หากถามถึงเหตุผลที่ใครสักคนเลือกที่จะใช้พิจารณาในการเข้าทำงานแน่นอนว่าคำตอบแรกๆ ที่มักจะได้กลับมาก็คือเงินเดือน สวัสดิการและโบนัส แต่ที่จริงแล้วยังมีอีกหลายสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ค่าตอบแทนนั่นก็คือวัฒนธรรมองค์กรความก้าวหน้าในบริษัทโอกาสในการได้ใช้และพัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่แต่กว่าที่ผู้สมัครจะได้รู้ถึงสิ่งเหล่านี้ก็ในวันที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรแล้วดังนั้นหากองค์กรไหนที่ค่าตอบแทนไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงจนติดเพดานแต่กลับเป็นบริษัทที่เหล่า Gen Y ทั้งหลายกลับเทใจอยากเขาทำงานด้วยเป็นอันดับแรกๆ ของประเทศอย่าง ปตท.และ SCG แสดงว่าสองบริษัทนี้ต้องมีของดีซ่อนอยู่อย่างแน่นอน
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักบริษัทปิโตรเลียมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง ปตท.ที่เปิดทำการมานานเกือบ 40ปี ด้วยเป็นธุรกิจด้านพลังงานและปิโตรเคมีที่ความต้องการไม่เคยลดลงมีแต่จะเพิ่มขึ้นผลกำไรจึงมหาศาลทำให้ ปตท. เป็นบริษัทที่โดดเด่นทั้งด้านความมั่นคงค่าตอบแทนและการยอมทุ่มงบไปกับการพัฒนาศักยภาพของบุคคลในองค์กรอย่างไม่หยุดยั้ง
ปตท. สร้างคนด้วยค่านิยมองค์กร “SPIRIT” โดย S-Synergy = การมีพลังร่วม
ซึ่งนอกจากมีค่านิยมเป็นตัวหล่อหลอมแล้วการอยู่ร่วมกันแบบพี่น้องเปิดใจยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างทำให้ไม่มีปัญหาระหว่างคนต่าง Gen โดยทางพนักงานรุ่นพี่จะเเป็นพี่เลี้ยงค้นหาศักยภาพและจุดแข็งของ Gen Y แล้วกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาตัวเองเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้ยั่งยืนในวันที่ต้องส่งต่อการทำงานให้ Generation ใหม่
จากผลสำรวจในปี 2561 ของ บริษัทจัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด พบว่ากลุ่มผู้หางานต่างโหวตให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT บริษัทพลังงานแห่งชาติเป็นองค์กรที่ผู้หางานอยากร่วมงานมากที่สุดตามมาด้วย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ซึ่งเป็นบริษัทที่ทราบกันดีว่านอกจากจะมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์แล้วยังให้ความสำคัญกับคุณค่าพนักงานอีกด้วย โดยทั้งสององค์กรที่ครองใจผู้หางานต่างก็เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงสูงในประเทศไทย
สำหรับ “คนเก่ง” นั้นนอกจากโบนัสประจำปีแล้วยังมีในส่วนของพนักงานดีเด่นหรือ Talent ซึ่งจะถูกคัดเลือกขึ้นมาตามลำดับโดยดูจากเกณฑ์ของผลงานและพฤติกรรมโดยมีรางวัลตอบแทนและงานเลี้ยงชื่นชมเพื่อให้พนักงานเกิดความภูมิใจในการพัฒนาตัวเองนอกจากนี้ยังสนับสนุนในเรื่องการดูงาน การฝึกงาน การได้รับทุนไปต่างประเทศและอีกมากมาย
ส่วนการเป็น “คนดี” เวลาพี่สอนงานน้องคำแรกที่ต้องบอกคือความซื่อสัตย์สุจริตเริ่มหล่อหลอมตั้งแต่วันแรกให้รุ่นน้องทำในสิ่งที่ถูกต้องเมื่อตัวตนของพนักงานเป็นแบบนั้นการไปติดต่อกับใครหรือองค์กรใดๆ ก็จะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของตัวพนักงานซึ่งช่วยในการสร้างความเชื่อมั่นและสะท้อนกลับมาที่ธุรกิจหรือองค์กรเช่นกัน
การพัฒนาศักยภาพของพนักงานทำได้หลายแบบเช่นการเทรนนิ่งเพิ่มความรู้การส่งไปดูงาน ฯลฯ สำหรับ ปตท.สิ่งสำคัญคือ People inspire people ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในองค์กรต้องการและนำไปสู่กิจกรรมต่างๆ ภายใต้ค่านิยมขององค์กรนั่นคือ SPIRIT ซึ่งทุกครั้งที่ทำกิจกรรมหรือพัฒนาบุคคลให้มีความก้าวหน้าในบริษัทจะต้องมุ่งไปสู่แนวทางนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการสร้างขีดความสามารถของคนเพราะถ้ามีแต่ ความตั้งใจ (will) แล้ว แต่ไม่มีความสามารถไม่มีทักษะ (skill) ก็ไปไม่ถึงดวงดาวซึ่งคอนเซ็ปต์นี้จะสะท้อนอยู่ในรูปแบบการพัฒนาคนของปตท.ทั้งระบบ
“อีกเรืองคือผมจะห้ามเลยนะทุ่มสองทุ่มแล้วยังเจอพนักงานเด็กๆ รุ่นใหม่มานั่งทำงานกันเต็มตึกไปหมดดึกขนาดนี้แล้วมันเป็นเวลาที่คุณควรได้ไปพักผ่อนไปอยู่กับแฟนครอบครัวทานข้าวดูหนังฟังเพลงพวกคุณไม่ควรต้องอยู่ทำงานที่นี่ในเวลานี้ซึ่ง ปตท ก็ไม่ควรต้องมาจ่ายค่าไฟฟ้าด้วย ปตท จ่ายค่าตอบแทนคุณแค่ 5-6 โมงเย็นคุณมาทำอะไรให้ผมตั้งทุ่มสองทุ่มเราต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานกันใหม่ผมไม่ชอบ Work Hard นะผมชอบ Work Smart ผมอยากให้พวกเราเติมเต็มครอบครัวของคุณเพราะเมื่อไหร่ที่ครอบครัวคุณแข็งแรงครอบครัว ปตท ของเราก็แข็งแรง”
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต CEO ปตท
บริษัทปูนใหญ่หรือกลุ่มบริษัทเครือซีเมนต์ไทยเป็นองค์กรเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองไทยมาถึง 105 ปี แล้วจัดว่าเป็นบริษัทเก่าแต่แนวคิดไม่แก่เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น “องค์กรแห่งนวัตกรรม” ที่มุ่งมั่นทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบุคคลในองค์กรไปพร้อมๆ กันจึงไม่น่าแปลกใจที่ Gen Y ทั้งหลายอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน SCG เพราะที่นี่มีทั้งความมั่นคงสูงค่าตอบแทนที่ดีทุนส่งเสริมการเรียนต่อที่มากมายและเปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่ได้พัฒนาศักยภาพที่มีอย่างเต็มที่แบบไม่มีกั๊กอีกด้วย
โดย SCG จะยึดถืออุดมการณ์ 4 ประการที่หล่อหลอมความเป็น SCG People จากรุ่นสู่รุ่นได้แก่ตั้งมั่นในความเป็นธรรมมุ่งมั่นในความเป็นเลิศเชื่อมั่นในคุณค่าของคนและถือมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม
SCG เชื่อว่า “พนักงานเป็นทรัพยากรอันมีค่าที่สุด” จึงเลือกเฟ้นคนดีและคนเก่งเข้ามาทำงานและดูแลพัฒนาบุคคลในองค์กรอย่างต่อเนื่องและดูแลพนักงานเสมือนคนในครอบครัวเดียวกันวัฒนธรรมการทำงานแบบพี่น้องเน้นบรรยากาศการทำงานเป็นทีมโดยใช้วิธีการหล่อหลอมพฤติกรรมการทำงานจากรุ่นพี่ระบบพี่เลี้ยง (MENTORING SYSTEM) กำหนดให้พนักงานรุ่นพี่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้วิธีการทำงานและวัฒนธรรมองค์กรให้กับน้องใหม่ เพื่อให้สามารถปรับตัวและทำงานได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ
ด้วยวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน SCG จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนเป็นอย่างยิ่งบริษัทมีการสนับสนุนให้พนักงานศึกษาต่อเพื่อพัฒนาศักยภาพและความรู้ของตัวเองได้ถึงระดับปริญญาเอกทั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศและต่างประเทศโดยมีการชำระค่าธรรมเนียมการศึกษาและให้ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นระหว่างที่กำลังศึกษาต่อตลอดจนค่าครองชีพสำหรับพนักงานที่มีการศึกษาต่อต่างประเทศอีกด้วย
สิ่งสำคัญที่พนักงาน SCG ทุกคนต้องมีคือ Open การเปิดใจตั้งใจรับฟัง ให้เกียรติ ใฝ่รู้ ร่วมมือและสร้างเครือข่ายการทำงานกล้ายอมรับข้อผิดพลาดของตนและ Challenge คือการไม่ยึดติดกับความสำเร็จ กล้าคิด นอกกรอบ ท้าทายตนเองเพื่อสิ่งที่ดีกว่าเดิมอยู่เสมอ กล้าถาม กล้าแสดงความคิดเห็น บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงพนักงานของ SCG ต้องคอยพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาและพยายามปรับตัวเองให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ด้วยการเปิดใจและเข้าใจเพื่อลดความขัดแย้งทางความคิดและช่วงวัยและหากทำได้อย่างสมบูรณ์โอกาสก้าวหน้าในบริษัทก็จะยิ่งสูง
“สิ่งที่องค์กรต้องทำคือการปรับตัวไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำงานปรับวัฒนธรรมองค์กรบางอย่างให้เหมาะสมระบบบังคับบัญชาที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปมุ่งเน้นการเป็นที่ปรึกษาหรือโค้ชมากกว่าชี้นิ้วสั่งรวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือในการทำงานและปรับกฎระเบียบให้ยืดหยุ่นและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของ Gen Y มากขึ้น”
คุณกิติ มาดิลกโกวิท ผู้อำนวยการสำนักงานการบุคคลกลาง SCG
ได้รู้จักทั้งสององค์กรในฝันของ Gen Y กันมากยิ่งขึ้นแล้วไม่แปลกใจเลยใช่มั้ยว่าทำไมทั้งคู่ถึงติดอันดับบริษัทในดวงใจของคนหางานมาหลายปีซ้อน เพราะสิ่งที่ทั้ง SCG และ ปตท. ตอบแทนให้กับพนักงานนั้นไม่ใช่แค่ตัวเงินแต่คือการให้คุณค่าในตัวพนักงานเพราะสุดท้ายแล้วคนทำงานทุกคนต่างปฏิเสธไม่ได้ว่า “งานที่ใช่ก็คืองานที่เห็นคุณค่าของคน” การสร้างให้พนักงานรู้สึกถึงคุณค่าจะส่งผ่านมาทางค่าตอบแทนที่เหมาะสมสวัสดิการที่ดี การสนับสนุนให้พนักงานมีศักยภาพและโอกาสก้าวหน้าในบริษัทสิ่งเหล่านี้นี่เองคือจุดแข็งที่ทำให้สององค์กรยักษ์ใหญ่อย่าง SCG และ ปตท. ครองใจ Gen Y และคนหางานได้อย่างเหนียวแน่นชนิดที่ไม่มีใครโค่นลงได้ง่ายๆ
หากคุณเป็นเจ้าของกิจการไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กขนาดกลางหรือขนาดใหญ่สามารถนำแนวคิดเหล่านี้ไปใช้เพื่อเตรียมรับมือกับพนักงาน Generation ใหม่ได้ดังนี้
เพียงเท่านี้ปัญหาการ Turn Over หรือการร่วมงานกับพนักงานใน Generation ใหม่ๆ ภายในบริษัทของคุณก็จะหมดไปแถมยังเปิดโอกาสให้บริษัทได้พนักงานคุณภาพคับแก้วที่จะมาช่วยให้บริษัทเติบโตก้าวหน้าได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…
บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…
อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…
ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…
พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…
ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…
This website uses cookies.