ในยุคสังคมดิจิตอลแบบนี้ คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเว็บ Search Engine ยอดฮิตอย่าง Google ตัวช่วยชั้นเยี่ยมสำหรับการค้นหาข้อมูลต่างๆ ในโลกออนไลน์ จนเกิดเป็นวลีฮิตติดปากที่ว่า “คิดไม่ออก หาไม่เจอให้ไปถามอากู๋ (เกิ้ล)” และนั่นทำให้ผลประกอบการของ Google ในแต่ละปีนั้นสูงมากถึงระดับหลายหมื่นล้านบาท แต่สิ่งที่ดึงดูดให้คนทำงานทั้งหลายเทใจอยากเข้าทำงานที่นี่ใช่เพียงแค่ค่าตอบแทนที่สูงลิ่วและเพื่อนร่วมงานระดับหัวกะทิจากทั่วโลกเท่านั้น แต่เป็นเพราะสวัสดิการ สิ่งแวดล้อมในการทำงานและแนวคิด วิธีการทำงานแบบใหม่ที่แตกต่างไม่เหมือนใครของ Google ต่างหากที่ทำให้ที่นี่เป็นบริษัทในฝันที่ใครๆ ก็อยากทำงานด้วย
Passion Gen ได้ไปสืบมาแล้วว่าหากอยากทำงานที่นี่ คุณต้องมีศักยภาพด้านไหนถึงจะโดนใจ Google จนได้รับเลือก แต่ก่อนจะไปดูถึงข้อนั้น เราไปส่องออฟฟิศสุด Cool และสไตล์การทำงานที่ดึงดูดใจคนทำงานทั่วโลกกันก่อนดีกว่า
“ที่ Google จะคัดเลือกคนที่มีความเป็น Googliness หรือความเป็น Google เพราะฉะนั้น คนทำงานจึงมีแนวคิด และมีลักษณะการทำงานที่ไปในทิศทางเดียวกัน เอื้อต่อกัน คนทำงานมีความฉลาดและความเป็นมิตร ทำให้การทำงานคล่องตัว และส่วนสุดท้ายคือ วัฒนธรรมองค์กร ที่โฟกัสกับเรื่องการให้ความร่วมมือ (collaboration) และการสร้างงานที่มีอิมแพ็กต์ในสเกลใหญ่” – ผู้จัดการฝ่ายการตลาดด้านธุรกิจ Google ประเทศไทย
@Google ออฟฟิศ = พื้นที่ชีวิต
- เลี้ยงอาหารฟรีทุกมื้อ
ไอเดียดีๆ และความก้าวหน้าของงานในบริษัทจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าท้องหิว ที่นี่จึงมีอาหารฟรีให้กับพนักงานครบทั้ง 3 มื้อ พร้อมขนมหลากหลาย ซึ่งนอกจากเมนูที่อร่อยล้ำจากฝีมือเชฟระดับภัตตาคารแล้ว Google ยังใส่ใจสุขภาพของพนักงานเป็นที่สุด โดยมีเมนูออร์แกนิกพร้อมทั้งบอกระดับคุณประโยชน์ต่อสุขภาพของแต่ละเมนูด้วยฉลากสีแดง เหลืองเขียว เพื่อให้พนักงานได้วิเคราะห์และเลือกรับประทานกันอย่างมีสติอีกด้วย!
- เล้านจ์และสปอร์ตคลับในออฟฟิศ
หากใครรู้สึกเหนื่อยจากการทำงาน หรือหัวตื้อจนคิดงานไม่ออก ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะ Google เค้าจัดให้ไว้ทุกอย่างเพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายแบบสุดๆ ตั้งแต่โรงยิม ฟิตเนส สระว่ายน้ำและคอร์สโยคะ และไม่ใช่แค่นั้น เพราะยังมีพื้นที่ที่ออกแบบไว้อย่างสวยงามเทียบเท่าเล้านจ์ของโรงแรมหรู ให้พนักงานได้ทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มๆ จิบเครื่องดื่มที่โปรดปราน ทานขนมอร่อยๆ พูดคุย แชร์ไอเดีย แนวคิดใหม่ๆ กันในหมู่เพื่อนร่วมงาน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปทำงานต่อแบบผ่อนคลายสบายๆ อีกด้วย
- สนามเด็กเล่น
เพราะผลิตภัณฑ์ของ Google มีจุดขายที่ความคิดสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใครและใช้งานได้จริง ดังนั้นความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งช่วงวัยที่ ไอเดียจะกระฉูดแบบไร้ขอบเขตได้ดีที่สุดก็คือ วัยเด็ก บรรยากาศออฟฟิศของ Google ทั่วโลกจึงถูกดัดแปลงให้เหมือนสนามเด็กเล่น เพื่อช่วยให้พนักงานคลายเครียดด้วยการเล่นอย่างสนุกสนานแบบเด็กๆ บ้าง ใครจะรู้ล่ะว่า…ขณะที่สไลด์ตัวลงมาจากกระดานลื่น ฝ่ายการตลาดอาจสะดุดไอเดียพันล้านหรือเกิดแนวคิดใหม่ด้านการตลาดโดยบังเอิญก็เป็นได้!
- ห้องสำหรับงีบหลับ
เพราะมีงานวิจัยที่ระบุไว้ว่า การได้งีบหลับซัก 10-15 นาทีระหว่างการทำงาน จะช่วยชาร์จแบตเตอรี่ให้เซลล์สมองมีศักยภาพในทำงานได้ดียิ่งกว่าเดิม ที่ Google จึงมีแคปซูลสำหรับนอนพักผ่อน ให้พนักงานได้งีบหลับในช่วงทำงาน เพื่อจะได้ตื่นมาพร้อมแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่แสนจะบรรเจิดกว่าเดิม
นอกจากจะมีออฟฟิศสุด Cool แล้ว สวัสดิการที่ Google มีให้พนักงานยังจัดเต็มอีกด้วย เช่น ดูแลรักษาสุขภาพและทันตกรรมฟรี, ตัดผมฟรี, ซักแห้งฟรี, บริการรถไฮบริด, มีแพทย์ให้คำปรึกษาทางเว็บไซต์ และมีเงินชดเชยเมื่อเสียชีวิต
แนะนำบทความน่าอ่าน
- CAREERVISA บัตรผ่านสู่อาชีพที่ใช่ของเด็กไทย
- ออฟฟิศ FACEBOOK – เปลี่ยนสภาพแวดล้อมงานประจำเสมือนงานอิสระ
- สร้างโอกาสให้ทุกธุรกิจ กับ 5 แหล่งเงินทุนที่สนับสนุนสตาร์ทอัพ
- มาดูกลยุธท์ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจพิชิตเงินล้านไปกับ COCONUT4U
- เรืองโรจน์ พูนผล เจ้าพ่อสตาร์ทอัพ แบบอย่างผู้นำที่ไม่เคยลืมประเทศไทย
- เริ่มต้นทำธุรกิจ – ควรรู้เราก่อนรู้เขา
อยากทำงานที่ Google ต้องเก่งเรื่องอะไร
มาถึงตรงนี้ Passion Gen เชื่อว่าหลายคนคงอยากเข้าเป็นหนึ่งในพนักงานของ Google กันแล้วแน่ๆ ถ้าอยากเข้าทำงานที่นี่ 4 ศักยภาพที่คุณต้องมีก็คือ
- ความเป็นผู้นำ (Leadership)
Google ไม่ได้สนใจตำแหน่งที่ติดตัวมาจากที่ทำงานเก่าของคุณ เช่น ประธาน, ผู้จัดการ หรือหัวหน้า แต่สิ่งที่ Google มองหาคือ คนที่มองเห็นปัญหา พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลาและเรียนรู้ได้ไว นั่นคือเหตุผลที่ Google ความสนใจกับผู้สมัครที่มีความฉลาดแบบรอบรู้หรือแบบ General มากกว่าแบบ Specialist ซึ่งความเป็นผู้นำในที่นี้คือการมีทักษะและศักยภาพที่จะโน้มน้าวผู้คน การสร้างสายสัมพันธ์และสร้างอำนาจการต่อรองได้ ไม่ใช่แค่หัวโขนที่ไว้คุมลูกน้องเท่านั้นนะ
- ความรู้เกี่ยวกับเนื้องานที่จะเข้ามาทำ (Role-Related Knowledge)
แน่นอนว่าจะสมัครตำแหน่งไหน คุณต้องรู้จักทำการบ้านมาก่อน เนื้อหางานเป็นอย่างไร คุณมีความรู้ความสามารถและมีศักยภาพในการพัฒนาตัวเองมากแค่ไหนในสายงาน นอกจากนี้เนื่องจาก Google คือบริษัทแห่งเทคโนโลยี หากคุณสามารถโชว์ให้เห็นถึงความใฝ่รู้นอกห้องเรียนต่างๆ ที่ทันต่อยุคสมัย เช่น การลงคอร์สสัมมนาต่างๆ หรือเรียน E-Learning จากบริษัทชั้นนำเช่น Facebook Blueprint หรือ Google Garage ซึ่งนอกจากจะฟรีแล้วยังช่วยให้คุณได้ความรู้ใหม่ๆและอัพลุคให้ดูเป็นคนที่พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งอีกด้วย
- ความฉลาดและความว่องไวในการแก้ปัญหา (problem solving skill)
สิ่งที่ Google ต้องการคือ คนที่ฉลาด มีไหวพริบ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่งด้วยแนวคิดใหม่ๆ และกระหายที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นในการสัมภาษณ์จึงมักมีคำถามที่สามารถวัดผลได้ว่าคุณคือคนที่ Google ต้องการหรือไม่ ซึ่งขอบอกเลยว่าบางคำถามไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ เช่น หมอจ่ายยา 2 ชนิดให้คุณอย่างละ 2 เม็ด ทุกเม็ดหน้าตาเหมือนกันหมดจนไม่สามารถบอกได้ว่าอันไหนเป็นอันไหน คุณต้องกินยาชนิดละ 1 เม็ด ในตอนเช้าและตอนเย็น ถ้าคุณกินผิดหรือไม่ยอมกินเม็ดใดเม็ดหนึ่ง คุณจะตายทันที ถามว่าคุณควรทำอย่างไรเพื่อให้มีชีวิตรอด? หรือ คุณสร้างบ้านหลังหนึ่ง กำแพงทุกด้านของบ้านหันไปทางทิศใต้ ทันใดนั้นเองมีหมีตัวหนึ่งเดินผ่าน ถามว่าหมีตัวนั้นมีสีอะไร? เป็นต้น (ค่อยๆ คิดไม่ต้องรีบ อ่านต่อไปให้จบก่อนก็ได้ แล้วเราจะมีเฉลยตอนท้ายไว้ให้คุณ!
- ความเป็น Google หรือ Googliness
นิยามของความเป็น Googliness นั้นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่หลักๆ แล้ว Google จะมองถึง Passion ที่คุณมีต่อสามารถเชื่อมโยงกับการทำงานใน Google ได้มากน้อยแค่ไหน คุณมีความสามารถในการทำงานในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนได้มั้ย ความมุ่งมั่นพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง การรู้จักคิดนอกกรอบและการปรับเปลี่ยนนวัตกรรมได้อย่างพลิกผัน นั่นคือสิ่งที่ต้องมีใน Googliness
คนที่จะเรียกว่าเป็นแบบอย่าง หรือเป็นผู้นำคนได้ ต้องรู้จักสร้างคนที่เก่งกว่า” แนวคิดผู้นำที่ดี ธนินท์ เจียรวนนท์
แนวคิดผู้นำ เพื่อความสำเร็จ
ได้รู้จักกับ 4 ศักยภาพที่ต้องมีหากอยากทำงานที่ Google ไปแล้ว หากข้อไหนที่คุณมีอยู่แล้วก็ขอให้มุ่งมั่นพัฒนาต่อไป แต่ถ้าข้อไหนยังขาดก็ให้รีบเติมเต็มซะ ลงมือทำตั้งแต่วันนี้พัฒนาตัวเองให้เต็มศักยภาพที่คุณมี Passion Gen เชื่อว่าถึงแม้คุณจะไม่ใช่สายเทคโนโลยีจ๋า หรือ Google อาจไม่ใช่บริษัทในฝันที่คุณต้องการแต่ทักษะต่างๆ เหล่านี้หากคุณมีอยู่ในตัว ไม่ว่าคุณจะทำงานสายไหน อาชีพอะไร รับรองได้ว่าคุณจะเป็นผู้สมัครคุณภาพที่บริษัทส่วนใหญ่ต้องการจะร่วมงานด้วยอย่างแน่นอน!