อาจเพราะปัญหาการว่างงานที่รุนแรงขึ้นทุกปี จึงทำให้เด็กหลายคนเลือกที่จะเรียนในคณะหรือสายงานที่หางานได้ง่าย โดยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Passion ของตัวเองคืออะไร สิ่งไหนคือความถนัดและอะไรคือศักยภาพที่ซ่อนอยู่ หวังแค่ได้อยู่ใน Safe Zone ที่จะไม่ต้องเตะฝุ่นหลังเรียนจบเท่านั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อยิงคำถามไปยังเด็กจบใหม่ถึงอาชีพที่จะทำหลังเรียนจบ คำตอบที่มักได้กลับมาก็คือ “ยังไม่รู้” PassionGen จึงอยากแนะนำธุรกิจเพื่อสังคมแนวคิดใหม่ CareerVisa –บัตรผ่านสู่อาชีพที่ใช่ เปลี่ยนโลกการทำงานให้มีความสุข ที่จะสร้างจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตของน้อง ๆ นักศึกษาที่ยังไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ทดลองลงมือทำงานก่อนที่จะได้ไปใช้ชีวิตในสนามจริง ตาม PassionGen ไปรู้จักธุรกิจนี้ให้มากขึ้นผ่านคุณพิน-เกษมศิริ Co-Founder ของ CareerVisa กันเลยดีกว่า
คุณพินจบการศึกษาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ University of California, Berkeley – Walter A. Haas School of Business รวมทั้งมีโอกาสได้ฝึกงาน และเข้าร่วมกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ มากมาย ด้วยดีกรีการศึกษาและความสามารถที่โดดเด่น ทำให้คุณพินมีโอกาสที่จะได้ทำงานในบริษัทชั้นนำจำนวนมาก แต่เธอเลือกทิ้งโอกาสที่จะเติบโตในบริษัทใหญ่ๆ มาทำงานที่เป็นประโยชน์ และช่วยแก้ปัญหาให้กับเด็ก ๆ และสังคม ผ่านการลงมือทำด้วยตัวเธอเอง ซึ่งจุดเปลี่ยนเกิดจากที่เธอพบว่าเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันสมัยมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัยหลายคนเปลี่ยนงานมาหลายงานแล้ว ทำให้เธอคิดว่า เพื่อนๆ เธอล้วนเป็นคนที่มีความสามารถ เป็นคนที่มีโอกาสที่จะได้รับการศึกษาที่ดี ๆ แต่ยังขาดทักษะการรู้จักตนเอง ไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะทำอะไรในชีวิต หรือเมื่อมารู้ตัวตอนอายุมากขึ้นก็ไม่กล้าที่จะออกจาก comfort zone ไปยังในเส้นทางใหม่ เธอจึงอยากช่วยให้เด็ก ๆ ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ในเมืองไทยยังไม่มีใครทำแบบนี้อย่างจริงจัง เธอเลยคิดว่า ในเมื่อสิ่งที่ควรจะมีมันยังไม่มี เธอก็ต้องทำมัน และสร้างมันให้เกิดด้วยตัวเอง
“เด็กหลายคนไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเรียนมานั้นเอาไปทำอะไรได้บ้าง และใบปริญญาที่ได้รับมานั้นมีคุณค่ากับตัวเองมากแค่ไหน เราจะรู้สึกดีทุกครั้งถ้าหากได้พูดคุยกับเด็กสักคนหนึ่ง แล้วได้เห็นประกายอะไรบางอย่างจากเด็กคนนั้น ที่แสดงออกว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังสื่อสารออกไป” –
คุณพิน-เกษมศิริ Co-Founder ของ CareerVisa
CareerVisa จึงเกิดขึ้นมาจากการรวมตัวของ Co-Founder 4 คน ได้แก่ คุณพิน-เกษมศิริ, คุณพลอย-วสุธร, คุณเม-ศศิพร และคุณเอ็ม-ธีรยา ซึ่งทุกคนล้วนมีงานประจำในบริษัทที่มั่นคง แต่ทุกคนมี Passion เดียวกันนั่นคือการทำธุรกิจเพื่อสังคม ที่เชื่อมชีวิตนักศึกษาสู่โลกการทำงานผ่านประสบการณ์จริง เพื่อให้ได้ทำงานที่ใช่ มี Passion และมีความสุขกับการทำงานอย่างแท้จริง โดย CareerVisa จะเข้ามาช่วยให้คำปรึกษากับน้อง ๆ นักศึกษา ให้เขารู้จักตัวเอง เข้าใจตัวเอง และรู้จักที่จะวาง Mindset ของชีวิตให้มีเป้าหมายมากขึ้น พัฒนาตัวเองได้ถูกทาง ไม่ต้องมัวหลงทางกับการทำงานที่ไม่ใช่ จนพลาดที่จะใช้ศักยภาพที่ตัวเองมี ทำให้ต้องเสียเวลาชีวิตไปแบบฟรีๆ โดยไม่เกิดประโยชน์กับใคร เพราะปัญหาเด็กไทยค้นหาตัวตนของตัวเองไม่เจอเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่สังคมควรต้องใส่ใจและร่วมกันหาทางออกอย่างจริงจัง
“ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เมื่อถามเด็กว่า จบแล้วจะทำงานอะไร คนประมาณ 80 คน จาก 100 คน บอกว่า ‘ไม่รู้’ คนส่วนหนึ่งอาจโชคดีที่รู้คำตอบ แต่เรื่องนี้ไม่สมควรจะเกี่ยวกับโชค เลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนเป็นอย่างนี้น้อยลง และมีส่วนช่วยให้เด็กมหาวิทยาลัยที่กำลังจะก้าวสู่โลกการทำงาน ให้เขาได้ทำงานที่ใช่และมีความสุขมากขึ้น”
คุณเม-ศศิพร Co-Founder ของ CareerVisa
“จากการสำรวจของ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) พบว่าเด็กจบใหม่มักตกงานหรือหางานทำได้ยาก เพราะนักศึกษาไม่ค้นพบตนเอง ไม่มีทักษะพื้นฐานติดตัว ไม่รู้ว่าอยากเรียนมาแล้วจะเอาไปทำอะไร และไม่มีเป้าหมายในอนาคต เมื่อเรียนจบและไปสมัครงานก็เลยหว่านใบสมัครแบบไม่รู้จุดหมาย”
ผลสำรวจนี้สะท้อนให้เห็นถึงการไม่รู้จักตัวตนของเด็กไทยได้เป็นอย่างดี แต่เพราะอะไรถึงทำให้การค้นหาตัวตนเป็นเรื่องยาก?
ทาง CareerVisa จะเข้ามาเติมเต็มในส่วนของคำแนะนำดีๆ การดึงศักยภาพที่เด็กๆ มีอยู่ในตัวออกมาต่อยอดและพัฒนาตัวเอง ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กค้นพบตัวเอง การจัดฝึกอบรมทักษะด้านต่างๆ เช่น การเขียนเรซูเม่ ทักษะการนำเสนอ ทักษะพื้นฐานอย่างการใช้โปรแกรม Microsoft Excel ฯลฯ เพื่อให้เด็กมีความรู้ติดตัว ไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง โดยทั้งหมดนี้เปิดให้เด็กเข้าร่วมฟรี
โดยทาง CareerVisa จะหารายได้จากสปอนเซอร์ซึ่งเป็นบริษัทต่างๆ ที่มีคอร์แวลูเดียวกัน คืออยากเตรียมพร้อมเด็กเข้าสู่โลกการทำงาน เช่น เว็บไซต์จัดหางานต่างๆ เป็นต้น จึงเกิดเป็นความร่วมมือที่ win-win โดยทำการคิดโปรเจคร่วมกัน แล้วแทรกแบรนด์ของบริษัทเข้าไปอยู่ในกิจกรรมต่างๆ ด้วย
หลายคนอาจมองว่าธุรกิจเพื่อสังคมมักขาดทุนและสุดท้ายก็ต้องปิดตัวไป แต่เพราะ CareerVisa เป็นการรวมตัวของคนที่มีทั้งดีกรี ประสบการณ์ และ Passion จึงใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยหลังดำเนินธุรกิจมาประมาณ 2 ปี รายได้ในปี 2558 เติบโตขึ้นจากปี 2557 ถึง 254% ขยายจากทีมเล็กๆ เพิ่มมามีสมาชิกรวม 7 คน ทั้งยังมีแผนการดำเนินงานที่จะเปิดคอร์สเทรนนิ่งสำหรับการพัฒนาตัวเองแบบเฉพาะทางเพิ่มขึ้น โดยจะเก็บค่าใช้จ่ายผู้เข้าเรียนในราคาที่เหมาะสมอีกด้วย
CareerVisa เชื่อว่าการตั้งเป้าหมายทางด้านอาชีพที่ชัดเจน ต้องอาศัยการได้ลองลงมือทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะอยู่ควบคู่ไปกับการศึกษาในห้องเรียน หากน้อง ๆ เข้าใจวิธีการวางแผนอาชีพ และรู้จักพัฒนาตนเองตั้งแต่ขณะเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย พวกเขาก็จะค้นพบเป้าหมาย และมุ่งมั่นพัฒนาตนเองเพื่อสร้างอนาคตที่ดีหลังเรียนจบ และกลายเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อสังคมได้ในที่สุด
นี่เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจดี ๆ ในการทำธุรกิจเพื่อสังคมแนวคิดใหม่ ที่ไม่ได้แค่หวังผลกำไรแต่ยังเน้นการแบ่งปันและสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ สู่สังคม เพราะการยิ่งให้คุณก็จะยิ่งได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ในรูปแบบของตัวเงินแต่ก็จะกลับมาในรูปแบบของความสุขใจและภูมิใจที่ได้มีส่วนในการสร้างสิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นได้ในสังคมของเรา
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…
บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…
อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…
ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…
พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…
ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…
This website uses cookies.
View Comments