สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่คนไทยประสบอยู่ในปัจจุบัน ทำให้เกิดผลกระทบในหลายๆด้าน โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ 😷 บุรินทร์เจอนี่ลุยไปสอบถามผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.สุรัตน์ บัวเลิศ คณบดีคณะสิ่งแวดล้อม ม.เกษตรศาสตร์ ว่าสาเหตุที่แท้จริงของปัญหานี้คืออะไร? แล้วเราจะอยู่สู้กับมันได้อย่างไร ตามไปชมกันเลยครับ
https://youtu.be/6Kj1CHHvli4
ตอนนี้ถ้าคุณคิดจะออกนอกบ้าน หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง สิ่งที่จะต้องไม่ลืม อย่างแรกก็คือ หน้ากากอนามัยหรือ หน้ากากกันฝุ่นนั่นเอง เพราะเราไม่รู้ว่า เมื่อเราก้าวออกจากบ้านไป อากาศที่เราสูดเข้าไปจะมีการปนเปื้อนหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นPM 2.5 หรือ โรค และไวรัสใหม่ๆ อย่างโคโรนา ชื่อทางการว่า COVID-19 อีกด้วย ฉะนั้น ป้องกันตัวเองดีที่สุด
ต้นตอของปัญหา PM 2.5 มาจากปัจจัยหลักๆ แบ่งเป็น 3 อย่าง
- การปล่อยไอเสียจากการจราจร ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นอยู่ประมาณ 52%
- การเผาป่า เผาพืชสวน ไร่ นา ต่างๆ อยู่ที่ประมาณ 30 กว่าเปอร์เซ็น
- มาจากปัจจัยอื่น ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรม มาจากกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคเช่น สเปรย์ที่เราฉีดพ่นก็มีส่วนเพิ่มปริมาณฝุ่น PM 2.5 ได้เช่นเดียวกัน
ต้นตอของ PM 2.5 มาจากไหน
ตามข้อมูลที่หน่วยงานราชการส่วนใหญ่ให้ คือ การทำองค์ประกอบทางเคมีของมันโดยเก็บข้อมูลทั้งปี แล้วมาบอกว่ามันมาจากการจราจร จากการเผาไหม้ นี่คือข้อมูลทั้งปีเฉลี่ยออกมาเป็นภาพแบบนั้น
แต่สิ่งที่เราพบโดยการใช้ KU Tower ในการตรวจวัด มันจะมีแพทเทิร์นของการเกิดฝุ่นในช่วงเวลาแต่ละช่วงเวลาไม่เหมือนกัน บางช่วงเวลาเป็นฝุ่นที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บางช่วงเวลาเป็นฝุ่นที่มาจากในพื้นที่บวกกับฝุ่นที่ลอยมาจากข้างนอกเข้ามา และสิ่งสำคัญที่สุดที่เราเจอระยะหลังนี้ก็คือ ในช่วงเวลาที่มันมีโอโซนสูง มีความเข้มข้นของแดดสูง สิ่งที่ตามมาก็คือการเกิดปฏิกิริยา photochemical Reaction ทำให้เกิดก๊าซโอโซนขึ้น และ ก๊าซโอโซนจะไปทำปฏิกิริยากับสารอินทรีย์ที่มีอยู่ในอากาศ ทำให้เกิดเป็นละอองลอยเล็กๆ เป็นเหตุให้ฝุ่นละอองเฉพาะ PM 2.5 สูงขึ้นมาในช่วงเวลานั้น
แต่ละพื้นที่แต่มันจะมีลักษณะพื้นที่ที่ไม่เท่ากัน ลมก็จะมีผลต่อการกระจายตัวของตัวฝุ่น ระยะทางจากจากจุดที่เรารับถึงแหล่งกำเนิดก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งเช่นเดียวกัน ทั้งหมดเหล่านี้มันก็ทำให้ค่าฝุ่นแปรเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าคุณอยู่ตึกสูงๆแล้วคุณจะคิดว่าอากาศบริสุทธิ์กว่า
ถ้าฝุ่นมีความเข้มข้นมากขึ้น พอเราสูดหายใจเข้าไป โอกาสที่เนื้อเยื่อ เยื่อบุ และระบบทางเดินหายใจของเราจะเกิดการระคายเคืองก็มีมากขึ้น การละคายเคืองจะตามมาด้วยเรื่องของการติดเชื้อ ซึ่งจะเป็นเชื้ออะไรขึ้นอยู่กับเราอยู่บริเวณไหน นอกจากนั้น ฝุ่นอาจจะมีสารที่เป็นอันตรายปะปนอยู่แตกต่างกันไป
เมื่อสิ่งต่างๆ เหล่านี้เข้าไปในร่างกาย ถ้าเราอยู่ใกล้ริมถนนฝุ่นละอองนั้นก็มาจากการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์ สิ่งที่ตามมาก็คือองค์ประกอบที่มาจากการเผาไหม้ของน้ำมัน ก็จะมีอันตรายมากกว่าการเผาไหม้ชีวมวล เพราะพวกนี้มันเข้าไปได้ลึกถึงเยื่อบุปอด แต่ถ้าเป็นฝุ่นที่มาจากเกลือ หรือธรรมชาติจะไม่อันตราย อย่างมากก็ทำให้เกิดการระคายเคือง
ปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวช่วยได้ไหม
แน่นอนครับผมเชื่อเสมอว่าต้นไม้เป็นทางออกที่ดีที่สุด สิ่งสำคัญประการแรกเมื่อปลูกต้นไม้ในพื้นที่สีเขียว มันจะทำให้พื้นที่ตรงนั้นไม่ปลดปล่อยฝุ่นละอองที่มาจากมนุษย์ และ เมื่อไหร่ต้นไม้เป็นแถวเป็นแนวจะมีคุณสมบัติเป็นแนวกันลม ซึ่งช่วยให้ฝุ่นละอองที่พัดมาตกแถวบริเวณนั้น รวมถึงน้ำที่มาจากการระเหยจากการคายน้ำของพืช จะเพิ่มความชุ่มชื้นให้ฝุ่นละอองเหล่านั้นสามารถตกได้ง่ายยิ่งขึ้น นี่คือเทคโนโลยีของธรรมชาติ
Note
หอคอย KU Tower จะมีการเก็บข้อมูลเรื่องของการทดสอบคุณภาพอากาศในแต่ละระดับความสูง ซึ่งแต่ละระดับความสูงนั้นสามารถบ่งบอกที่มาของสภาพอากาศว่ามีการปนเปื้อน หรือมีฝุ่น PM 2.5 หรือไม่ และมาจากแหล่งใด KU Tower เป็นหอคอยที่ใช้ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ซึ่งก็ถือว่าเป็นแห่งแรก แห่งเดียวในประเทศไทย
If you decide to get out of home or do any outdoor activity now, don’t forget to wear face mask. As we step out of home, we don’t know the air we breathed in contaminated with PM 2.5 any disease or novel virus such Coronavirus or officially called COVID-19 or not?
Thus, protect yourself is the best way you can do. However, the cause of PM 2.5 can be derived from many factors, mainly from these three; first, it is from vehicle emissions, equivalent to 52 %.later, they are from forest burning and agricultural fires, these are around 30%. And the rest are from other factors such as industrial emissions, and consumer products such as spray. All these attribute to the increasing of PM 2.5
What is the cause of PM 2.5?
According to data collected by many governmental offices for many years that looked into chemical components. It pointed that PM 2.5 derived from traffic and incineration. These are what the government found from all year round data collection, but for what we found from KU Tower, there are different patterns of PM 2.5 in specific period of time. Some time, it is PM 2.5 generated at the area. whilst we see also PM 2.5 at the area plus with those blowing in from other place. Importantly, we found recently that during the time when ozone is high plus intense of solar, there will be photochemical reaction causing ozone and that ozone will react with organic particles in the air resulting in aerosol particle and this causes PM 2.5 to increase at that time.
Each location will have its specific character wind also affect on PM 2.5 spread. The distance we get PM 2.5 and its origin also another factor changing PM 2.5 concentration. So living in high – rise building does not guarantee that you will get fresh air.
As PM 2.5 concentration is increasing, when we inhale, there is possibility that our tissue and lining including respiratory system will be irritated. Following the irritation is inflammation. What is the cause of infection is up to location we are. Later, PM 2.5 may consist of different toxic particles.
When these enter in our bodies, if you live near the road, those may come from vehicle’s fuel combustion. The particles derived from fuel combustion, will be more harmful than those from bio mass combustion. As it can enter deeper penetrating our lung. Compare to those from salt or organic items these are harmless, only causes irritation.
Does growing plant can help mitigate this problem?
Surely, I believe that planting tree is the best solution. Once we plant a tree, that place will be free from man-made PM 2.5. Second, when trees grew in line, these will create wind shield and help dropping down those blowing particles. Third, fluid from dehydration process of trees will
increase humidity at the area and facilitate the particles to drop out quicker and easier. All these, in my point of view, is natural technology. Nature helps us solve problem.
Note
KU Tower collects data on air quality test at different levels of height. Each level of height tell us status of air; does it contaminated or where PM 2.5 are from? KU Tower, the tower with equipments monitoring of microclimate and air pollutants first and only one in Thailand.
ขอขอบคุณ : สิ่งแวดล้อมเกษตร – ASRG
#บุรินทร์เจอนี่ #burinsjourney #theake #PM25 #ฝุ่น #Sustainability
Category: