ชาตรามือแนะ! เปิดร้านชากาแฟให้ปัง – ด้วย Hastag ได้อย่างไร

Hastag “#ชากุหลาบตรามือ” เกิดกระแสขึ้นมาในทวิตเตอร์ตั้งแต่ช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาจนตอนนี้แม้จะล่วงมาหลายเดือนแล้ว กระแสก็ยังคงดีอยู่และมีแนวโน้มว่าความสนใจแพร่กระจายไปยังโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ด้วย ว้าว! ดอกกุหลาบดอกนี้มีอะไรพิเศษขนาดนั้นนะ

เปิดร้านชาให้ “ปัง” ต้องรู้จักสร้าง “ปรากฏการณ์”

เชื่อเหลือเกินว่า เราแทบทุกคนจะต้องรู้จัก “ชาตรามือ” ต้องบอกว่าบางคนได้ลิ้มรสมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว นี่คือแบรนด์ “Thai Tea” หรือชาไทยที่เก่าแก่มากแบรนด์หนึ่งของเรา โดยทั่วไปแล้วเราคงจะได้ลิ้มรส “ชาตรามือ” กันตามร้านขายกาแฟโบราณต่าง ๆ จริง ๆ แล้ว แบรนด์ “ชาตรามือ” แทบจะเงียบหายไปในในกระแสสังคมไทยไปแล้ว เรียกว่าคนรู้จักกันทั่ว แต่ก็ไม่มีการลงทุนทำอะไรโดดเด่นพอที่จะทำให้ดังเปรี้ยง แต่แล้วอยู่ ๆ “ชาตรามือ” ก็กลายเป็น Talk of the Town ถึงขนาดมี Hashtag #ชากุหลาบตรามือ แชร์กันไปทั่วโลกโซเชียล

สุดยอดการตลาด ชาตรามือ

1. ชากุหลาบจุดกระแสฟีเวอร์
2. ต่อยอดด้วยไอศกรีม และชาไข่มุก
3. ปรับภาพลักษณ์ให้เข้ากับยุคสมัย
4. สินค้าบางชนิดมีขายเพียงไม่กี่สาขา
5. กระแสการบอกต่อบนโลกออนไลน์

อ้างอิงข้อมูล : สุดยอดการตลาด ชาตรามือ

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเพราะเธอผู้นี้อยู่เบื้องหลัง คุณพราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช ผู้บริหารแบรนด์ชาตรามือรุ่นที่ 2 ที่ผุดไอเดียลงทุนทำ “ชากุหลาบ” ขึ้นมาหลายคนอาจจะไม่ทราบว่าแบรนด์ชาตรามือนี้ไม่ได้จำหน่ายแค่ผลิตภัณฑ์และทำธุรกิจเฉพาะชาตรามือเท่านั้น ด้วยคุณพราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดว่า “ชาที่ดี ต้องดีที่ชา ไม่ได้ดีที่คนชงอย่างเดียว” จึงลงทุนทำและพัฒนาแบรนด์ของตนเองออกมาในรูปแบบใหม่ คือ เปิดร้านชาโดยลงทุนทำแบรนด์ของตนเองก็แนวคิดเดียวกันกับไอเดียธุรกิจเปิดร้านกาแฟหรือการทำธุรกิจส่วนตัวเปิดร้านชา แต่นี่คือ การเปิดร้านชาซึ่งแน่นอนว่าทุกวันนี้ร้านเครื่องดื่มชากาแฟมีอยู่เกลื่อน จะดังและได้รับความนิยมคงไม่ใช่เรื่องง่าย ใครที่กำลังหาธุรกิจเล็ก ๆทําอย่างการเปิดร้านชาหรือการเปิดร้านขายกาแฟก็คงจะคิดเช่นนี้ เพราะคู่แข่งเยอะมากจึงทำให้ไม่กล้าลงทุนทำไม่กล้าเริ่มต้นทำธุรกิจหรือสร้างธุรกิจใหม่

แต่สำหรับคุณพราวนรินทร์เธอใช้องค์ประกอบหลาย ๆ อย่างทั้งความเชื่อมั่นเดิมต่อแบรนด์สินค้า คุณภาพสินค้าที่เป็นที่ยอมรับผสานไอเดียธุรกิจเก๋ ๆ ลงทุนทำที่แปลกใหม่ และอาศัยช่วงจังหวะที่เหมาะเจาะที่จะนำเสนอต่อผู้บริโภคจึงทำให้เธอสามารถสร้าง “ปรากฏการณ์” Hashtag “#ชากุหลาบตรามือ” ขึ้นมาได้ดังนั้นหากคุณต้องการเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจที่แสนจะธรรมดาให้กลายเป็นการลงทุนธุรกิจรายได้ดี คุณต้องรู้จักที่จะสร้าง “ปรากฏการณ์” ให้เกิดขึ้นกับแบรนด์ร้าน หรือธุรกิจส่วนตัวของคุณ

คลิกเลย! แนะนำบทความน่าอ่าน

• เนม ปราการ ไรวา กับ 2 บทบาท – นักร้องและทายาทธุรกิจ S&P
• After You จากความหลงใหล – สู่คาเฟ่ที่ทุกคนรู้จัก
• ต๊อบ เถ้าแก่น้อย จากเด็กติดเกม – สู่เจ้าของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
• ล้มแล้วลุก – หัวใจของนักธุรกิจที่ดี
• ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ – ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

จับ “เทรนด์สังคม” มาสร้างปรากฏการณ์

อาศัยช่วงจังหวะที่เหมาะเจาะที่จะนำเสนอต่อผู้บริโภคจึงทำให้เธอสามารถสร้าง “ปรากฏการณ์” Hashtag #ชากุหลาบตรามือ ขึ้นมาได้

การเปิดร้านชาและการเปิดร้านขายกาแฟนับเป็นธุรกิจส่วนตัวที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังต้องการลงทุนทำแต่ทว่าการจะเปิดร้านชาภายใต้แบรนด์ของตนเองให้เกิดกระแสฮิตและพูดถึงเหมือนชาตรามือนั้นใช่ว่าจะทำได้เสมอไป หลายคนอาจจะคิดว่ากระแสชากุหลาบตรามือที่เกิดขึ้นนั้น คงเป็นเพียง Viral Marketing คือการลงทุนทำและสร้างกระแสให้เกิดขึ้นโดยใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ทางการตลาด บางคนอาจจะคิดด้วยว่ามีการจ้างปั่นกระแส แต่แท้ที่จริงแล้วกระแสที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นเพราะการลงทุนทำตัวผลิตภัณฑ์ + การลงทุนทำ packaging ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้ต่างหาก ด้วยคุณพราวนรินทร์เข้าใจและเข้าถึงเทรนด์ของโลก รู้ว่าผู้บริโภคและคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันกำลังสนใจสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย อาหารเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพกำลังได้รับความนิยม เธอจึงผสานไอเดียธุรกิจทันสมัยและคลาสสิกแบบดั้งเดิม ลงทุนทำออกมาเป็นชากุหลาบที่ดื่มแล้วช่วยระบายขับถ่ายได้ดี อีกทั้งรูปลักษณ์ของ packaging ที่ลงทุนทำแก้วที่ใส่ให้ออกแบบมาสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์และช่วงจังหวะเทศกาลวาเลนไทน์พอดี จึงทำให้เกิดกระแสความนิยม

การค้าในยุคนี้ต้องนำผู้บริโภคมาเป็นศูนย์กลาง ถ้าเข้าใจผู้บริโภคคุณก็จะออกแบบไอเดียธุรกิจลงทุนทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการออกมาได้ หากวันนี้คุณกำลังจะเปิดร้านชากาแฟเป็นธุรกิจของตัวเอง ลองดึงเอาเทรนด์ที่น่าสนใจใส่ไอเดียเก๋ ๆ ลงไปสิ แล้วร้านของคุณจะปังและกลายเป็นธุรกิจทำเงินแบบไม่รู้ตัวเลย

แนวคิดผู้นำเพื่อความสำเร็จ

• คุณภาพต้องดีจริง และต้องมีการรักษามาตรฐานรวมถึงการพัฒนาอยู่เสมอ
• แปลกใหม่และแตกต่างไม่จำเป็นต้องคิดใหม่ทั้งหมดอาจใช้วิธี Brand Revitalization คือ นำแบรนด์เก่ามาต่อ
• อดใหม่ใส่ไอเดียเก๋ ๆ ลงไปก็เกิดความแตกต่างและเป็นที่ยอมรับได้
• เข้าใจความต้องการของผู้บริโภค และรู้จักปรับตัวไปตามเทรนด์
• รู้จักเลือกจังหวะและช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำและนำเสนอต่อผู้บริโภค