พูดถึงอาหารแห่งอนาคต หลายคนยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวและเข้าถึงยาก  ซึ่งในปัจจุบันหลาย ๆ แบรนด์กำลังเริ่มปรับตัวทีละน้อย เพื่อให้คนคุ้นเคยกับเรื่องของวัตถุดิบทดแทน ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนจากพืช โปรตีนจากแมลง  วันนี้เราจะมาคุยกับเจ้าของโปรเจ็กต์พัฒนาอาหารแห่งอนาคตกัน

Mah Noi Food Lab สรรค์สร้างรสชาติใหม่จากวัตถุดิบท้องถิ่น

บุรินทร์เจอนี่พูดคุยกับเชฟหนุ่ม – วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ และ เชฟ Curtis Hetland ทีมเชฟจากหมาน้อยฟู้ดแล็ป (Mah Nou Food Lab) ผู้สนใจด้านการพัฒนาอาหารแห่งอนาคต

ซึ่งที่มาที่ไปของโปรเจกต์ที่ว่านี้ เชฟหนุ่ม และเชฟ Curtis ได้ชักชวนกันมาทำโปรเจกต์ “หมาน้อยฟู้ดแล็ป” โดยเริ่มทำมานานกว่า 7 เดือนแล้ว ทั้งคู่ตั้งใจร่วมกันต่อยอดภูมิปัญญาอาหารท้องถิ่น และนำวัฒนธรรมอาหารไทยออกไปเผยแพร่ในต่างประเทศ โดยเริ่มจากภาคอีสาน ทั้งคู่เน้นเรื่องการหมักดองและเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อสร้างรสชาติใหม่ ๆ จากวัตถุดิบท้องถิ่นออกมาในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถเปิดขวด เช่น น้ำปลาจากแมลง น้ำส้มสายชูหมักจากผลไม้ท้องถิ่น ฯลฯ

เชฟ  Curtis ยกตัวอย่าแป้งตอร์ติญ่า จากเมล็ดขนุน เมล็ดพืชที่คนมักโยนทิ้งไป แต่เชฟ Curtis มองว่าเป็นเมล็ดพืชที่มีสารอาหารมากมาย มีโปรตีนสูง

ไอเดียอาหารไทยในอนาคต โดย Mah Noi Food Lab

ไม่เพียงแค่เม็ดขนุนที่ถูกนำมาพัฒนา พวกเขายังทดลองใช้ภูมิปัญญาของคนจีนในการทำเต้าเจี้ยว และคนญี่ปุ่น ที่ทำมิโซะ โดยลองใช้ถั่วดิน ซึ่งเมื่อนำไปใช้ในร้านอาหาร ก็ได้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดี อร่อย จึงมีแผนที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายในระยะอันใกล้นี้

ในฐานะผู้ปรุงอาหารซึ่งอยู่ระหว่างวัตถุดิบกับผู้บริโภค เปรียบเสมือนเป็นคนนำทั้ง 2 สิ่งมาประกอบกันเพื่อให้มีความน่าสนใจ มองว่าการจะทำให้เกิดความยั่งยืนทางอาหาร ต้องเป็นการช่วยกันทุก ๆ ฝ่าย ภาครัฐก็ควรจะต้องสนับสนุนว่าจะทำอย่างไรให้มันเป็นมาตรฐานที่ชัดเจน และช่วยผลักดันให้มันเกิดขึ้นได้จริง ๆ

ในประเทศไทย ยังมีวัตถุดิบที่เต็มไปด้วยสารอาหาร แต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อีกมากมาย เชฟ Curtis จึงมองว่าโอกาสของอาหารไทยในการเป็นส่วนผสมสำหรับอาหารในอนาคตยังไปได้อีกไกล อาจจะต้องใช้เทคนิคทำให้โปรตีนทางเลือกอย่างเช่นแมลงที่หลายคนอาจไม่กล้าลอง ไม่รู้สึกแคลงใจ รับประทานแล้วอร่อย ลบภาพจำเดิม ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่ดีในการรับประทาน

Passion in this story