้งคนใหม่เข้าและมีทั้งคนเก่าออกฉะนั้นการพัฒนาบุคลากรเพิ่มเติมให้กับองค์กรจึงนับเป็นการเสริมฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าต่อไป

คนเก่งจะแสดงความสามารถได้อย่างไร ถ้าคุณไม่สร้างโอกาสให้กับพวกเขาได้แสดงฝีมือ ธนินท์ เจียรวนนท์เป็นแบบอย่างของหัวหน้าหรือผู้นำที่สามารถนำเทคนิคการสร้างและมอบโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เติบโตออกมาอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านโครงการ “โครงการปั้นเถ้าแก่น้อยสู่เวทีโลก” หรือ “โครงการเถ้าแก่น้อยอินเตอร์” ซึ่งเริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 60 ที่ผ่านมาแล้ว

โครงการดังกล่าวเป็นการสนับสนุนสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่เป็นการพัฒนาบุคลากรให้กับวงการธุรกิจเพิ่มเติมนับเป็นการสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีงานและอาชีพที่ดีสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจเองเรียกว่าเป็นโครงการที่บ่มเพาะความเป็นผู้นำในโลกธุรกิจให้กับคนรุ่นใหม่โครงการนี้คัดเลือกผู้ที่จะเข้าโครงการทั้งหมด 500 คนจาก 3 ประเทศคือ ไทย อินเดียและจีน โดยนำหนุ่มสาวที่คัดเลือกแล้วมาเข้าฝึกอบรมเป็นระยะเวลา 6 เดือนซึ่งหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ทั้งหมดล้วนเป็นบุคลากรในองค์กรของคุณธนินท์ทั้งหมด เป็นการบ่มเพาะและสนับสนุนนักธุรกิจใหม่สร้างโอกาสให้พวกเขาได้แสดงศักยภาพในตัวเองออกมาเพื่อนำมาใช้พัฒนาองค์กรต่อไป

สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดล้วนเป็นเทคนิคการเป็นผู้นำที่ดีที่คุณสามารถดูไว้เป็นแบบอย่างและสามารถนำมาปรับประยุกต์กับบริษัทและองค์กรของคุณได้นี่แหละวิถีแห่งการเป็นหัวหน้าในอุดมคติที่ลูกน้องจะรักจนตาย

แนวคิดผู้นำเพื่อความสำเร็จ

การจะเป็นผู้นำที่ดีที่ลูกน้องรักหรือเป็นหัวหน้าในอุดมคติที่ลูกน้องเคารพยกย่องและภักดีตลอดไปเทคนิคและหัวใจสำคัญอยู่ที่การปรับเปลี่ยนความคิดของคนเป็นผู้นำซึ่งสิ่งที่จะต้องเปลี่ยนมีอยู่ 2 สิ่งหลัก ๆ คือ

  • เอาใจเขามาใส่ใจเรา – สิ่งใดที่เราต้องการลูกน้องก็ย่อมต้องการด้วย มันคือการให้เกียรติความเป็นมนุษย์ซึ่งกันและกันถ้าคุณคิดว่าคุณเก่งคุณมีความสามารถก็อย่าลืมที่จะมองหาศักยภาพในตัวลูกน้องคุณด้วยคนเราย่อมไม่เหมือนกันต่างก็มีดีกันไปคนละอย่างแต่ทุกคนย่อมมีอะไรดีในตัวเสมอ
  • สร้างและมอบโอกาส – คนมีความสามารถนั้นมีมากมาย แต่ส่วนใหญ่แล้วมักไม่มีโอกาสและช่องทางที่จะแสดงออกในความสามารถของพวกเขา ถ้าหัวหน้าสร้างโอกาสให้ลูกน้องได้โชว์ศักยภาพของพวกเขาบ้างนั่นจะทำให้เขาภักดีกับคุณไปอีกนาน

Passion in this story