วิสัยทัศน์ CEO – ไพโรจน์ ร้อยแก้ว เจ้าพ่อตลาดนัดรถไฟ

3.3 / 5 ( 43 votes )

การได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักนั้นคือความสุข และหากสามารถต่อยอดความสุขนั้นสร้างเป็นอาชีพ จนประสบความสำเร็จมีรายได้ในระดับร้อยล้าน คงต้องบอกได้ว่าสิ่งนั้นมันมากกว่าแค่ความสุขแบบธรรมดาแน่ๆ อย่างไพโรจน์ ร้อยแก้ว ผู้บริหารและบุกเบิกตลาดนัดรถไฟ ตลาดไนท์มาร์เก็ตสุดชิคที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความคลั่งไคล้ของเก่าและของสะสม จน ขยับมาเป็นอาชีพนักขายของเก่ามือโปร แล้วสุดท้ายกับการเป็นเจ้าของธุรกิจตลาดนัดรถไฟที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเขาในระดับร้อยล้านบาทในเวลาไม่กี่ปี มารู้จักชีวิตและกลยุทธ์การทำธุรกิจที่ไม่เหมือนใครของ Mafia of Idea – ไพโรจน์ ร้อยแก้ว

จุดเริ่มต้นของคุณ ไพโรจน์ ร้อยแก้ว

วัยเด็กของไพโรจน์ในจังหวัดอยุธยาบ้านเกิดนั้น แตกต่างจากเด็กวัยเดียวกันทั่วไป ด้วยพ่อของเขาที่มีอาชีพเป็นช่างไม้ทำให้เขาคลุกคลีกับงานไม้และของเก่าๆ มาโดยตลอด ทำให้เขาเป็นคนที่มี “รสนิยม”และแนวคิดที่แตกต่างจากคนอื่นมาตั้งแต่เล็ก อย่างเพื่อนๆ จะฟังเพลงป๊อปยุคใหม่แต่เขาเลือกฟังเพลงสากลยุค 70-80 รักและสะสมอัลบั้มนักร้องฝรั่งมาตั้งแต่เด็กๆ และเริ่มเป็นพ่อค้าขายของเก่าตั้งแต่อายุ 15 ปี เมื่อได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่หาดใหญ่ เพราะที่นั่นเป็นแหล่งของเก่าจากอเมริกา ตั้งแต่เสื้อทหาร กางเกง กระเป๋า เป้ รองเท้า เอามาขายต่อเพื่อเป็นค่ารถ ค่าเที่ยวฟรี จนเริ่มตีตั๋วลงไปหาดใหญ่เพื่อสร้างอาชีพซื้อของเก่ามาขายที่ตลาดโต้รุ่ง จ.อยุธยา แล้วก็ขยับขยายไปเส้นทางการค้าใหม่ ที่ อ.โรงเกลือ จ.สระแก้ว จนเขาสามารถเก็บเงินซื้อรถคันแรกเป็นของตัวเองได้ในวัยแค่ 17 ปี

กว่า 10 ปีบนเส้นทางพ่อค้าขายของเก่า

“ลำบากจริงๆ ต้องไปขายของลุ่มๆ ดอนๆ ไปเป็นคนทำพร็อพ จัดอุปกรณ์ประกอบฉากทำหนังอยู่พักนึงก็กลับมาขายของตามเดิม” – ไพโรจน์ ร้อยแก้ว

เมื่อโรจน์อายุได้ 21 ปี ตอนนั้นเขาเป็นนักศึกษาปี 3 คณะวิศวะกรรม ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หนังสือเล่มหนึ่งที่เขาอ่านจุดประกายให้เขาเลือกทิ้งการเรียนไปผจญโลกและสร้างโอกาสแห่งความร่ำรวยให้ตัวเอง เขาในตอนนั้นมองว่าการเรียนเป็นเรื่องเสียเวลา เขาอยากจะสร้างฐานะ มีอาชีพที่มั่นคงตั้งตัวได้ก่อนเพื่อนๆ จะเรียนจบ แต่ในโลกความเป็นจริงสิ่งที่คิดนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่ฝันซักนิด

เขายังจำวันแรกในการเริ่มขายของในคลองถมได้ดี เงินทุน 8,000 บาท ซื้อของเก่าเตรียมขายเต็มกระเป๋า เดินลากกระเป๋าอันหนักอึ้งเพื่อหาที่ลงขายแต่ไม่ว่าจะวางขายตรงไหนก็โดนไล่จากเจ้าของที่เดิม จนเขาเริ่มรู้ว่าการเริ่มทำธุรกิจมันไม่ได้ง่ายแต่ก็ยังคงต้องลากกระเป๋าไปจนเกือบสุดตลาดจึงได้ที่ลงของขายและตัดสินใจที่จะเล่นมุกตะคอกกลับบ้างเวลามีคนมาบอกว่าเป็นที่ของพวกเขา “ไม่ใช่ๆ ที่นี่ที่ผม ขายมาหลายปีแล้ว!” และจากจุดเริ่มต้นในวันนั้นทำให้โรจน์ได้เดินบนถนนของพ่อค้าขายของเก่าอย่างเต็มตัว ทนตากแดดตากฝน ผจญกับฝุ่น นั่งกินข้าวกับพื้นฟุตบาท เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ประสบความสำเร็จในการค้าขายของเก่าที่คลองถม มีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รายได้ขยับขึ้นจากหลักพัน เป็นหมื่นเป็นแสน ทำอยู่ตลาดนี้เกือบ 10ปี ก็ถึงเวลาต้องขยับขยาย

แนะนำบทความไอเดียทำธุรกิจ

จุดเปลี่ยนสู่ผู้ก่อตั้ง ตลาดนัดรถไฟ

ชีวิตถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้งในช่วงระหว่างอายุประมาณ 30 ปีต้นๆ เมื่อเขาอยากเป็นเจ้าของธุรกิจโดยเปิดร้านของตัวเองย่านจตุจักรแทนคลองถมโดยงานนี้เขาขายรถไป 1 คันและได้เงินทุนจากพี่สาวเพื่อมาใช้เซ้งร้าน เขาเปิดร้านขายของในเวลานานกว่าคนอื่น ทำมากกว่าคนอื่น ก็เพื่อให้คืนทุนเร็วที่สุด อย่างคนอื่นเปิด 10 โมง ร้านของเขาจะเปิด 8 โมงเช้า ถ้าคู่แข่งปิด 6 โมงเย็น เขาก็จะปิด 4 ทุ่ม แนวคิดการทำงานแบบใหม่นี้ ทำให้เขาคืนทุนได้ใน 3 เดือน และหาเงินมาเซ้งร้านต่อขยายไปได้อีก 9 ห้องติดกัน กลายเป็นอาณาจักร Rod’s Antique ร้านขายของเก่า ที่มีทั้งร้านอาหารและบาร์ในบรรยากาศแบบยุคเก่า

กลยุทธ์ทำธุรกิจ แบบนี้ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ และดึงลูกค้าเก่าไว้ได้อย่างเหนียวแน่นแต่แล้วร้านก็ถูกเวนคืน แต่แล้วโรจน์ก็ไปเจอกับพื้นที่โล่งและรกร้างว่างเปล่า ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟฯ ติดกับตลาดนัดจตุจักร โดยพื้นที่ตรงนี้หลายคนมองว่าเป็นพื้นที่ตาบอด แต่สำหรับเขามองว่าที่นี่น่าจะเป็นทำเลทองในอนาคต เขาจึงไปเช่าโกดังในนั้นแล้วบุกเบิกให้เป็นตลาดนัดสไตล์วินเทจที่มีของกินของใช้มาวางขายหลากหลาย และไม่น่าเชื่อว่าเมื่อผ่านไปเพียง 6 เดือน พื้นที่ตรงนั้นก็กลายเป็นอาณาจักรของร้านค้านับหมื่นและเป็นตลาดนัดแห่งแรกที่ใช้แนวคิดการบริหารแบบใหม่คือการเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือน มีผู้คนเดินทางมาจากทั่วสารทิศเพื่อมาเดินช้อปปิ้งที่นี่ ในแต่ละคืนมีคนมาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดแห่งนี้นับหมื่นคนเลยทีเดียวจนกลายเป็น “ตลาดรถไฟจตุจักร” อันโด่งดัง

ก้าวใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม @ตลาดรถไฟศรีนครินทร์

ผ่านไปเพียง 2 ปี “ตลาดรถไฟจตุจักร” ก็หมดสัญญาเช่าและถูกเรียกคืนเพื่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง โรจน์จึงต้องย้ายออก เขาเลือกที่จะสร้างอาชีพใหม่ของเขาบนพื้นที่ของถนนศรีนครินทร์ โดยยังคงชื่อเดิมของตลาดแห่งนี้แต่ต่อท้ายด้วยชื่อสถานที่แห่งใหม่ว่า “ตลาดรถไฟศรีนครินทร์” อีกหนึ่งในกลยุทธ์ธุรกิจที่สร้างความมั่นใจให้ผู้เช่าว่าจะไม่ต้องโยกย้ายอีกคือการทำสัญญาเช่ายาวถึง 15 ปี บนพื้นที่ 62 ไร่ มีพื้นที่จอดรถกว่า 20 ไร่ ถือเป็นตลาดแห่งใหม่ที่กว้างใหญ่กว่าเดิมมาก ซึ่งหลังเปิดให้เข้ามาขายได้ 2-3 เดือนแรกผลตอบรับก็ทำให้เขาหายเหนื่อย เพราะมีผู้มาเช่าล็อคในตลาดได้ตามเป้าทั้งจากผู้เช่าเดิมที่ตามมาจากจตุจักรและผู้เช่าใหม่ โดยแบ่งเป็นแผงขายของ 1,600 แผง  พลาซ่า 500 ล็อค และโซนโกดัง 9 โกดัง แล้วยังมีพื้นที่สำหรับขาจรอีก 400 – 500 ราย ที่แวะเวียนเข้ามาขายเป็นจำนวนมาก

แนวคิดใหม่ๆ ในการดึงดูดทั้งผู้ซื้อและผู้ขายให้เข้ามาในตลาดรถไฟศรีนครินทร์ คือ การตกแต่งแนวคลาสสิก  สถาปัตยกรรมที่สวยงามให้คนเข้ามาเช็คอิน ถ่ายรูปลงโซเชี่ยลสร้างกระแสในโลกออนไลน์และมีโซนพลาซ่า ซึ่งเป็นไอเดียในการตกแต่งตามสไตล์ของเขาเอง  นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เช่น ดนตรี แสดงโชว์ อีเว้นท์ต่างๆ ซึ่งกลยุทธ์การทำธุรกิจแบบนี้ช่วยดึงดูดให้คนมาที่ตลาดรถไฟศรีนครินทรเป็นจำนวนมาก จนตลาดแห่งนี้สามารถสร้างรายได้ให้กับเขามากถึง 8 หลักต่อเดือนเลยทีเดียว

กลยุทธ์ปั้นตลาดนัดให้ประสบความสำเร็จ

โรจน์เปิดเผยว่า กลยุทธ์ในการทำธุรกิจตลาดนัดให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้อง “รู้จักการให้เสียก่อน” เพราะยิ่งให้ก็ยิ่งได้ เขาใช้หลักการบริหารตลาดด้วยหัวใจ นึกถึงใจเขาใจเราและจากการที่เคยเป็นพ่อค้าตลาดนัดมาก่อนทำให้เขาเข้าใจตรงนี้ได้ดีและใช้แนวคิดการบริหารแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร เช่น เก็บค่าเช่าไม่แพงเหมือนที่อื่น ไม่มีการขึ้นค่าเช่า ไม่มีการเซ้งใดๆ ทั้งสิ้น ลดค่าเช่าในช่วงฤดูฝน ลดค่าเช่าในช่วงที่ผู้ค้าประสบภัยทางการเมือง สิ่งเหล่านี้ทำให้มีผู้ค้าตบเท้าเข้ามาค้าขายมากขึ้น ตลาดมีสินค้ามากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจก้าวไปสู่ความสำเร็จดังเช่นปัจจุบัน และยังพัฒนาต่อไปอีกเรื่อยๆ สร้างโอกาสให้เขาได้ทำโปรเจ็คท์ใหม่ๆ ต่อยอดออกไปอย่างตลาดนัดรถไฟรัชดา และ ตลาดนัดรถไฟเกษตรนวมินทร์

“การบริหารตลาดนั้นต้องเข้าใจ ต้องเห็นอกเห็นใจคนที่มาเช่าพื้นที่ เราต้องดูแลเรื่องความปลอดภัย ดูแลความสะอาดพวกสาธารณูปโภค แสงสว่าง สิ่งสำคัญที่สุดคือ พาคนมาเดินในตลาดให้ได้ คอนเซ็ปต์จะต้องดี การประชาสัมพันธ์ต้องดี เดินแล้วก็ยังอยากมาเดินอีก เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการคัดเลือกร้าน ต้องมีอะไรใหม่ๆ อย่างของกินก็ต้องอร่อยด้วย นี่เป็นจุดขายและจุดดึงดูดให้คนมา” – ไพโรจน์ ร้อยแก้ว

กว่า 20 ปีในการทำธุรกิจที่เริ่มต้นจากความรักและหลงใหลในของเก่า ทำให้เราเห็นความเป็นตัวตนของผู้ชายคนนี้ได้อย่างชัดเจนว่า เขาทำงานภายใต้แนวคิดแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร คือ “Art & Business” ใช้ทั้งศิลปะและธุรกิจเดินคู่ขนานกันไป โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “ความแตกต่าง” ฉีกรูปแบบการทำธุรกิจแนวเก่า ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจแนวคิดใหม่ที่ยิ่งให้ยิ่งได้และเน้นการเติบโตร่วมกันไปในระบบคู่ค้าที่พึ่งพาอาศัยกันอย่างยั่งยืน

แนวคิดผู้นำ สร้างความสำเร็จ

  • การบริหารตลาดนั้นต้องเข้าใจ ต้องเห็นอกเห็นใจคนที่มาเช่าพื้นที่
  • เก็บค่าเช่าไม่แพงเหมือนที่อื่น ไม่มีการขึ้นค่าเช่า ไม่มีการเซ้งใด ๆ
  • ลดค่าเช่าในช่วงฤดูฝน และในช่วงที่ผู้ค้าประสบภัยทางการเมือง
  • เปิดร้านขายของในเวลานานกว่าคนอื่นเพื่อให้คืนทุนเร็วขึ้น
  • ต่อยอดธุรกิจจากความหลงไหล คลั่งไคล้ในของเก่า
  • การประชาสัมพันธ์ต้องดี เดินแล้วก็ยังอยากมาเดินอีก
Passiongen

Share
Published by
Passiongen

Recent Posts

Young SME หลักสูตรสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ชู Soft Power เสริมสร้างธุรกิจยั่งยืน

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…

6 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดธุรกิจยุคใหม่ กับ มุมมองด้านความยั่งยืน

บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…

9 months ago

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล “ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี” จากงาน DG Awards 2023

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…

10 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์แบรนด์ สไตล์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…

10 months ago

พิธีปิดการอบรมหลักสูตร SML รุ่นที่ 4 ปี2566

พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…

1 year ago

เมื่อสูงวัยต้องไปทำฟัน

ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…

1 year ago

This website uses cookies.