แนวคิดผู้นำสไตล์ Starbucks – เคล็ดลับสุดละมุนที่หอมกรุ่นกว่ากาแฟทุกสายพันธุ์

ความสำเร็จของ “Starbucks” ไม่ได้มาจากกาแฟที่หอมกรุ่นของร้านหากแต่เกิดขึ้นเพราะวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ CEO มาร่วมค้นหา Mindset ทรงคุณค่านี้ไปพร้อม ๆ กัน

คงไม่ต้องเอ่ยถึงความยิ่งใหญ่ของร้านกาแฟ Starbucks กันอีกแล้ว นี่คือแบบอย่างของธุรกิจร้านกาแฟที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับ 1 และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสามารถโค่นบัลลังก์แชมป์ของพวกเขาลงได้เมื่อเดือนมิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา “โฮเวิร์ด ชูลท์ซ” (Howard Schultz) CEO คนสำคัญได้ประกาศอำลาจากการบริหารงานใน Starbucks ซึ่งเขาได้ทำหน้าที่บริหารงานมานานกว่า 40 ปี และส่งต่อ Starbucks ให้กับผู้บริหารที่มีศักยภาพสูงคนต่อไปอย่างเต็มตัว

นั่นคือ เควิน จอห์นสัน (Kevin Johnson) ซึ่งคงไม่มีใครปฏิเสธว่า Starbucks ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะวิสัยทัศน์อันยาวไกลของ CEO อย่างโฮเวิร์ด ชูลท์ซ คนที่มีแนวคิดผู้นำอยู่ในยีนของเขาสามารถผลักดันให้ธุรกิจร้านกาแฟเป็นมากกว่าร้านกาแฟ จนกลายเป็นธุรกิจกาแฟที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกเรื่อยมา อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จของ Starbucks และ Mindset ชุดไหนที่อยู่ในวิสัยทัศน์อันยาวไกลของ CEO อย่าง โฮเวิร์ด ชูลท์ซ มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน

แบบอย่างผู้นำและแนวทางใหม่ในการทำธุรกิจ

“ร้านกาแฟไม่ใช่แค่สถานที่ขายกาแฟอย่างเดียว แต่ควรเป็นสถานที่ที่ตอบสนอง lifestyle ของผู้คน” –โฮเวิร์ด ชูลท์ซ

คำกล่าวนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ผู้นำของ โฮเวิร์ด ชูลท์ซ ออกมาได้อย่างชัดเจนเขาคือคนที่มีแนวคิดใหม่ในการทำธุรกิจเดิม ๆ ให้มีความแตกต่าง และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสิ่งที่ดูเล็กน้อยจนกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ครองใจผู้คนทั่วโลกแน่นอนว่าธุรกิจกาแฟ รสชาติของกาแฟยังต้องเป็นพระเอก แต่ในเนื้อเรื่องจะมีแต่พระเอกคนเดียวก็ดูจะจืดชืดไปสักหน่อยทำไมไม่ลองเพิ่มองค์ประกอบอื่น ๆ ให้กลายเป็นงานโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่อลังการตอบสนองความต้องการลึก ๆ ของผู้คนไปเลยล่ะ

โฮเวิร์ดจึงเป็นแบบอย่างผู้นำที่รู้จักคิดต่าง รู้จักใส่ “จิตวิญญาณ” ลงไปในกาแฟ นั่นคือความมุ่งมั่นในการสร้างและพัฒนาคนหล่อหลอมให้คนให้มี Mindset ชุดเดียวกัน โดยการปลูกฝังให้พนักงานมีหัวใจแห่งการบริการ นำเสนอบริการที่ดีผ่านกาแฟรสชาติพรีเมียมเพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจที่สุด

กาแฟของ Starbucks จึงเป็นมากกว่ากาแฟรสชาติเข้มข้น เพราะเป็นกาแฟที่สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้แบบไม่มีใครคาดถึงมีสิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ก็คือ งบประมาณการลงทุนของ Starbucks ส่วนใหญ่ไม่ได้หมดไปกับการคัดเลือกสายพันธุ์เมล็ดกาแฟ ไม่ได้หมดไปจากการค้นหาวัสดุที่จะมาทำแพ็คเกจสุดหรูนั่นคือต้นทุนทั่วไปที่ทุกธุรกิจก็ล้วนมีเหมือน ๆ กันแต่สิ่งที่โฮเวิร์ดทุ่มทุนแบบให้ Starbucks มีความเหนือชั้นแบบแตกต่างก็ คือ การทุ่มงบไปกับ “การปรับปรุงกิจการภายใน” ซึ่งนั่นก็คือ การทุ่มงบประมาณไปกับการพัฒนาบุคลากรของร้านให้มีศักยภาพเพิ่มทุ่มงบไปกับการพัฒนาสภาพแวดล้อมของร้านอันจะช่วยสร้างโอกาสให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์กับการนั่งละเลียดกาแฟหอม ๆ ในแบบที่แตกต่างตาม lifestyle ของตนเอง และนี่คือ Mindset ที่น่าทึ่ง และเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ประกอบการธุรกิจที่มีจิตวิญญาณอันมุ่งมั่นในการสร้างและพัฒนาคนเพื่อให้คนเพื่อพัฒนาองค์กรนับเป็นแนวคิดผู้นำที่น่าเรียนรู้และน่าถอดรหัสนำไปประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจอื่น ๆ จริง ๆ

วิสัยทัศน์ผู้นำ ถูกแผ่ขยายและฝังรากลึกในองค์กร

แนวคิดผู้นำ หรือ วิสัยทัศน์ผู้นำของโฮเวิร์ดนั้น วันนี้ได้ถูกแผ่ขยายไปยังร้าน Starbucks 28,000 สาขาใน 77 ประเทศทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อยอีกทั้งยังส่งต่อไปถึงบุคลากรคนอื่น ๆ ในองค์กร แม้จะดำเนินกิจการอยู่ในต่างประเทศอีกด้วย

คุณเนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการของบริษัท Starbucks ประเทศไทย เปิดเผยว่า Mindset และ แนวคิดผู้นำสไตล์โฮเวิร์ด ชูลท์ซนั้น อยู่ในทุกที่ที่แบรนด์ Starbucks ปรากฏขึ้น ไม่ว่า Starbucks จะขยายสาขาไปประเทศไหนก็ตามปัจจัยอาจแตกต่างกันไปบ้างตามสภาพแวดล้อมแต่สำหรับ Mindset ในการบริหารจัดกา การทำร้านกาแฟให้เหมือน “ห้องนั่งเล่นในบ้าน” ยังคงเหมือนเดิมการพัฒนาบุคลากรของร้านเพิ่มเติมยังคงเป็นสิ่งที่องค์กรทำอยู่สม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งการให้ความสำคัญกับเรื่องของการพัฒนาบุคลากรของร้านเพิ่มนั้น ไม่ใช่แค่การฝึกอบรมและพัฒนาฝีมือทักษะของงานเท่านั้นบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลบุคลากรพยายามสร้างบรรยากาศในการทำงานให้เหมือนครอบครัวรับฟังความคิดเห็นและใส่ใจใน Passion ของพวกเขา อีกทั้งยินดีที่จะสร้างโอกาสดี ๆ พร้อมสนับสนุนให้พวกเขาเหล่านั้นมีความก้าวหน้าในอาชีพอยู่เสมอ

ปรับเปลี่ยนความคิด เท่ากับ สร้างโอกาสให้ตนเอง

กิจการที่ยิ่งใหญ่มีสาขามากมายในหลายประเทศไม่ใช่มีแค่เพียง Starbucks และไม่ใช่เพียงโฮเวิร์ด ชูลท์เท่านั้น ที่เปี่ยมไปด้วยแนวคิดผู้นำสำหรับประเทศเราแล้ว CEO ที่เป็นสุดยอดนักธุรกิจไทยมีวิสัยทัศน์ผู้นำอันยาวไกลและมีศักยภาพ สามารถแผ่ขยายอาณาจักรธุรกิจให้กว้างขว้างออกไปทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ คล้าย ๆ กับ โฮเวิร์ด ชูลท์ ก็มีเช่นกันนั่นคือ สุดยอดนักธุรกิจไทย เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ที่สามารถนำพากิจการที่เริ่มจากการขายเมล็ดพันธุ์ผัก ที่เป็นแผงลอยเล็ก ๆ ผ่านร้อนผ่านหนาว และเต็มไปด้วยประสบการณ์ทั้งดี และร้ายหล่อหลอมจนกลายมาเป็นอาณาจักรธุรกิจที่แผ่ขยายครอบคลุมไปทั่ว

สองท่านนี้มีแนวคิดหรือสไตล์การเป็นผู้นำคล้าย ๆ กันอย่างเจ้าสัวธนินท์รู้จักที่จะปรับเปลี่ยนความคิดและพร้อมที่จะหาแนวคิดและแนวทางใหม่ในการทำธุรกิจ ให้ตอบสนองความต้องการของผู้คนโดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยไม่ยึดติดกับวิธีค้าขายแบบเดิม ๆ ยิ่งเทคโนโลยีที่ใช้สามารถตอบสนองความต้องการของคนได้มาก และมีความลึกซึ้งเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างโอกาสให้กับธุรกิจเติบโตมากขึ้นเท่านั้นส่วนโฮเวิร์ด ชูลท์ซนั้น ก็รู้จักที่จะปรับเปลี่ยนความคิดในการทำร้านกาแฟให้กลายเป็นบ้านอีกหลังของผู้คนซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างโอกาสให้ Starbucks ครองใจคนได้ยาวนาน

ทั้งสองคนนี้จึงมีความเหมือนในความแตกต่าง สำหรับเรื่องของเทคโนโลยีนั้น เจ้าสัวธนินท์ ถือว่าเป็นสุดยอดนักธุรกิจไทยที่หูตาไวในเรื่องนี้มาก ๆ เทคโนโลยีใหม่อะไรที่เกิดขึ้นมาและสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจและองค์กรได้ เจ้าสัวธนินท์ จะรีบรุดไปดูและลงมือศึกษาอย่างจริงจังจากนั้นค่อยลงทุนนำกลับมาใช้ในองค์กร

“การก้าวมาถึงวันนี้ของผมแท้จริงแล้วมาจากศักยภาพและความสามารถในการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมมากกว่า เทคโนโลยีมีข้อดีในตนเองคือช่วยให้เราสามารถผลิตได้เร็ว ผลิตได้มากและมีคุณภาพดีจึงช่วยให้ตอบสนองความต้องการคนกลุ่มใหญ่ได้ทั่วถึง แต่ทุกเทคโนโลยีก็มีข้อจำกัดในตนเองใช่ว่าจะเหมาะสมกับเราทุกอย่างไป เราจึงต้องรู้จักเลือกใช้และประยุกต์ให้เหมาะสมกับงานของเราด้วยเทคโนโลยีนั้นถึงจะตอบสนองความต้องการของคนหมู่มากได้อย่างลึกซึ้ง”

ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจของเจ้าสัวธนินท์ จะสร้างเครือข่ายอันทรงพลังครอบคลุมชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน สิ่งเหล่านี้เป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเราทุกคนทั้งสิ้นจะเห็นได้ว่า CEO ทั้งสองคนจากสององค์กรที่ยิ่งใหญ่นี้ มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ Mindset ที่ลึกซึ้ง มองเห็นและเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้คน และพวกเขาเหล่านี้ก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนทั้งเรื่องของความคิดและวิธีการทำงาน เพื่อสามารถเข้าถึงผู้คนได้อย่างแท้จริงเสมอ

สิ่งที่เราทุกคนต้องยอมรับก็คือ เราได้รับความพึงพอใจในสินค้าชั้นดีรวมถึงประสบการณ์ในการบริการที่ดีจากร้านต่าง ๆ ก็เพราะวิสัยทัศน์อันยาวไกลของเหล่าบุคคลที่เป็น CEO เหล่านี้ ซึ่งถ้าคุณต้องการจะประสบความสำเร็จแบบนี้บ้างก็อย่าลืมที่จะปรับเปลี่ยนความคิดในวันนี้ของตนเอง และพยายามฝึกตนเองให้มี Mindset อย่าง CEO ทั้งสองคนนี้ด้วยนะ