
เราต้องเป็นประชาชนที่อยู่ในประเทศที่ต้องซื้ออากาศหายใจจริงๆเหรอ?
ฝุ่นพิษกำจัดได้หรือไม่?
รัฐบาลมัวแก้ไขปัญหาอะไร ?
.
นั่นเป็นคำถามที่ค้างคาใจประชาชนคนไทยทุกคน โดยเฉพาะในกรุงเทพและ 17 จังหวัดภาคเหนือ…ในเมื่อหน่วยงานรัฐก็ระบุได้ถึงปัญหา สาเหตุของการเกิด PM2.5 แต่เพราะเหตุใดปัญหาดังกล่าวจึงเกิดขึ้นทุกปี และมีแนวโน้มที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง
.
หรือชีวิตของชาวบ้าน ตาสีตาสานั้น ไร้ค่า..ไม่เทียบเท่าเหล่าผู้บริหารบ้านเมือง….
.
ต้องยอมรับว่า มาตรการการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ เป็นแค่มาตรการชั่วครั้ง ชั่วคราว…. ทั้งการพ่นละอองไอน้ำ เพื่อลดฝุ่น ล้างพื้นล้างถนน ขอความร่วมมือให้ชาวบ้านหยุดเผาไร่ เป็นต้น แค่ฟังดูก็รู้ว่า ทำเป็นครั้งเป็นคราว แก้ไขเป็นครั้งๆ ตามเสียงบ่นของชาวบ้านตาดำๆ พอเวลาผ่านพ้นไป อากาศดีขึ้นก็เลิกสนใจ เลิกทำ… ทำให้ประเทศไทยวนเวียนกับปัญหาเหล่านี้ มาอย่างน้อย 3-4 ปี และเชื่อสิ ปีหน้าก็จะเกิดขึ้นอีก….แล้วก็จะเห็นผู้บริหารประเทศ ผู้บริหารเมืองทำแบบเดิมๆ จนกว่าอากาศจะดีขึ้น
.
รู้ไหมว่า ฝุ่นพิษที่ 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลร้ายต่อร่างกายเท่าบุหรี่ 1 มวน คิดง่ายๆ คนไทย กำลังสูบบุหรี่ 1 มวนทุกวัน ปีละ 365 วัน ก็ 365 มวน แล้วจะไม่เป็นมะเร็งปอดกันได้อย่างไร…

ลองมองไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่เผชิญวิกฤตฝุ่นพิษ… จีนดูจะเป็นประเทศที่น่าสนใจที่สุด เพราะเมืองใหญ่ของจีน เคยมีค่าฝุ่นพิษสูงมากกว่า 1,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เทียบเท่าการสูบบุหรี่ 45 มวนต่อวัน
.
สาธารณรัฐประชาชนจีน เคยถูกประณามจากนานาชาติ ก่อนการจัดกีฬาโอลิมปิกในปี 2008 ว่าเป็นประเทศที่มีอากาศเลวร้ายที่สุด แต่จีนมองความบกพร่องนั้นเป็นโอกาสและผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ และยังได้รับโอกาสใหม่ของประเทศ จากการเติบโตของอุตสาหกรรม รถยนต์และจักรยานยนต์ไฟฟ้า จนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจในด้านนี้ แซงหน้าประเทศชั้นนำของอุตสาหกรรม
.
บุรินทร์เจอนี่ จะพาคุณไปส่องมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษของจีน เปรียบเทียบกับประเทศไทย แล้วดูว่าเราควรแก้ไขอย่างไร…
.
จีนวิเคราะห์ สาเหตุของการเกิดมลพิษและ PM2.5 มาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมือง และการไม่ได้มาตรฐานของโรงงานอุตสาหกรรม ให้เกิดมลพิษขึ้นจากทุกทาง ทั้งฝุ่นควันจากไอเสียจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน ขณะที่ความท้าทายคือต้องจัดการผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนงานโอลิมปิก 2008
.
สิ่งที่ผู้นำประเทศของจีนทำ คือ การบังคับใช้กฎหมายอย่าจริงจัง ออกมาตรการที่เหมาะสม และประกาศแนวทางส่งเสริมเพื่อให้เกิดการลด PM2.5
.
การบังคับใช้กฎหมายอย่างเช่น การสั่งปิดโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะโรงงานที่ใช้บอยเลอร์ที่มาจากการเผาไหม้ถ่านหิน ที่ก่อให้เกิดมลพิษเป็นจำนวนมาก ทางการได้สั่งปิดโรงงานเหล่านี้และให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงานให้มีมาตรฐานและไม่ปล่อยมลพิษ
