U Drink I Drive – สตาร์ทอัพตอบโจทย์คนเมือง โดยปรางค์-ศรีกาญจนา

4 / 5 ( 4 votes )

หากพูดถึงลูกสาวคนโตของตระกูลศรีกาญจนา สิ่งที่ทุกคนนึกถึงคงเป็นหญิงสาวร่างเล็กหน้าตาน่ารักที่มีรอยยิ้มอันสดใสเพียบพร้อมไปด้วยคุณลักษณะของคุณหนูไฮโซที่ดูแล้วน่าจะเกิดมาเพื่อสืบทอดกิจการอันมั่นคงของครอบครัวเท่านั้นแต่ใครจะรู้บ้างว่านักธุรกิจสาววัย 28 ปี อย่างปรางค์-อภินรา มีมุมมองและแนวคิดใหม่ๆ ในการต่อยอดธุรกิจเดิมของครอบครัวอย่างธุรกิจประกันภัยไปสู่การเป็นหนึ่งในเจ้าของธุรกิจสตาร์ทอัพรูปแบบใหม่อย่าง U Drink I Drive ได้อย่างลงตัว Passiongen อยากชวนให้คุณได้ทำความรู้จักกับสาวสวยคนเก่งที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาแต่ยังเต็มไปด้วย Passion ในสิ่งที่เธอทำด้วยความฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ดีและปลอดภัย

วัยเรียน-ท้าทายตัวเอง ด้วยความคิดนอกกรอบ

ย้อนไปในวัย 18 ปี หลังจบชั้นมัธยมศึกษา ปรางค์-อภินรา เลือกไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยวาเซดะประเทศญี่ปุ่นทั้งๆ ที่เธอไม่มีพื้นฐานด้านภาษาญี่ปุ่นเลยแต่ด้วยความกล้าบ้าบิ่นอยากจะใช้ภาษาเปิดโลกกว้างเลยปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ว่าอยากไปเรียนที่ญี่ปุ่นซึ่งเธอโชคดีมากที่คุณพ่อคุณแม่ของเธอให้การสนับสนุนและไม่เคยปิดโอกาสเธอด้วยคำว่าเป็นไปไม่ได้ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของเธอกับการก้าวออกไปจาก Comfort Zone แล้วไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในที่ที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้พูดก็ไม่ได้การไปเรียนที่ญี่ปุ่นทำให้ปรางค์ต้องปรับตัวและเรียนรู้อะไรหลายอย่างที่สำคัญคือการฝึกให้เธอรู้จักดูแลตัวเองเป็นครั้งแรกหลังจากที่เติบโตมาในครอบครัวที่ปกป้องดูแลเธอราวกับไข่ในหินมาโดยตลอด

“ไปวันแรกสอบตกเพราะเขียนไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว แต่เราคิดว่ายังไงก็ไม่กลับจะต้องรอดให้ได้บอกตัวเองอย่างเดียวว่าห้ามถอดใจการได้คะแนน 0 เต็ม 100 ถ้ามองโลกในแง่ดีว่าเราโชคดีกว่าคนอื่นในห้องนะเพราะกว่า 0 จะไปถึง 100 ปรางค์มีพื้นที่ในสมองที่จะได้เรียนรู้เยอะมากไม่เหมือนคนที่สอบได้ 80-90 แล้ว มีพื้นที่ให้เรียนรู้อีกนิดเดียวดังนั้นเราจะมี Growth opportunity สูงกว่าคนอื่น”

แนะนำบทความน่าอ่าน

เรียนรู้ธุรกิจของครอบครัว

หลังจากเรียนจบปริญญาตรีจากญี่ปุ่น ปรางค์ตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโทด้านมนุษยศาสตร์และสังคมที่ London School Of Economic & Political ที่อังกฤษ จากนั้นจึงกลับมาหางานที่เมืองไทยโดยเลือกที่จะทำงานในบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจของครอบครัวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อน 1 ปี จากนั้นเธอจึงเข้ามารับหน้าที่รองประธานสายงานฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว

โจทย์แรกที่คุณพ่อของเธอมอบให้เธอต้องคิดต่อคือจะทำอย่างไรให้ประกันไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่อซึ่งปรางค์มองว่าก่อนอื่นต้องทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาที่จับต้องได้ขณะเดียวกันก็ต้องอาศัยรูปแบบการสื่อสารที่เข้าถึงพร้อมชูจุดแข็งของเราในเรื่องบริการมาเป็นอาวุธและจากแนวคิดแบบใหม่นี้เองที่นำไปสู่การออกผลิตภัณฑ์ประกันใหม่ ๆ ของบริษัท Micro-insurance ที่เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นในราคาไม่ถึง 2,000 บาท หลายปีที่ปรางค์ได้ทำงานกับคุณพ่อถือเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าเธอได้ซึมซับบทเรียนในการทำธุรกิจเพื่อนำมาปรับใช้กับชีวิตมากมาย

“เวลาทำธุรกิจคุณพ่อท่านไม่เคยยกเรื่องเงินขึ้นมาพูดเพราะคุณพ่อบอกเสมอว่าความสำเร็จที่สำคัญที่สุดของคนเราคือความสำเร็จของครอบครัวถ้าครอบครัวไม่มีความสุข ต่อให้หาเงินได้มากเท่าไหร่ก็ไม่มีความหมายอะไรเลยนอกจากนี้คุณพ่อยังสอนว่าการเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้วัดที่ความละเอียดเรื่องตัวเลขหรือมีวิสัยทัศน์ที่ดีเท่านั้นแต่ต้องใส่ใจรายละเอียดของลูกน้องด้วย”

อ้างอิงภาพจาก: Sanook.com

ก้าวใหม่กับธุรกิจสตาร์ทอัพแนวคิดใหม่ U Drink I Drive

หนึ่งในฝันของปรางค์-อภินราคือ การได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่สร้างด้วยตัวเองและด้วย Passion ที่มีความมุ่งหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าอยากจะปกป้องชีวิตคน อันถือเป็นทรัพยากรล้ำค่าที่สุดในสังคม ดังนั้นเมื่อปรางค์ได้มีโอกาสพบกับหนึ่งในหุ้นส่วนของ U Drink I Drive ที่มารอพบคุณลุงของเธอที่บริษัทเพื่อหารือเกี่ยวกับรูปแบบประกันที่จะตอบโจทย์กับบริการของสตาร์ทอัพโดยบังเอิญเธอจึงได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันซึ่งเมื่อได้คุยไอเดียกับคนที่ทำจริงๆ เธอยิ่งรู้สึกสนใจและมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ซ่อนอยู่เธอมองว่าธุรกิจนี้เป็นประกันภัยแห่งอนาคต

“เราควรจะมีผลิตภัณฑ์ประกันเพื่อป้องกันคนจากอุบัติเหตุไม่ใช่รอให้เกิดอุบัติเหตุก่อนแล้วค่อยเข้าไปดูแลแล้วคิดจะซื้อประกันเพราะจากสถิติ 80% ของคนไทยเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุในจำนวนนี้อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเมาแล้วขับดังนั้นบริการนี้คือการเปลี่ยนวิธีคิดการใช้ชีวิตของคนให้ปลอดภัยมากขึ้น”

เธอจึงเข้าร่วมทุนเพื่อปลุกปั้นแจ้งเกิดธุรกิจ U Drink I Drive สตาร์ทอัพแนวคิดใหม่ที่ขออาสาส่งพลขับทำหน้าที่ขับรถพาเหล่านักท่องเที่ยวยามราตรีที่มักดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำทั้งหลายกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพทั้งเจ้าของรถและรถ ซึ่งบริการนี้ไม่เพียงปกป้องชีวิตของลูกค้าที่ใช้บริการเท่านั้นแต่ยังสามารถปกป้องใครหลายคนที่อาจโดนคร่าชีวิตจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับ ดังที่ปรากฏเป็นข่าวมากมายผ่านสื่อต่าง ๆอีกด้วย

ซึ่งในช่วงที่เธอตัดสินใจเข้ามาเป็นช่วงที่หุ้นส่วนเดิมของ U Drink I Drive เริ่มถอนตัว บริษัทเหลือเงินไม่กี่พันบาทแต่สัญชาตญาณของเธอบอกว่าไอเดียนี้เวิร์ก! ดังนั้นแค่ 2 สัปดาห์หลังจากที่เจอกับทีมผู้บริหาร U Drink I Drive เธอก็ตัดสินใจนำเงินเก็บส่วนตัวที่มีมาลงทุนโดยไม่รบกวนคุณพ่อคุณแม่และทุ่มเทอย่างเต็มที่กับการพลิกฟื้นธุรกิจสตาร์ทอัพตัวนี้ให้เติบโตและเธอก็พลิกได้จริง ๆ จากยอดการใช้บริการที่เคยอยู่ที่ 13 เที่ยวต่อเดือนกลายเป็น 2,500 เที่ยวต่อเดือนและมีแนวโน้มสดใสขึ้นเรื่อย ๆ จากเดิมที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเจ้าของรถทั่วไปแต่ตอนนี้มีถึงรถระดับซูเปอร์คาร์ มีทั้งลัมโบร์กินีและเฟอร์รารีซึ่งนั่นหมายถึงหลายคนเริ่มมองเห็นว่า ธุรกิจคนขับรถเช่นนี้เป็นทางเลือกเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนรอบข้าง

ปรางค์บอกว่าทุกสิ่งที่เธอทำวันนี้อาจเป็นแค่สตาร์ทอัพเล็ก ๆ ที่ยังต้องใช้เวลาในการเติบโตสิ่งที่ทำไม่ใช่แค่เรื่องตัวเงินแล้วแต่มันคือความสุขทางใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสังคมดูแลลูกค้าที่มีคนที่รักรอเขากลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยทุก ๆ ครั้งที่มีคนบอกเธอว่า

“แม่ขอบคุณมากเลยนะคะที่มาส่งลูกแม่เมื่อคืนแม่มีลูกชายคนเดียวอายุ 18 ถ้าไม่มาส่งลูกแม่เกิดอะไรขึ้นมาแม่ก็ไม่รู้จะอยู่ได้ไหม” หรือมีผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาบอกว่าสามีทำงานบริษัทญี่ปุ่นและเอนเตอร์เทนลูกค้าหนักมากแล้วเธอเพิ่งมีลูกและไม่เคยนอนหลับเต็มตาได้สักคืนจนกระทั่งมีธุรกิจ U Drink I Drive ทำให้เธอหลับได้ เพราะรู้ว่าสามีจะปลอดภัย ปรางค์บอกว่าคำพูดเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้เธอมีกำลังใจตื่นมาทำงานในทุก ๆ วัน

“ถ้าวันนั้นเราไม่ได้เอาเงินมาลงทุนตรงนี้เงินที่เราเก็บไว้ก็คงจะหมดไปโดยที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตใครเลย”

แนวคิดผู้นำ เพื่อความสำเร็จ

ความสำเร็จที่สำคัญที่สุดของคนเราคือความสำเร็จของครอบครัวถ้าครอบครัวไม่มีความสุข ต่อให้หาเงินได้มากเท่าไหร่ก็ไม่มีความหมายอะไรเลย

Passiontik

Recent Posts

Young SME หลักสูตรสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ชู Soft Power เสริมสร้างธุรกิจยั่งยืน

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…

6 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดธุรกิจยุคใหม่ กับ มุมมองด้านความยั่งยืน

บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…

9 months ago

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล “ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี” จากงาน DG Awards 2023

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…

10 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์แบรนด์ สไตล์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…

10 months ago

พิธีปิดการอบรมหลักสูตร SML รุ่นที่ 4 ปี2566

พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…

1 year ago

เมื่อสูงวัยต้องไปทำฟัน

ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…

1 year ago

This website uses cookies.