เรื่องของความยั่งยืนทางอาหารก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญและต้องเร่งหาทางออกก่อนที่ปัญหาสภาวโลกร้อนจะสายเกินแก้ วันนี้มีข่าวเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มอนาคตมาฝาก

ดื่มด่ำความขมขื่นของเบียร์โลกร้อน

          บริษัทเบียร์ New Belgium Brewing ได้จินตนาการเบียร์ในอนาคตวิกฤตภูมิอากาศ และได้ทำเบียร์ที่ชื่อว่า Torched Earth Ale เบียร์โลกไหม้ ที่ตั้งใจทำให้รสชาติเบียร์ไม่อร่อย เพื่อให้เห็นว่าในอนาคตโลกที่ร้อนขึ้นเหล่าผู้ผลิตเบียร์จะถูกบังคับให้ใช้วัตถุดิบได้เพียงแค่บางชนิด

         โดยวัตถุดิบหลักที่ใช้ในเบียร์นี้คือ มอลต์ไหม้ ข้าวฟ่าง บัควีท แทนการใช้บาร์เลย์ และข้าวสาลี เพื่อสื่อถึงอนาคตที่สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้ไม่พืชเหล่านี้ปลูกได้ยาก และใช้น้ำที่มีกลิ่นควัน สื่อถึงปัญหาไฟป่ารุนแรงที่เกิดขึ้นในแหล่งต้นน้ำสะอาด

       ผู้ผลิตต้องการสื่อสารว่าเบียร์ในยุควิกฤตโลกร้อนในอนาคตจะมีรสชาติค่อนข้างแย่ และทำให้รู้สึกสกปรก และนี่คงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ จึงต้องการสร้างความตระหนักให้ภาคส่วนต่าง ๆ เร่งแก้ไขปัญหา และสร้างความเปลี่ยนแปลง ก่อนที่จะสายเกินไป

กำหนดชะตาโลกด้วยนมที่เราดื่ม

           การผลิต “ผลิตภัณฑ์อาหาร” ที่มาจากสัตว์ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนมที่เราดื่มก็มีผลต่อการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศเช่นกัน

          ถ้าเราเปลี่ยนมาใช้นมทางเลือกแทน ก็จะทำให้ค่าคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าในกาแฟถ้วยนั้นลดลงไปถึงครึ่งหนึ่งด้วย ดังนั้นมาดูกันว่านมชนิดต่าง ๆ ปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์กันเท่าไหร่บ้าง

          นมวัว 1 ลิตร สร้างก๊าซเรือนกระจกถึง 3.2 kg ต้องใช้น้ำถึง 628 ลิตร และใช้พื้นที่มหาศาลเนื่องจากมีวัวนมอยู่ประมาณ 270 ล้านตัวทั่วโลก

           นมโอ๊ต 1 ลิตร สร้างก๊าซเรือนกระจก 0.9 kg ใช้น้ำเพียง 48 ลิตร และใช้พื้นที่น้อยกว่า 80% เมื่อเทียบกับนมวัว

          นมอัลมอนด์ 1 ลิตร สร้างก๊าซเรือนกระจก 0.7 kg ใช้น้ำถึง 371 ลิตร ซึ่งใช้น้ำมากกว่านมโอ๊ตถึง 8 เท่าตัว

         นมถั่วเหลือง 1 ลิตร สร้างก๊าซเรือนกระจก 1 kg ใช้น้ำเพียง 28 ลิตร

Passion in this story