บุรินทร์เจอนี่จะพาไปรู้จักกับคำว่า “ความหลากหลายทางชีวภาพ” และนวัตกรรมทางการเงินกับการทำงานของ BIOFIN  ทั้ง 2 อย่างจะทำงานไปด้วยกันได้อย่างไร เรามีตัวอย่างมาเล่าให้ฟังครับ

BIOFIN ขับเคลื่อนความยั่งยืนอย่างไร

          ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นเรื่องที่มีความสำคัญระดับโลก จึงจำเป็นต้องมีการประชุมของสมาชิกภาคีที่ร่วมกันขับเคลื่อนอนุสัญญาความหลากหลายทางชีวภาพ (The Convention on Biological Diversity : CBD) สาระสำคัญของการประชุมคือ ทุกประเทศสมาชิกกำลังพิจารณาร่างกรอบที่เรียกว่า “กรอบงานของความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลกในยุคหลังปี พ.ศ. 2563” (Post 2020 Global Biocity Framework) 

        ในปี 2012 ปี ปีนั้นเป็นปีสำคัญที่ถือกำเนิดโครงการระดับโลกที่เรียกว่า BIOFIN เนื่องจากผู้นำประเทศต่างก็บอกว่าทุกคนได้จัดสรรงบประมาณเพื่อมาดูแลเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ แต่ไม่มีใครตอบได้ว่าจัดมาเท่าไหร่ จัดไปเพื่ออะไร แล้วจัดไปทำอะไร BIOFIN จึงเป็นโครงการริเริ่มเพื่อการลงทุน และดูแลความหลากหลายทางชีวภาพในระดับโลกของ UNDP

BIOFIN ขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า

          เรื่องนวัตกรรมการเงิน BIOFIN ต้องการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เนื่องจากการท่องเที่ยวยังเป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องพึ่งพาเป็นรายได้หลัก หากนโยบายปัจจุบันของรัฐก็คือการเพิ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง ก็ทำเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือการที่ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อมาดูแลสิ่งแวดล้อม

        ยกตัวอย่าง โครงการที่ เกาะเต่า มีการเก็บเงินของผู้ที่มาใช้บริการระบบนิเวศ นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาดำน้ำดูปะการังเขาพร้อมที่จะจ่ายเงิน และเงินตรงนั้นควรจะกลับเข้ามาสู่รัฐบาลท้องถิ่น เพราะคนเหล่านั้นรู้ว่าต้องนำเงินไปดูแลบ้านตัวเองอย่างไร

        “ความหลากหลายทางชีวภาพ คือ ความหลากหลายของธรรมชาติ เราอาจนึกถึงว่าธรรมชาติเป็นของฟรี แต่ไม่ใช่ เพราะธรรมชาติมีค่า ถ้าเราขาดผึ้งไป ห่วงโซ่ของอาหารของโลกเราจะล่มสลาย เวลาทำนโยบายเศรษฐกิจ จึงอยากให้ทุกภาคส่วน แม้แต่ทางภาคเอกชนเองมีมูลค่าของสิ่งแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง” นิรันดร์ นิรันนุ ผู้จัดการโครงการ BIOFIN ประเทศไทย โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP

Passion in this story