ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่รัฐบาลไทยเข้าใจโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงเมื่อผู้นำมีความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงก็จะสามารถนำพาประเทศเข้าสู่ยุค 4.0 ได้หากสามารถทำได้จะเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าประเทศไทยเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ก็ถือว่าไม่ช้าจนเกินไปเพราะประเทศไทยยังอยู่ในเส้นทางการแข่งขันยังไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบและประเทศไทยเองสามารถนำคนเก่งจากต่างประเทศเข้ามาช่วยขับเคลื่อนได้แต่ต้องขึ้นอยู่กับกฎหมายและนโยบายของประเทศว่าจะเอื้อประโยชน์มากน้อยเพียงไร
สิ่งที่เราต้องเข้าใจเป็นอันดับแรกก็คือก่อนที่ประเทศไทยจะก้าวมาสู่ยุค 4.0 นั้นเราเริ่มต้นมาจากยุค 1.0 คือเป็นสังคมเกษตรกรรมเน้นผลิตและขายวัตถุดิบเกษตรทั่วไปหลังจากมีเริ่มต้นพัฒนาภาคเกษตรกรรมต่อมาจึงค่อยปรับมาสู่ยุค 2.0 เน้นการลงทุนอุตสาหกรรมเบาที่มุ่งเน้นแรงงานราคาถูกเช่น สิ่งทอ อาหาร ต่อมาก็เป็นไทยแลนด์ 3.0 มุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมหนักและเรื่องของการส่งออกซึ่งการพัฒนาของประเทศไทยใน 3 ยุคแรกนั้นไทยมีการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงสุดเฉลี่ยถึง 7% ต่อปีแต่มาถึงจุดหนึ่งหลังปี 2540 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงมาเป็น 3-4% ต่อปีที่เป็นเช่นนั้นเพราะไทยไม่เคยปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจังมาก่อนและไม่เคยมีการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองแรงงานไม่ได้มีทักษะจนกลายเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำของโอกาส
แต่สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในตอนนี้ก็คือเรายังติดอยู่กับยุค 3.0 คือยังมีความคิดแบบ “ทำมากได้น้อย” อยู่แต่ตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนแล้วเมื่อเราก้าวสู่ 4.0 เราจะต้องเน้น “ทำน้อยได้มาก” เปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ธรรมดาให้กลายมาเป็นสินค้าแบบนวัตกรรมคือเปลี่ยนเปลี่ยนจากการเกษตรแบบดั้งเดิม (Traditional Farming) ไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ (Smart Farming) ภาคอุตสาหกรรมก็ต้องมีแผนธุรกิจใหม่ต้องหันมาสนใจเรื่องเทคโนโลยีเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะหุ่นยนต์ และระบบเครื่องกลที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยควบคุมการผลิตคือต้องรู้และเข้าใจหลักการในการบริหารการพัฒนาผลิตผลให้มีปริมาณที่มากและมีคุณภาพดีไปพร้อม ๆ กันอย่างนี้เป็นต้นโดยภาครัฐจะช่วยส่งเสริมเรื่องของการวิจัยและพัฒนาตรงส่วนนี้ด้วย
“การเปลี่ยนแปลงของโลกยุค 4.0 มีทั้งวิกฤติและโอกาสในเวลาเดียวกันวิกฤติก็คือบริษัทที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนแปลงไม่ทันท้ายสุดก็อาจต้องล้มละลายไปแต่ส่วนตัวมองว่ามีโอกาสมากกว่าวิกฤติ”
ธนินท์ เจียรวนนท์
เป็นการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากในชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนโดยภาครัฐจะให้การส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมส่งเสริมและสนับสนุนให้ SMEs แบบเดิมไปสู่การเป็น Smart Enterprises และ Startups ที่มีศักยภาพสูงสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลกได้อย่างมั่นใจโดยจะพยายามผลักดันให้กลุ่ม Startups รุ่นใหม่งัดเอาความรอบรู้ในเรื่องเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นเทรนด์กระแสโลกออกมาใช้เขียนแผนธุรกิจควบคู่ไปกับการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ๆ ที่สอดคล้องซึ่งจะนำไปสู่การผลิตนวัตกรรมใหม่อันทรงคุณค่าที่จะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งเรามีโอกาสที่จะได้เทคโนโลยีการเกษตร (Agritech) เทคโนโลยีอาหาร (Foodtech) เทคโนโลยีสุขภาพ (Healthtech) E–Marketplace และอื่น ๆ อีกมากมายจากการส่งเสริมของภาครัฐในส่วนนี้ซึ่งภาครัฐก็ประกาศตัวแล้วว่าสนับสนุนเต็มที่แหล่งเงินทุนต่าง ๆ ก็เตรียมหการสนับสนุน Startups ไอเดียเลิศกันอยู่แบบนี้สิถึงเรียกว่า “ฝันมีโอกาสเป็นจริง”
การสร้างความมั่งคั่งของไทยในอนาคตข้างหน้านี้จะไม่เน้นเรื่องของการผลิตอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างเดียวในคณะที่มีการผลิตก็จะหันกลับมาสนใจการบริหารการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างคนกับทรัพยากรธรรมชาติไปด้วยอีกทั้งยังหันมามุ่งเน้นเรื่องของ High Value Services มากขึ้นด้วยทั้งหมดนี้จัดว่าเป็นสิ่งที่องค์กรธุรกิจต่าง ๆ จะต้องใส่ลงไปในแผนธุรกิจอีกด้วยเป็นการเปลี่ยนจากการผลิตสูงแบบไม่ลืมหูลืมตาไม่สนใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องบริการคือยังยืดรูปแบบ Traditional Services ซึ่งเป็นการบริการที่ไม่ดีและมีมูลค่าต่ำมาสู่การสนใจเรื่องทรัพยากรธรรมชาติพร้อมกับยกระดับการบริการมูลค่าสูงควบคู่ซึ่งตรงนี้ทางภาครัฐจะมุ่งเน้นศึกษาและให้ความสำคัญกับเรื่องของพลังงานทดแทนควบคู่ไปกับการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีทักษะความรู้ความเข้าใจในวิชาชีพมีความเชี่ยวชาญในงานและต้องเข้าใจถึงเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในงานที่ทำด้วยเมื่อภาครัฐมองเห็นความสำคัญกันขนาดนี้ประเทศไทย 4.0 จึงเป็นไปได้ไม่ใช่เรื่องฝันอีกต่อไป
Trade
Services
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…
บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…
อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…
ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…
พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…
ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…
This website uses cookies.
View Comments