Categories: Blue Carbon Society

สัมภาษณ์พิเศษ ผู้กำกับและผู้สร้างสารคดีดัง Earth: One Amazing Day

4.5 / 5 ( 2 votes )

ทีมงาน PassionGen ได้มีโอกาสสัมภาษณ์แบบสุด Exclusive กับผู้กำกับ Richard Dale และโปรดิวเซอร์ Stephen McDonogh ที่แวะมาเยือนไทย ในงานเปิดตัวภาพยนตร์สารคดี Earth: One Amazing Day มาพบกับบทสัมภาษณ์พร้อมแนวคิดในการเล่าเรื่องที่สดใหม่ ในการทำภาพยนตร์สารคดี ที่มีการใช้เทคโนโลยีสุดล้ำมาเป็นตัวช่วยให้คุณมองโลกได้สวยงาม และลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

 

ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณได้เห็นพฤติกรรมของสัตว์ป่ามามากมาย คุณคิดว่าสัตว์ป่ากับสัตว์เลี้ยงมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

Richard: หลาย ๆ ครั้งสัตว์ป่าก็แอบคล้าย ๆ กับสัตว์เลี้ยงนี่แหละ ผมคิดว่าจุดประสงค์ของเราในการทำภาพยนตร์นี้คือเราตั้งใจจะนำเสนอว่า โลกที่เรากำลังอาศัยอยู่นั้นน่าอัศจรรย์ขนาดไหน สิ่งที่เราโฟกัสมากคือสัตว์ธรรมดา ๆ ที่อยู่อาศัยทั่วไปนั้นก็มีเรื่องที่น่าเหลือเชื่อไม่แพ้สัตว์ที่น่าอัศจรรย์อย่างที่เราเห็นในสารคดีต่าง ๆ เพราะสุดท้ายแล้วโลกใบนี้ก็เป็นที่อยู่อาศัยของพวกเราทุกคน ถ้าเรามองไปรอบ ๆ ให้ลึกขึ้น เราก็จะมองเห็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อีกมากมาย

Stephen: สิ่งที่ทำให้เราต้องใช้เวลาในการถ่ายทำอยู่นานมาก เพราะเราต้องเรียนรู้พฤติกรรมของสัตว์ต่าง  ๆ อย่างละเอียด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ กว่าจะบันทึกมาเป็นภาพได้อย่างครบถ้วนต้องใช้การสังเกตอย่างยาวนาน

ในตอนแรกเริ่มของภาพยนตร์ เราโฟกัสภาพไปที่ตัวเซอร์วัล (Serval Cat) ที่อาศัยอยู่ในแอฟริกา ซึ่งดู ๆ ไปแล้วก็ไม่ได้แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงทั่ว ๆ ไปเลย เหมือนแมวที่เราเลี้ยง ๆ กันอยู่นี่แหละ ถ้าเป็นแบบนั้นเราก็จะเข้าใจพฤติกรรมของพวกเค้าดีอยู่แล้ว การถ่ายทำมันก็จะง่าย

ความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์ป่ากับช่างภาพในสถานที่ก็เป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะคนถ่ายต้องศึกษาและเก็บภาพให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องทำตัวให้ไม่น่าสนใจจนสัตว์เหล่านั้นเมินเฉย การถ่ายทำนั้นเราต้องแน่ใจว่าเราจะไม่เป็นการรบกวนสัตว์เหล่านั้น เพราะหากเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นมา พฤติกรรมพวกเขาก็จะผิดธรรมชาติ เพราะสภาพแวดล้อมผิดธรรมชาติ พวกเขาไม่ใช่สัตว์ที่ถูกเลี้ยงดูมา ดังนั้นทุกอย่างกลายเป็นสิ่งใหม่สำหรับพวกเขาหมด

ตัวอย่างง่าย ๆ คือโดยทั่วไปเราจะพยายามถ่ายภาพด้วยเลนส์ที่สามารถบันทึกภาพได้ชัดในระยะไกล สัตว์เหล่านั้นดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าช่างภาพของเราอยู่ตรงนั้น ทว่าภาพที่ได้มันก็จะปะติดปะต่อยาก แต่ทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ขนาดเล็กลง พกพาได้ง่ายขึ้น ตอนนี้เราสามารถถ่ายทำในระยะที่ใกล้ชิดได้โดยไม่ก่อกวนชีวิตของพวกเขา ซึ่งหมายความว่าเราก็สามารถเข้าถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของสัตว์เหล่านั้น เข้าไปในโลกเดียวกับพวกเขาจนเหมือนอยู่อาศัยด้วยกันมาในบ้านหลังเดียวกัน

เหตุผลอะไร หรือแรงบันดาลใจแบบไหนที่ทำให้คุณต้องการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมา

Richard: เพราะทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีที่ดีขึ้น ได้ภาพที่ดีขึ้น ได้ภาพที่ใกล้ขึ้น เราสามารถถ่ายทำภาพที่คมชัดทั้ง  ๆ บริเวณนั้นมืดมิดได้ เราจึงสามารถเล่าเรื่องราวของสัตว์ป่าได้มากกว่าที่เคยทำ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาแบบไหน หรือที่อยู่อาศัยแบบใด เราก็สามารถนำเสนอชีวิตของพวกเขาออกมาได้ เราอยากนำเสนอสิ่งเหล่านั้นออกมา

ระหว่างการถ่ายทำ พวกคุณพบปัญหามากแค่ไหน

Stephen: กล้องพังกันทุกวันเลย (ฮา) เราต้องเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและเข้าถึงค่อนข้างลำบาก อย่างตอนที่เราต้องการถ่ายภาพที่เกาะแห่งหนึ่งซึ่งเป็นเกาะที่มีเพนกวินอยู่อาศัยมากที่สุด น่าจะสักล้านกว่าตัว เราใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้นในการถ่ายทำ แต่ก่อนหน้านั้นเราใช้เวลาถึง 6 สัปดาห์ในการเตรียมพร้อม อะไรหลายอย่างไม่เป็นไปดั่งใจเรา แค่ช่างภาพลุกไปเข้าห้องน้ำแปบเดียว กลับมาอีกที กล้องถ่ายภาพของพวกเขาก็ไม่อยู่ในสภาพที่ดีนัก (ฮา)

ตอนที่เราไปที่จีน เราได้ถ่ายภาพลิงฝูงหนึ่งมา ตอนนั้นเราใช้โดรนในการถ่ายภาพ ซึ่งตอนนั้นมันเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก ซึ่งลิงก็ชอบปีนป่ายขึ้นที่สูง เราต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะเก็บภาพมาได้ เพราะถึงโดรนจะไม่ได้เสียงดังมาก แต่มันก็ยังดังพอที่จะสร้างความรบกวนให้กับพวกเขา พวกลิงก็เลยสงสัยว่าเสียงมาจากไหน และรู้สึกไม่ปลอดภัย วิธีของเราคือเราส่งโดรนขึ้นไปเฉย  ๆ โดยไม่เก็บภาพอยู่หลายสัปดาห์ จนลิงเหล่านั้นคุ้นชินกับมัน นั่นแหละคุณถึงจะเริ่มเก็บภาพพวกเขาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

Richard: ความจริงเราสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้โดยตั้งเป้าหมายขำ ๆ เอาไว้ว่า ถ้ามีนักท่องเที่ยวจากนอกโลก เราจะเปิดโฆษณาโลกของเราให้พวกเขาเห็นแบบไหน จนรู้สึกว่า “หวาว โคตรเจ๋ง ดาวดวงนี้ต้องมาเที่ยวแล้วล่ะ”

 

อะไรในธรรมชาติที่ทำให้คุณรู้สึกอัศจรรย์ใจที่สุด

Richard: สำหรับผมที่เป็นผู้กำกับ คุณอาจจะคิดว่าผมต้องไปถึงสถานที่ แต่เปล่าหรอก เพราะว่าหน้าที่ของผมคือการจัดเรียงภาพให้สื่อสารออกมาได้ดีที่สุด ดังนั้นผมจึงตอบไม่ได้มากนัก แต่อย่างน้อยมีอยู่อย่างนึงที่ผมสนใจมากคือ ผมได้ดูฟุตเทจที่มียีราฟสองตัวทะเลาะกัน โดยที่ผมไม่รู้เหตุผล เพราะผมไม่ได้อยู่ในสถานที่จริง มาถึงผมก็เห็นมันต่อสู้กันแล้ว แต่นั่นแหละ จริง  ๆ แล้วมันมีอะไรที่น่าอัศจรรย์อยู่มากมายเลยนะ

Stephen: สำหรับผมที่เป็น Producer ผมต้องเป็นคนเลือกว่าวันนี้เราจะเก็บเรื่องราวแบบไหนกลับมา สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าน่าอัศจรรย์ที่สุดคือ บางฟุตเทจ เราก็ถ่ายทำในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียงแค่ไมล์เดียวเท่านั้น แต่เราก็ได้เห็นสิ่งสวยงามมากมาย สิ่งที่ผมอยากบอกก็คือ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในป่าลึก เราก็สามารถมองเห็นธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์โดยห่างจากท้องถนนไปเพียงระยะทางเล็กน้อยเท่านั้นเอง

Richard: คุณสามารถมองโลกที่คุณอยู่อาศัยในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนได้ ในขณะที่ทุก  ๆ วันนี้ เราอยู่กับชีวิตประจำวัน เล่นมือถือนู่นนี่นั่น สิ่งที่อยู่รอบตัวเราก็เกิดขึ้นและผ่านไปอย่างที่เราไม่เคยจ้องมองมาก่อน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นแท้จริงแล้วมันน่าอัศจรรย์จริง ๆ นะ

Stephen: ผมอยากให้คนที่ได้เข้ามาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้มองเห็น ได้มีความสุข มีแรงบันดาลใจ และรักโลกใบนี้ที่เราอาศัยอยู่ คุณไม่จำเป็นต้องพยายามเพื่อที่จะได้เห็นสัตว์ที่หายากที่สุดเพื่อรู้สึกอัศจรรย์ แค่สิ่งที่อยู่ใกล้  ๆ เราอย่างหนูที่อยู่รอบ ๆ เรา การใช้ชีวิตของพวกมันก็น่าสนใจ พวกมันเดินทางไปทั่วอย่างมีแบบแผนเหมือนกับว่ามีแผนที่อยู่ในหัว อะไรทำนองนี้

 

ถ้าคุณจะให้มนุษย์อย่างเรา ๆ ที่เป็นสัตว์โลกเหมือนกันรับบทในเรื่องนี้ คุณจะนำไปใส่ในตอนไหน อย่างไรบ้าง

Stephen: มนุษย์ พวกเรา ก็ล้วนอยู่ในภาพยนตร์นี้แหละ พวกเราอยู่ไปทั่วทุกที่ในภาพยนตร์แห่งนี้ เพราะว่าเราก็อยู่อาศัยในโลกใบเดียวกับที่อยู่ในฟิล์ม ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีเรื่องวิเศษใด  ๆ เป็นแค่ธรรมชาติที่อยู่รอบตัวบนโลกของเรา สิ่งที่อยู่ในนั้นทั้งหมดก็คือชีวิตของสิ่งมีชีวิตบนโลก เช่นเดียวกับพวกเรา ผมคิดว่ามันสำคัญมากที่เราถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยแนวคิดแบบนั้น เพราะเราไม่ได้อยากทำหนังที่บอกว่า มนุษย์ช่างเลวร้ายหรืออะไรแบบนั้น หรือเราทำลายสิ่งแวดล้อม เลิกทำเถอะ เรื่องพวกนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริง แต่วันนี้เราต้องการนำเสนอเรื่องราวของพวกเราที่อยู่อาศัยร่วมกันหมด ซึ่งเราหวังว่าทุก ๆ คนได้ดูแล้วจะมองเห็นโลกของเรามากขึ้น พร้อมกับได้เห็นว่าสิ่งที่เราทำลงไปนั้นเกิดผลกระทบอะไรบ้าง เราพยายามจะบอกเล่าเรื่องราวที่แสดงให้เห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ทั่วบริเวณของโลก และเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

มีคำสำคัญในเรื่องคำหนึ่งที่พูดว่า “ชีวิตของสิ่งรอบข้างอยู่ในมือเรา” ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงมาก ๆ เราทุกคนล้วนมีพลังในการสร้างผลกระทบต่อสิ่งรอบข้างได้ ซึ่งมันก็อยู่ที่เราจะใช้พลังนั้นแบบไหน

ผมอยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าไปถึงในจิตใจของมนุษย์ที่ได้รับชม และเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาได้คิดพิจารณามากขึ้นกับสิ่งที่ตนเองจะลงมือทำ

 

คุณคิดว่าสารคดีสร้างผลกระทบให้กับผู้คนขนาดไหน?

Richard: ผมคิดว่าทุกเฟรม และทุกคำพูดของภาพยนตร์เรื่องนี้มีสามารถสร้างผลกระทบได้อย่างมากมาย เราไม่ได้พูดถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว แต่เราใส่ทุกอณูของทุกอย่างที่แวดล้อมเข้าไปให้ทุกคนได้มองเห็น เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าในทุก ๆ วัน ทุก ๆ พื้นที่นั่นมีชีวิตที่ดำเนินไปอยู่ คุณสามารถสัมผัสธรรมชาติได้จากทุกบริเวณ

Stephen: ผมอยากให้ทุกคนมีแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะโลกใบนี้ล้วนมีเรื่องที่สามารถบันดาลใจเราได้อยู่มากมาย คุณลองนึกถึงเด็ก ๆ ที่ได้ดู ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่ ได้สัมผัสด้วยสายตาและความคิดของเด็ก ๆ มันย่อมเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ที่จริงแล้วผมอยากให้ทุกคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้รู้สึกมีความสุขกับชีวิตของคุณ และมีความสุขกับโลกที่คุณอยู่ให้มาก ๆ

 

ทุกวันนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เรามีเทคโนโลยีในการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตในทุก ๆ ด้าน ทุก ๆ วัน ทุก ๆ เวลา จนลืมมองสิ่งสวยงามรอบ ๆ ตัวที่ธรรมชาติมอบให้….ขอเพียงแค่ละสายตาจากหน้าจอสักนิด หลีกหนีจากความวุ่นวายจำเจสักหน่อย แล้วคุณจะพบกับแรงบันดาลใจจากโลกที่สวยงามและล้ำค่า ในมุมที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน…พบกับภาพยนตร์สารคดี Earth: One Amazing Day 15 มีนาคมนี้

 

Passiongen

Recent Posts

Young SME หลักสูตรสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ชู Soft Power เสริมสร้างธุรกิจยั่งยืน

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young…

6 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดธุรกิจยุคใหม่ กับ มุมมองด้านความยั่งยืน

บุรินทร์เจอนี่ พาไปรู้จักกับแนวคิด Driving People’s Actions ของบริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด และการรูปแบบการทำงานในองค์กรที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมรอบตัว โดยคุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…

9 months ago

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล “ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี” จากงาน DG Awards 2023

อธิบดีกรมสรรพสามิตรับรางวัล "ผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่นแห่งปี" พร้อมอีก 2 รางวัล จากงาน DG Awards 2023 โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ดร.…

10 months ago

Driving People’s Actions แนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์แบรนด์ สไตล์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส

ฮาคูโฮโด เฟิร์ส ฉลองความสำเร็จครบรอบ 20 ปี เผยกลยุทธ์และทิศทางธุรกิจจากประสบการณ์และ ความสำเร็จที่เน้นแนวคิดขับเคลื่อนผลลัพธ์ของแบรนด์ ด้วยการสร้างพฤติกรรมกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงโจทย์ Driving People’s Actions คุณชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…

10 months ago

พิธีปิดการอบรมหลักสูตร SML รุ่นที่ 4 ปี2566

พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 4 แก่ผู้สำเร็จการอบรม 241 คน 27 มิถุนายน 2566, กรุงเทพ:…

1 year ago

เมื่อสูงวัยต้องไปทำฟัน

ห่างหายไปนานสำหรับคอลัมน์ HiGen by Je Supaluck การกลับมาครั้งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง "ผู้สูงวัย" น่าจะนับได้จากผู้มีอายุ 50 ขึ้นไป (วัยกลางคน) นั่นล่ะคือคนที่เริ่มเข้าสู่คนยุคสูงวัย (HiGen) โดยแท้ ไม่เว้นว่าเป็นหญิงหรือชายนับแต่คริสต์ศักราช…

1 year ago

This website uses cookies.