แนวทางพัฒนาตนเอง – ก้าวทันเทคโนโลยี

ในทุกวันนี้เราเริ่มพบเห็นสิ่งที่เรียกว่า Disruptive Technology หรือเทคโนโลยีที่เข้ามาแทรกแซงวิถีการทำงานในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ในแง่มุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่ศักยภาพของเทคโนโลยีสูงขึ้นช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตมนุษย์เรามากขึ้นในหลาย ๆ ด้าน

แต่ทว่าเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วแบบไม่หยุดหย่อนนี้กลับทำให้มนุษย์อย่างเราชะล่าใจปล่อยชีวิตการทำงานให้ผ่านไปวัน ๆ โดยไม่เคยคิดที่จะ Active พัฒนาตนเอง ให้มีศักยภาพในตนเองสูงขึ้นในขณะที่เทคโนโลยีกำลังฉลาดและมีความสามารถมากขึ้นมีการศึกษาจากบริษัทรับให้คำปรึกษาด้านการจัดการภายในขององค์กรดังคือ McKinsey & Company ระบุว่า อีก 12 ปีข้างหน้าหรือในปี 2030 มนุษย์จะต้องว่างงานมากถึง 800 ล้านตำแหน่งงาน เพราะเทคโนโลยีทันสมัยขึ้นสามารถเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ได้ในหลาย ๆ ด้านจึงมีแนวโน้มว่าหลากหลายอาชีพที่จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีในฐานะคนทำงานจึงนับเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่จะนำเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพให้กับตัวเอง

ออกจาก Comfort Zone มุ่งมั่นพัฒนาตนเอง

คนเราทุกคนย่อมมีบรรทัดฐานหรือ Comfort Zone ในการทำงานและใช้ชีวิตของตนเองคือถ้าหลุดออกจากกรอบไปแล้วก็จะรู้สึกไม่มั่นคงรู้สึกไม่ปลอดภัยขาดความมั่นใจในการทำงานและการใช้ชีวิตแต่คุณลืมไปแล้วหรือไม่ว่าเทคโนโลยีไม่มี Comfort Zone เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงและพยายามพัฒนาให้ก้าวข้ามขีดจำกัดต่าง ๆ อยู่เสมอแต่ตัวคุณล่ะกล้าพอที่จะลุกขึ้นมาพัฒนาตนเองให้หลุดออกจากแนวคิดและวิถีชีวิตการทำงานแบบเดิม ๆ หรือไม่ลองสร้างโอกาสให้กับตัวเองในการได้ทดลองกับวิธีการทำงานใหม่ ๆ ลองนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับแนวคิดของคุณบ้างก็ดี

ลองถามตัวเองดูว่าวันนี้ศักยภาพและขีดจำกัดในการทำงานของคุณมีอยู่แค่ไหนและคุณสามารถที่จะพัฒนาตนเองให้เหนือขีดจำกัดนั้นโดยอาศัยเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าช่วยได้บ้างหรือไม่อย่างคุณเป็นพนักงานด้านบัญชีอยู่ในปัจจุบันคุณอาจจะมั่นใจเหลือเกินว่าในบริษัทแห่งนี้จะต้องอาศัยคุณหรือทีมของคุณในการทำงานด้านบัญชีแต่เพียงผู้เดียวแต่คุณรู้หรือไม่ว่าจากการคาดการณ์ในปี 2024 ตำแหน่งของคุณจะลดลงไปถึง 8 % เพราะทุกวันนี้มีโปรแกรมสำเร็จรูปด้านบัญชีมากมายที่สามารถทำหน้าที่ของคุณได้อย่างอัตโนมัติเจ้าของบริษัทสามารถทำหน้าที่นี้ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องอาศัยคุณเลยคุณเป็นคนยึดติดกับวิถีเดิม ๆ อยู่หรือเปล่าอยู่บ้านยังนั่งดู DVD หรือ Blu-ray อยู่เหมือนเดิมในขณะที่ธุรกิจทีวีภาพยนตร์เพลงและกีฬา เดินหน้าพัฒนาเข้าสู่ระบบ Streaming กันหมดแล้วคุณปรับตัวกับเรื่องเหล่านี้อย่างไร

คลิกเลย! แนะนำบทความน่าอ่าน

• 3 เทคนิคเป็นฟรีแลนซ์ให้ได้งานอย่างสม่ำเสมอ
• ทิม พิธา อายุน้อยร้อยล้าน กับแนวคิดแบบผู้นำที่ไม่ธรรมดา!
• OOKBEE จาก TECH STARTUP น้องใหม่ไฟแรง สู่แพลตฟอร์ม E-BOOK อันดับ 1 ของประเทศ
• 3 เทรนด์ค้าขายสุดชิค – อาชีพเสริมหลังเลิกงานสุดฮิตคนรุ่นใหม่
• ผสมผสานเทคโนโลยี – แนวคิดผู้นำธุรกิจ SME รุ่นใหม่

และคุณยังคงเดินไปฝากเงินกับธนาคารที่หน้าเคาน์เตอร์อัพเดตสมุดบัญชีหรือจะกดเงินแต่ลืมบัตร ATM แล้วต้องกลับไปเอาที่บ้านอยู่หรือเปล่าในขณะที่เทคโนโลยี Mobile Banking พัฒนาไปจนถึงขั้นกดเงินได้โดยไม่ต้องใช้บัตรทำธุรกรรมโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมและสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องใช้เงินสดคุณต้องถามตัวเองว่าคุณจะเรียนรู้ให้สามารถอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ได้หรือไม่พร้อมที่จะเรียนรู้และรู้จักนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับการทำงานในชีวิตประจำได้แค่ไหนยิ่งคุณกล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone เดิม ๆ เปิดใจเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้ก้าวทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปคุณก็จะเห็นว่าเทคโนโลยีไม่ใช่ปัญหาแต่กลับเป็นประโยชน์กับคุณมากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ

สร้างโอกาสจากเทคโนโลยี

การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีนั้นมีข้อดีข้อเสียอยู่ในตัวเองแต่ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไปถึงขั้นไหนก็ต้องไม่ลืมว่าเทคโนโลยีพัฒนาตนเองไม่ได้ อย่างไรก็ต้องอาศัยมนุษย์ฉะนั้นนอกจากคุณจะต้องพัฒนาตนเองทำตัวเองให้มีความเป็นผู้นำที่ก้าวทันเทคโนโลยีแล้วเพื่อความก้าวหน้าในการทำงานบริษัทแล้วคุณก็ยังจำเป็นที่จะต้องพัฒนาบุคลากรเพิ่มให้มีความรู้ความชำนาญในเรื่องเหล่านี้รู้จักที่จะสร้างโอกาสและสร้างคนใหม่ ๆ ให้มีประสบการณ์และศักยภาพในการทำงานที่เท่าทันเทคโนโลยีสุดยอดนักธุรกิจไทยท่านหนึ่งที่เรียกว่าเป็นแบบอย่างผู้นำในด้านการพัฒนาตนเองให้ก้าวทันโลกและเทคโนโลยีอยู่เสมอก็คือ คุณธนินท์ เจียรวนนท์

เราจะเห็นได้ว่าองค์กรธุรกิจของ คุณธนินท์ เจียรวนนท์ พัฒนาอยู่ตลอดเพราะคุณธนินท์ตื่นตัวรับการเปลี่ยนแปลงเสมอมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ ๆ เข้ามา คุณธนินท์ ก็จะไม่รอช้า รีบเดินทางไปดูไปศึกษาทันทีทั้งนี้ก็เพื่อที่จะนำมาปรับใช้กับการทำงานขององค์กรได้อย่างทันการนับเป็นแบบอย่างของคนเป็นผู้นำที่รู้จักสร้างโอกาสและปัจจัยในการทำงานให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี นี่จึงทำให้ คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ถูกยกย่องว่าเป็นสุดยอดนักธุรกิจไทยที่ไม่เคยล้าหลังไม่กลัวการพัฒนาของเทคโนโลยีแต่กลับชอบและพร้อมที่จะรับเอามาใช้อีกด้วย

โครงการสนับสนุนนักธุรกิจรุ่นใหม่

คนรุ่นใหม่แม้จะเติบโตมากับเทคโนโลยีและเป็นคนที่มีศักยภาพก็จริงแต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าคนรุ่นใหม่ยังขาดประสบการณ์และขาดโอกาส ด้วยวิสัยทัศน์ของคนเป็น CEO ที่ประสบความสำเร็จแล้วจึงเข้าใจเรื่องนี้ดีทำให้คุณธนินท์ริเริ่ม “โครงการเถ้าแก่น้อยอินเตอร์” อันเป็นโครงการที่เปลี่ยนวิสัยทัศน์ CEO ที่เป็นเพียงนามธรรมให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมาจริง ๆ

โครงการนี้สร้างคนและให้โอกาสคนรุ่นใหม่ได้เติบโตเป็นการพัฒนาบุคลากรเพิ่มให้กับองค์กรคนรุ่นใหม่พวกเขารู้จักเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าแต่พวกเขากลับไม่รู้ว่าวิธีการที่จะนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทำงานและให้เกิดความก้าวหน้าในบริษัทนั้นต้องทำอย่างไร คุณธนินท์ จึงสร้างและมอบโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้การเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีศักยภาพในการปรับตัวให้สอดคล้องกับการพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว

ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้มีโอกาสพัฒนาความรู้และทักษะของตนเองในการประกอบธุรกิจโดยนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ระบบการบริหารจัดการธุรกิจที่สอดรับกับนวัตกรรมที่ก้าวล้ำทำให้คนรุ่นใหม่มีศักยภาพและความสามารถที่จะอยู่เหนือเทคโนโลยีโดยไม่ต้องกลัวว่าเทคโนโลยีจะมาแย่งงาน อีกทั้งเรื่องการสร้างคนและให้โอกาสคนรุ่นใหม่ได้เติบโตไม่ได้เป็นเพียงวิสัยทัศน์ของ CEO ในองค์กรเอกชนเท่านั้น

แนะนำบทความน่าอ่าน

• ประเทศไทย 4.0 คิดแบบผู้นำยุคแห่งนวัตกรรม
• ธุรกิจ STARTUP – ไม่ใช่แค่กระแสแต่เป็นทางเลือกใหม่
• นวัตกรรม – ผลผลิตทางความคิดที่เปลี่ยนวิถีผู้คน
• สร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัล – แนวทางเอาชนะความท้าทาย
• จับสไตล์การออกกำลังกายมาทำเงิน – SOULCYCLE ธุรกิจที่เกิดจาก PASSION
• อาหารออนไลน์ – จานด่วน ส่งไว อร่อยได้ทุกมื้อ

แม้กระทั่งภาครัฐหลายหน่วยงานต่างก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) หรือ Nectec ก็มี “โครงการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม (NEC)” เป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียในการสร้างสรรค์ผลงานและผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยี ด้านไอทีอุตสาหกรรม ซอฟต์แวร์ ได้เข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาไอเดียให้ไปสู่การเป็นโมเดลธุรกิจสามารถต่อยอดไอเดียจนกลายเป็นการเริ่มต้นธุรกิจได้ อันเป็นโครงการลักษณะเดียวกันกับภาคเอกชนที่จัดขึ้นอย่างโครงการของ คุณธนินท์ เจียรวนนท์ นั่นเอง

เมื่อทุกภาคส่วนต่างให้ความสำคัญเรื่องของการพัฒนาคนให้เท่าทันเทคโนโลยีจึงเป็นการตอกย้ำให้เราเบาใจได้ว่าเทคโนโลยีไม่สามารถแทนที่เราได้ทั้งหมดถ้าเราไม่หยุดที่จะพัฒนาตนเองและปรับตัวให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีบอกตนเองไว้เสมอว่าว่าเรามีศักยภาพมากพอที่จะเรียนรู้และใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ขอแค่วันนี้เปิดใจและกล้าที่จะก้าวออกมาจาก Comfort Zone

แนวคิดผู้นำเพื่อความสำเร็จ

[full_width] Comfort Zone คืออุปสรรคที่ทำให้การพัฒนาตนเองหยุดชะงัก เทคโนโลยีจะดีแค่ไหนก็ยังต้องอาศัย ‘คน’ ในการเข้าไปพัฒนา ฉะนั้นนั่นคือข้อได้เปรียบที่คุณจะต้องรีบฉวยเอาไว้พัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้งรู้จักที่จะทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการทำงานและการใช้ชีวิตทำความคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้เสมือนทำความรู้จักกับเพื่อนและคุณจะไม่กลัวหรือกังวลกับมันพร้อมกันนั้นคุณก็จงสร้างโอกาสให้คนในทีมได้ทำความรู้จักกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้ให้พวกเราทุกคนคุ้นชินและรู้จักใช้พวกมันแบบนี้ต่อให้มีเทคโนโลยีที่อัจฉริยะขนาดไหนก็ทำอะไรคุณและคนของคุณไม่ได้